Google แปลเนื้อหาในศูนย์ช่วยเหลือไว้หลายภาษา โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของนโยบาย อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันทางการที่เราบังคับใช้นโยบายคือเวอร์ชันภาษาอังกฤษ หากต้องการดูบทความนี้ในภาษาอื่น โปรดเลือกภาษาจากเมนูแบบเลื่อนลงท้ายหน้า
ผู้ใช้ Display & Video 360 ต้องปฏิบัติตามนโยบายของ Google Ads โปรดดูข้อจํากัดเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Display & Video 360
สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
เราต้องการให้โฆษณาทั่วทั้งเครือข่ายของ Google มีประโยชน์ มีความหลากหลาย มีความเกี่ยวข้อง และปลอดภัยต่อผู้ใช้ เราจึงไม่อนุญาตให้มีโฆษณา เนื้อหา หรือปลายทางที่พยายามหลอกลวงหรือหลีกเลี่ยงขั้นตอนการตรวจสอบโฆษณา
ตัวอย่างสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในโฆษณามีดังนี้ ดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณละเมิดนโยบาย
ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
"มัลแวร์" คือซอฟต์แวร์ที่มีเจตนาก่อให้เกิดอันตรายหรือพยายามเข้าถึงคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อกำหนดเหล่านี้มีผลบังคับใช้กับโฆษณาของคุณ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่เว็บไซต์หรือแอปของคุณโฮสต์หรือลิงก์ถึง ไม่ว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะมีการโปรโมตผ่านเครือข่ายโฆษณาของ Google หรือไม่ก็ตาม ไม่อนุญาตสิ่งต่อไปนี้
การจงใจกระจายซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือ "มัลแวร์" ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเข้าถึงคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่าง (โดยสังเขป)
- ไวรัสคอมพิวเตอร์ แรนซัมแวร์ หนอนคอมพิวเตอร์ ม้าโทรจัน รูทคิต คีย์ล็อกเกอร์ ไดอะเลอร์ สปายแวร์ ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยปลอม และโปรแกรมหรือแอปอื่นๆ ที่เป็นอันตราย
- การบังคับเปลี่ยนเส้นทาง เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักซึ่งติดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย โดยที่ผู้ใช้ไม่ได้คลิกโฆษณานั้นจริง
- โฆษณา HTML5 ที่ขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้จากหน้าเว็บของผู้เผยแพร่โฆษณา
เราถือปฏิบัติตามนโยบายนี้อย่างเคร่งครัด และถือว่าการละเมิดนโยบายนี้เป็นเรื่องร้ายแรง การละเมิดนโยบายของ Google Ads อย่างร้ายแรงเป็นการละเมิดที่ร้ายแรงมากจนถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้อย่างมหันต์ เราอาจใช้ข้อมูลจากแหล่งที่มามากกว่า 1 แห่ง ซึ่งรวมถึงโฆษณา เว็บไซต์ บัญชีของคุณ และแหล่งข้อมูลบุคคลที่สาม เพื่อพิจารณาว่าผู้ลงโฆษณาหรือปลายทางเป้าหมายนั้นละเมิดนโยบายนี้หรือไม่ เราจะระงับบัญชี Google Ads ของคุณทันทีที่ตรวจพบว่าละเมิดนโยบายนี้โดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า และคุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโฆษณากับเราอีก หากคุณไม่ได้ละเมิดนโยบายและเชื่อว่าเราตัดสินผิดพลาด โปรดยื่นอุทธรณ์และชี้แจงรายละเอียดให้เราทราบ เราจะคืนสิทธิให้กับบัญชีในกรณีที่มีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนเท่านั้น ดังนั้นโปรดตั้งใจเขียนอธิบายให้ละเอียดครบถ้วน ถูกต้อง และตรงไปตรงมา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีที่ถูกระงับ
เว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก
เว็บไซต์ที่ถูกบุกรุกคือเว็บไซต์หรือปลายทางที่ถูกดัดแปลงหรือแฮ็กโค้ดเพื่อกระทำการในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ต่อบุคคลที่สามโดยที่เจ้าของหรือผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์หรือปลายทางนั้นๆ ไม่ทราบ และมักกระทำการในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เว็บไซต์ สถานการณ์ต่อไปนี้จะทำให้ระบบไม่อนุมัติเนื่องจากเว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก
