เริ่มต้นใช้งานแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

แชทกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อเติมไฟให้ไอเดียที่คุณมี รับความช่วยเหลือในการเรียนรู้ด้วยวิธีใหม่ๆ เขียนโน้ตขอบคุณ วางแผนจัดกิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย Gemini สามารถเชื่อมต่อกับแอปต่างๆ ของ Google ที่เรียกว่าส่วนขยายได้ เช่น Gmail, Maps และ YouTube จึงช่วยให้คุณทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ใช้ข้อความ เสียงพูด รูปภาพ และกล้องเพื่อรับความช่วยเหลือในรูปแบบใหม่ๆ

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณอาจเป็นแบบใดก็ได้ต่อไปนี้

  • ในระบบ Android: แอป Gemini ซึ่งรวมถึงการทำงานในฐานะผู้ช่วยดิจิทัลของคุณ
  • ในระบบ iOS: แอป Gemini หรือแท็บ Gemini ในแอป Google

ข้อสำคัญ:

 

ใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลหลัก

ในระบบ Android หากคุณตั้งให้แอป Google  เป็นแอปผู้ช่วยเริ่มต้นในอุปกรณ์ ก็สามารถเลือก Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลได้ Gemini ยังเรียนรู้อยู่ ดังนั้นเมื่อเป็นผู้ช่วยดิจิทัลหลัก Gemini จะรับความช่วยเหลือจาก Google Assistant สำหรับบางฟังก์ชัน (เช่น "Ok Google" และ Voice Match รวมถึงการดำเนินการอื่นๆ) แม้การดำเนินการบางอย่างจะยังไม่พร้อมใช้งานทันที แต่เรากำลังพยายามทำให้รองรับได้มากขึ้นเร็วๆ นี้

เมื่อใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลหลัก คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ฟีเจอร์ความช่วยเหลืออื่นๆ ในอุปกรณ์ ซึ่งอยู่นอกแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (เช่น ประสบการณ์การขับขี่) จะขับเคลื่อนด้วย Google Assistant โดยตรง
  • อุปกรณ์อื่นๆ ที่มี Google Assistant ในตัว เช่น จออัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะ ทีวี รถยนต์ สมาร์ทวอทช์ หูฟังที่พร้อมใช้งาน Assistant และ Pixel Tablet จะขับเคลื่อนด้วย Google Assistant โดยตรงต่อไป

หมายเหตุ: "Ok Google" และฟีเจอร์บางส่วนที่ก่อนหน้านี้มีให้บริการใน Google Assistant อาจไม่มีให้บริการในบางประเทศและบางภาษา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาที่แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณมีให้บริการ

สิ่งที่ต้องมี

ข้อสำคัญ: หากต้องการใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัล ให้ตรวจสอบว่าตั้งค่าแอป Google เป็นแอปผู้ช่วยเริ่มต้นในอุปกรณ์

ดูว่าแอป Google เป็นแอปผู้ช่วยเริ่มต้นในอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
  1. เปิดการตั้งค่า ในอุปกรณ์ Android
  2. แตะแอป จากนั้น แอปเริ่มต้น
  3. ดูว่าแอปที่อยู่ในรายการ "แอปผู้ช่วยดิจิทัล" คือแอป Google หรือไม่
  4. หากไม่ ให้แตะแอปผู้ช่วยดิจิทัล จากนั้น แอปผู้ช่วยดิจิทัลเริ่มต้น (ชื่อการตั้งค่าอาจแตกต่างกันในอุปกรณ์บางรุ่น) แล้วเลือกแอป Google จากตัวเลือกที่มีให้

ตั้งค่าแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

อุปกรณ์ Android บางรุ่นมี Gemini เป็นผู้ช่วยหลักที่พร้อมใช้งานทันที ให้ดำเนินการดังนี้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน Gemini ในอุปกรณ์เหล่านี้

  • เปิดแอป Gemini หรือ
  • เปิดใช้งาน Gemini ด้วยการแตะ (เช่น กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ หรือปัดขึ้นจากมุมของหน้าจอ)

ในอุปกรณ์ Android อื่นๆ ที่คุณใช้ Google Assistant หากอุปกรณ์ของคุณมีสิทธิ์ คุณจะเริ่มต้นใช้งาน Gemini ได้ดังนี้

  • ได้รับการแจ้งเตือนจาก Google Assistant ให้เปลี่ยนไปใช้ Gemini หรือ
  • ดาวน์โหลดแอป Gemini จาก Google Play Store

หากเปลี่ยนไปใช้ Gemini ผ่านวิธีการใดก็ตามเหล่านี้ Gemini จะเป็นผู้ช่วยหลักแทน Google Assistant ในอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นคุณจะเข้าใช้งาน Gemini ได้ง่ายๆ โดยการพูดว่า "Ok Google" (หากเปิดไว้) หรือใช้การแตะ แบบเดียวกับที่เคยใช้เข้าถึง Google Assistant ก่อนหน้านี้

หมายเหตุ: Gemini จะไม่แทนที่ Google Assistant ในอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณ ถึงแม้คุณจะเปลี่ยนให้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลก็ตาม ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมถึงจออัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะ ทีวี รถยนต์ สมาร์ทวอทช์ หูฟังและหูฟังเอียร์บัดที่มี Google Assistant ในตัว และ Pixel Tablet ที่ล็อกอยู่ รวมถึงอยู่ในโหมดฮับนั้น Google Assistant จะยังคงตอบสนองต่อคำว่า "Ok Google" ต่อไป

เคล็ดลับ: หากคุณเคยเลือกที่จะไม่ลองใช้ Gemini มาก่อนหน้านี้ ก็กลับมาที่ตัวเลือกนี้ภายหลังเพื่อเปลี่ยนมาใช้ Gemini ได้

เริ่มการสนทนา

คุณสามารถเข้าใช้งานแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อแชทได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และการตั้งค่า ดังนี้ 

แชทด้วยการพิมพ์

หากต้องการแชทกับ Gemini ด้วยการพิมพ์ ให้เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ พิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์บนหน้าจอ แล้วแตะส่ง นอกจากนั้นยังพิมพ์เพื่อแชทได้ในส่วนการสนทนาที่จะซ้อนทับขึ้นมาเมื่อคุณพูดว่า "Ok Google" หรือเปิดใช้งาน Gemini ด้วยการแตะ

แชทด้วยเสียงของคุณ

หากต้องการแชทกับ Gemini ด้วยเสียง ให้ทำดังนี้

  1. แตะไมโครโฟน ในแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  2. พูดคำถามหรือพรอมต์

หากแอป Google เป็นแอปผู้ช่วยเริ่มต้นของคุณในระบบ Android คุณจะเปิดใช้งาน Gemini ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • พูดว่า "Ok Google" หากเปิดใช้งานอยู่
    • หลังจากที่คุณพูดคำถามจบ ระบบก็จะอัปเดตโดยอัตโนมัติ
  • เปิดใช้งานด้วยการแตะ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามอุปกรณ์
    • กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้
    • แตะหน้าแรกค้างไว้
    • ปัดขึ้นจากมุมด้านล่างของหน้าจอ

เคล็ดลับ: หาก "Ok Google" ใช้ไม่ได้ ให้ตรวจสอบว่าเปิด "Ok Google" กับ Voice Match (ขับเคลื่อนด้วย Google Assistant) ไว้หรือไม่

  1. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อที่ด้านบน จากนั้น การตั้งค่า
  2. แตะฟีเจอร์ของ Google Assistant ใน Gemini จากนั้น "Ok Google" และ Voice Match
  3. เปิด Ok Google
  4. หากต้องการตั้งค่า Voice Match ให้ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อให้ผู้ช่วยจดจำคุณได้เมื่อพูดว่า "Ok Google"
หมายเหตุ:  "Ok Google" อาจไม่มีให้บริการในบางภาษา แต่คุณยังแชทด้วยเสียงกับ Gemini ได้เมื่อแตะไมโครโฟน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาที่แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณมีให้บริการ

แชทด้วยรูปภาพ

คุณสามารถใช้รูปภาพหรือสิ่งที่อยู่บนหน้าจอเพื่อแชทกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ 

  • หากต้องการเพิ่มรูปภาพในพรอมต์ ให้เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แล้วแตะเครื่องมือเลือกรูปภาพ
  • หากแอป Google เป็นแอปผู้ช่วยเริ่มต้นของคุณในระบบ Android คุณก็สามารถแชทถึงสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้ด้วยการเรียกใช้ Gemini แทนแอปอื่น โดยพูดว่า "Ok Google" หรือเปิดใช้งาน Gemini ด้วยการแตะ แตะเพิ่มหน้าจอนี้ แล้วถามคำถามได้เลย 
    • อย่าลืมเปิดการตั้งค่าบริบทบนหน้าจอไว้ หากต้องการตรวจสอบ ให้เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณที่ด้านบน จากนั้น การตั้งค่า จากนั้น บริบทบนหน้าจอ ตรวจสอบว่าตัวเลือก "ใช้ข้อความจากหน้าจอ" และ "ใช้ภาพหน้าจอ" เปิดอยู่