ปลายทางที่ถูกลักลอบใช้หรือแฮ็ก
ตัวอย่าง (โดยสังเขป): เว็บไซต์ที่ติดสคริปต์หรือโค้ดที่ส่งข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม เช่น โปรแกรมบันทึกบัตรเครดิต การติดตั้งมัลแวร์ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ปลายทาง การเปิดโฆษณาป๊อปอัป การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อื่น การกระทำใดๆ ต่อข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ปลายทาง การดูแลเว็บไซต์โดยใช้ระบบจัดการเนื้อหาที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่รู้จักกันดีและมีการแสวงหาประโยชน์จากช่องโหว่นั้น
ตัวเลือกในการแก้ไขปัญหา
ยืนยันโฆษณาซึ่งไม่ได้รับอนุมัติสำหรับเว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแคมเปญแบบเลื่อนลงในหมวดหมู่เมนู
- คลิกโฆษณา
- คลิกเพิ่มตัวกรองเหนือตารางสถิติ
- คลิกแอตทริบิวต์เพื่อขยายส่วนตัวกรองแอตทริบิวต์
- คลิกรายละเอียดนโยบาย
- ค้นหา "เว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก" จากนั้นคลิกใช้เพื่อตรวจสอบโฆษณาของคุณที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายเว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก
ตรวจสอบและแก้ไขโฆษณา
ตรวจสอบรายละเอียดนโยบายเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ทำให้ไม่ได้อนุมัติ เราจะแสดงโดเมนที่ถูกบุกรุกในบัญชี Google Ads ของคุณเมื่อพร้อมใช้งาน โปรดตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณและนำโค้ดที่อ้างอิงโดเมนดังกล่าวออก หากต้องการความช่วยเหลือในการแก้ไขเว็บไซต์ Google จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านความช่วยเหลือสำหรับเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็ก
ดูสถานะของเว็บไซต์หรือ URL สุดท้ายของโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุมัติ
ใช้ตัวตรวจสอบสถานะเว็บไซต์ Safe Browsing ภายนอกของ Google เพื่อตรวจสอบสถานะของเว็บไซต์หรือ URL สุดท้ายของโฆษณาที่ไม่ได้รับการอนุมัติ เมื่อเว็บไซต์ถูกปิดใช้ใน Google Safe Browsing หมายความว่าเว็บไซต์ถูกปิดใช้เนื่องจากเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจแสดงให้ผู้ใช้เห็นผ่านทางรายการข้อมูลทั่วไป เป็นต้น โปรดแก้ไขปัญหามัลแวร์ในเว็บไซต์ แล้วส่งเรื่องอุทธรณ์ผ่าน Google Search Console เพื่อนำโดเมนออกจากรายการที่ไม่ปลอดภัยของ Safe Browsing ทั้งนี้ เว็บไซต์/หน้า Landing Page ของคุณควรเปิดใช้งานอีกครั้งโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงโฆษณาหลังจากทำกระบวนการนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากโฆษณาของคุณยังไม่ได้รับอนุมัติหลังจากกระบวนการนี้ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุน
หากแก้ไขปลายทางของโฆษณาไม่ได้ ให้อัปเดตโฆษณาด้วยปลายทางใหม่ที่ไม่ถูกบุกรุก การแก้ไขโฆษณาจะส่งโฆษณาและปลายทางเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง
อุทธรณ์คำตัดสินเกี่ยวกับนโยบาย
หากคุณคิดว่าเราตรวจสอบผิดพลาดหรือคุณแก้ไขปลายทางแล้ว ให้อุทธรณ์คำตัดสินเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวโดยตรงจากบัญชี Google Ads เพื่อขอให้ตรวจสอบ หลังจากเราตรวจสอบยืนยันแล้วว่าปลายทางเป็นไปตามข้อกำหนด และทั้งโฆษณาและปลายทางเป็นไปตามนโยบายของ Google Ads ทั้งหมดแล้ว เราจะอนุมัติโฆษณาของคุณได้ หากคุณแก้ไขการละเมิดเหล่านี้ไม่ได้หรือเลือกที่จะไม่แก้ไข โปรดนำโฆษณาออกเพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีถูกระงับในอนาคตเนื่องจากละเมิดนโยบายซ้ำๆ ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อยื่นอุทธรณ์
- คลิกไอคอนเครื่องมือ ในบัญชี Google Ads
- คลิกการแก้ปัญหาที่เมนูแบบเลื่อนลงในหมวดหมู่เมนู
- คลิกตัวจัดการนโยบาย
- ค้นหาโฆษณาที่คุณต้องการอุทธรณ์ในแท็บ "ปัญหาเกี่ยวกับนโยบาย" แล้วคลิกอุทธรณ์
- เลือกทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายในส่วน "เหตุผลในการอุทธรณ์"
- คลิกส่ง
ซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์
ตามข้อกำหนดของนโยบายนี้ ซอฟต์แวร์ที่เว็บไซต์หรือแอปของคุณโฮสต์ (หรือลิงก์ถึง) ควรให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ นโยบายซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ของ Google ระบุลักษณะพื้นฐานบางอย่างของซอฟต์แวร์ที่อาจเป็นอันตรายต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ ดังนี้
- หลอกลวง โดยสัญญาว่าจะให้คุณค่าตามที่นำเสนอ แต่ทำไม่ได้
- พยายามหลอกลวงให้ผู้ใช้ติดตั้งซอฟต์แวร์หรือเป็นซอฟต์แวร์ที่ติดมากับการติดตั้งโปรแกรมอื่น
- ไม่บอกฟังก์ชันหลักและสำคัญทั้งหมดของซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ทราบ
- ส่งผลกระทบต่อระบบของผู้ใช้ในรูปแบบที่คาดไม่ถึง
- นำออกยาก
- รวบรวมและส่งข้อมูลส่วนตัวโดยไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบ
- พ่วงกับซอฟต์แวร์อื่นและไม่เปิดเผยการมีอยู่ของซอฟต์แวร์นั้น
ตรวจสอบว่าโฆษณาและปลายทางของคุณไม่ละเมิดนโยบายซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ของ Google
สถานการณ์ต่อไปนี้จะทำให้ระบบไม่อนุมัติเนื่องจากซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์
ไม่มีคำอธิบายผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนในโฆษณาหรือหน้า Landing Page
ตัวอย่าง (โดยสังเขป): ไม่มีข้อมูลประเภทผลิตภัณฑ์ (แอป ส่วนขยาย ซอฟต์แวร์) ในโฆษณาหรือหน้า Landing Page, ไม่มีความโปร่งใสเรื่องฟังก์ชันของซอฟต์แวร์, คำอธิบายฟังก์ชันของซอฟต์แวร์ต่างจากฟังก์ชันจริง
ไม่เปิดเผยนัยทั้งหมดของการติดตั้งซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ทราบ
ตัวอย่าง (โดยสังเขป): ทำการเปลี่ยนแปลงในระบบหรือการตั้งค่าเบราว์เซอร์โดยผู้ใช้ไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ทำให้ผู้ใช้ปิดใช้หรือถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ได้ยาก ไม่ระบุข้อกำหนดในการให้บริการหรือข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิสำหรับผู้ใช้ การพ่วงซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ การส่งข้อมูลส่วนตัวโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ
ตัวเลือกในการแก้ไขปัญหา
แก้ไขโฆษณาหรือปลายทางของโฆษณา
ยืนยันว่าโฆษณามีทั้งประเภทผลิตภัณฑ์และคำอธิบายฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง 1 บรรทัด
ปลายทางของโฆษณาจะต้องระบุประเภทผลิตภัณฑ์ คำอธิบายฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง 1 บรรทัด และอธิบายผลลัพธ์ทั้งหมดจากการติดตั้งซอฟต์แวร์อย่างชัดเจน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงเบราว์เซอร์หรือการตั้งค่าของผู้ใช้ หากมี การเปิดเผยหรือข้อจำกัดความรับผิดเกี่ยวกับนัยทั้งหมดที่เกิดจากการติดตั้งซอฟต์แวร์จะต้องชัดเจน (อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นได้ชัด โดยใช้ขนาดอักษรที่ใหญ่เพียงพอ) และเขียนให้เรียบง่ายชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยี
ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินเกี่ยวกับนโยบาย
- คลิกไอคอนเครื่องมือ ในบัญชี Google Ads
- คลิกการแก้ปัญหาที่เมนูแบบเลื่อนลงในหมวดหมู่เมนู
- คลิกตัวจัดการนโยบาย
- ในแท็บ "ปัญหาเกี่ยวกับนโยบาย" ให้ค้นหาโฆษณาที่คุณต้องการอุทธรณ์ แล้วคลิกอุทธรณ์
- เลือกโต้แย้งคำตัดสินหรือทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายในส่วน "เหตุผลในการอุทธรณ์"
- คลิกส่ง
ข้อได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรม
เราไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อไปนี้
การใช้เครือข่ายของ Google เพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการเข้าชมอย่างไม่เป็นธรรมเหนือผู้เข้าร่วมรายอื่นๆ ในการประมูล
ตัวอย่าง (โดยย่อ): แอฟฟิลิเอตที่โฆษณาบน Google Ads โดยขัดต่อกฎของโปรแกรมพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง การโปรโมตเนื้อหาเดียวกันหรือคล้ายกันจากหลายบัญชีโดยใช้คำค้นหาเดียวกันหรือคล้ายกัน การพยายามแสดงโฆษณามากกว่าครั้งละ 1 รายการสำหรับธุรกิจ แอป หรือเว็บไซต์
หมายเหตุ: คีย์เวิร์ดควรเหมาะสมกับเจตนาในการค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย เว็บไซต์หรือแอปที่คุณโปรโมตแต่ละรายการควรนำเสนอคุณค่าที่แตกต่างกันให้แก่ผู้ใช้ เช่น หลีกเลี่ยงการโปรโมตผลิตภัณฑ์และราคาที่คล้ายกันในปลายทางที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาโฆษณาแบบหลบเลี่ยง
การบิดเบือนองค์ประกอบโฆษณา (ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ โดเมน หรือโดเมนย่อย) เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจจับและ/หรือการดําเนินการบังคับใช้
ตัวอย่าง (โดยสังเขป): การใช้คำหรือวลีต้องห้ามที่สะกดผิดเพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ได้รับอนุมัติโฆษณา การใช้กลวิธีปรับเปลี่ยนคำที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าในข้อความโฆษณา โดเมน โดเมนย่อย หรือโลโก้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องหมายการค้านั้น การใช้อักขระ Unicode แบบไม่แสดงให้เห็นในโฆษณาซึ่งไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้แก่เนื้อหาโฆษณาสำหรับผู้ใช้ การบิดเบือนรูปภาพหรือวิดีโอเพื่อซ่อนเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย
การหลีกเลี่ยงระบบ
เราไม่อนุญาตให้ทำสิ่งต่อไปนี้
การมีส่วนร่วมในการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงหรือแทรกแซงระบบและกระบวนการโฆษณาของ Google หรือพยายามดำเนินการในลักษณะดังกล่าว
ตัวอย่าง (โดยสังเขป)
- การปิดบังหน้าเว็บจริง (การแสดงเนื้อหาให้ Google และผู้ใช้บางรายเห็นแตกต่างจากผู้ใช้รายอื่น) ที่มีจุดประสงค์หรือส่งผลให้เกิดการแทรกแซงระบบการตรวจสอบของ Google หรือเพื่อซ่อนหรือพยายามซ่อนส่วนที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของ Google Ads เช่น
- การเปลี่ยนเส้นทางไปยังเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบาย
- การใช้ DNS แบบไดนามิกเพื่อสลับหน้าเว็บหรือเนื้อหาโฆษณา
- การควบคุมเนื้อหาเว็บไซต์หรือการจำกัดการเข้าถึงหน้า Landing Page จำนวนมากจนทำให้ตรวจสอบโฆษณา เว็บไซต์ หรือบัญชีอย่างจริงจังได้ยาก
- การใช้เครื่องมือติดตามการคลิกเพื่อเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
หมายเหตุ: การปิดบังหน้าเว็บจริงไม่ได้หมายรวมถึงการปรับเปลี่ยนเนื้อหาที่ช่วยเพิ่มคุณค่าในการใช้งานสำหรับผู้ใช้บางส่วนได้อย่างแท้จริง เช่น การแปลเนื้อหาเดียวกันออกเป็นหลายภาษา หรือการแสดงเนื้อหาเดียวกันออกเป็นหลายเวอร์ชันโดยจะปรับเปลี่ยนไปตามผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ ตราบใดที่เนื้อหาที่นำเสนอยังมีความคล้ายคลึงกัน เนื้อหาในเวอร์ชันต่างๆ ยังเป็นไปตามนโยบายของ Google Ads และ Google เข้าไปตรวจสอบเนื้อหาเวอร์ชันต่างๆ ได้
- การละเมิดนโยบายทั้งแบบซ้ำๆ หรือพร้อมกันหลายๆ อย่างในบัญชีใดก็ตามของคุณ ซึ่งรวมถึงการใช้บัญชีตั้งแต่ 2 บัญชีขึ้นไปเพื่อโพสต์โฆษณาที่ละเมิดนโยบายนี้หรือนโยบายอื่นใดก็ตามของ Google Ads เช่น การสร้างโดเมนหรือบัญชีใหม่เพื่อโพสต์โฆษณาที่คล้ายกับโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากละเมิดนโยบายนี้หรือนโยบายอื่นใดก็ตามของ Google Ads
- การหลบเลี่ยงกลไกการบังคับใช้และการตรวจสอบโดยการสร้างโฆษณา โดเมน หรือเนื้อหาที่ไม่ได้รับอนุมัติในหลายๆ รูปแบบ (เนื่องจากละเมิดนโยบายนี้หรือนโยบายอื่นใดก็ตามของ Google Ads) หรือการใช้เทคนิคต่างๆ ในข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอเพื่อสร้างความสับสนในเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้ง
- การพยายามใช้ระบบ Google Ads อีกครั้งโดยสร้างบัญชีใหม่เพื่อใช้เข้าสู่ระบบ เนื่องจากบัญชีเดิมถูกระงับ
- การใช้ฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ Google Ads ในทางที่ผิดเพื่อแสดงเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายต่อผู้ใช้และ/หรือเพื่อให้มีการเข้าชมเพิ่มเติม
- การส่งข้อมูลเท็จมาในโปรแกรมการยืนยันของเรา
- โปรแกรมการรับรองด้านการพนันและเกมระบุว่าการไม่ขอการรับรองใหม่หรือการใช้ใบรับรองด้านการพนันและเกมต่อไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญตั้งแต่ส่งใบสมัครขอการรับรอง เราเข้าใจว่าที่อยู่หรือวิธีการชำระเงินของผู้ลงโฆษณาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ดังนั้นการไม่ส่งใบสมัครขอการรับรองด้านการพนันและเกมอีกครั้งหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้มีการระงับบัญชี อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องส่งใบสมัครขอการรับรองด้านการพนันและเกมอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่เป็นสาระสำคัญ ไม่เช่นนั้นบัญชีจะถูกระงับทันทีที่ตรวจพบ การเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ (ซึ่งหมายถึงต่างไปจากเดิมอย่างมาก มีจำนวนมาก หรือมีความเกี่ยวข้อง) ดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอผลิตภัณฑ์ของผู้ลงโฆษณาที่ไม่สอดคล้องกับใบอนุญาตหรือการอนุมัติที่ส่งให้ Google การเปลี่ยนแปลงแนวทางที่ผู้ลงโฆษณาปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการเปลี่ยนแปลงแนวทางที่ผู้ลงโฆษณาได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติตามข้อกําหนดอื่นๆ ของใบรับรองด้านการพนันและเกม
เราถือปฏิบัติตามนโยบายนี้อย่างเคร่งครัด และถือว่าการละเมิดนโยบายนี้เป็นเรื่องร้ายแรง การละเมิดนโยบายของ Google Ads อย่างร้ายแรงเป็นการละเมิดที่ร้ายแรงมากจนถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้อย่างมหันต์ เราอาจใช้ข้อมูลจากแหล่งที่มามากกว่า 1 แห่ง ซึ่งรวมถึงโฆษณา เว็บไซต์ บัญชีของคุณ และแหล่งข้อมูลบุคคลที่สาม เพื่อพิจารณาว่าผู้ลงโฆษณาหรือปลายทางเป้าหมายนั้นละเมิดนโยบายนี้หรือไม่ เราจะระงับบัญชี Google Ads ของคุณทันทีที่ตรวจพบว่าละเมิดนโยบายนี้โดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า และคุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโฆษณากับเราอีก หากคุณไม่ได้ละเมิดนโยบายและเชื่อว่าเราตัดสินผิดพลาด โปรดยื่นอุทธรณ์และชี้แจงรายละเอียดให้เราทราบ เราจะคืนสิทธิให้กับบัญชีในกรณีที่มีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนเท่านั้น ดังนั้นโปรดตั้งใจเขียนอธิบายให้ละเอียดครบถ้วน ถูกต้อง และตรงไปตรงมา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีที่ถูกระงับ
หมายเหตุ: เราอาจดำเนินการกับบัญชีของผู้ลงโฆษณาโดยอิงตามปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น คำเตือน คำตัดสิน หรือคำวินิจฉัยชี้ขาดกรณีที่มีการละเมิดกฎข้อบังคับ หรือการร้องเรียนโดยตรงจากผู้ใช้หรือธุรกิจต่างๆ
นโยบายเกี่ยวกับสแปมสำหรับ Google Web Search
ไม่อนุญาตสิ่งต่อไปนี้
การมีส่วนร่วมในการกระทำที่ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับสแปมสำหรับ Google Web Search โดยเฉพาะโฆษณาซึ่งนำไปยังปลายทางที่ถูกนำออกจาก Google Search แล้วผ่านการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่จะไม่ได้รับอนุมัติ เจ้าของเว็บไซต์จะได้รับแจ้งเตือนผ่าน Google Search Console เกี่ยวกับการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่