เปลี่ยนเป็น Google Assistant

คุณสามารถเปลี่ยนมาใช้ Google Assistant เป็นผู้ช่วยหลักในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตได้ที่การตั้งค่า หากต้องการทำสิ่งต่อไปนี้

  1. เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณที่ด้านขวาบน จากนั้น เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant
  3. แตะ Google Assistant จากนั้น เปลี่ยน

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนไปใช้ Google Assistant เป็นผู้ช่วยหลัก

เปลี่ยนไปใช้ Gemini

คุณสามารถเปลี่ยนมาใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยหลักจาก Google ได้ในการตั้งค่า หากยังไม่เคยใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มาก่อน ให้ดาวน์โหลดแอป Gemini จาก Google Play Store 

เปิด Gemini ในแอป Google
  1. เปิดแอป Google ในอุปกรณ์ Android
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณที่ด้านขวาบน จากนั้น การตั้งค่า จากนั้น Google Assistant

  3. แตะผู้ช่วยดิจิทัลจาก Google จากนั้น Gemini
  4. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
เปิด Gemini ในแอปการตั้งค่าของอุปกรณ์
  1. เปิดแอปการตั้งค่าของอุปกรณ์ในอุปกรณ์ Android
  2. แตะแอป จากนั้น Assistant จากนั้น ผู้ช่วยดิจิทัลจาก Googleจากนั้นGemini
  3. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนกลับไปใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยหลัก 

  • เมื่อคุณพูดว่า "Ok Google" หรือเปิดใช้งานผู้ช่วยบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยการแตะ (เช่นเมื่อกดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้) Gemini จะตอบกลับ
  • หากกิจกรรมบนแอป Gemini ของคุณเปิดอยู่ ระบบจะบันทึกข้อมูลที่คุณโต้ตอบกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไว้กับบัญชี Google ของคุณและนำไปใช้ตามที่อธิบายไว้ในประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป Gemini 
  • ระบบจะไม่ลบข้อมูลของ Google Assistant ที่บันทึกไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอปโดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถตรวจสอบและลบออกได้ทุกเมื่อ 

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่และตำแหน่งของคุณ

จะมีการเก็บข้อมูลตำแหน่งไว้เสมอหากคุณใช้แอป Gemini เพื่อให้แอป Gemini สามารถให้คำตอบที่เกี่ยวข้องกับคำถามของคุณได้ เช่น เพื่อตอบกลับพรอมต์ที่ถามประมาณว่า "อากาศเป็นยังไงบ้าง" แอป Gemini จำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลตำแหน่งที่แอป Gemini เก็บรวบรวม เหตุผลที่เก็บ และวิธีนำไปใช้

แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของอุปกรณ์ของคุณเพื่อให้คำตอบที่เกี่ยวข้องมากขึ้น แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งที่คุณเลือกไว้สำหรับแอป Google ซึ่งจะโฮสต์ความสามารถของผู้ช่วยดิจิทัลที่ทั้ง Gemini และ Google Assistant ใช้งานอยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง

วิธีตรวจสอบว่า Gemini เข้าถึงและใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณอยู่หรือไม่

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์ Android 
  2. แตะตำแหน่ง จากนั้น สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งสำหรับแอป
  3. แตะ Google
  4. ตรวจสอบว่าตัวเลือก "ใช้ตำแหน่งที่แน่นอน" เปิดอยู่หรือไม่
    • หากเปิดอยู่ Gemini และบริการอื่นๆ ในแอป Google (เช่น Search) จะสามารถเข้าถึงและใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณได้
    • หากปิดอยู่ Gemini และบริการอื่นๆ ในแอป Google (เช่น Search) จะไม่สามารถเข้าถึงและใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณ
  5. เลือกสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งสำหรับแอปเป็นอนุญาตตลอด อนุญาตขณะมีการใช้แอปเท่านั้น ถามทุกครั้ง หรือไม่อนุญาต  
เคล็ดลับ: การปิดตำแหน่งของอุปกรณ์จะส่งผลต่อฟีเจอร์และบริการอื่นๆ ที่โฮสต์โดยแอป Google เช่น สภาพอากาศและผลลัพธ์ที่อยู่ใกล้เคียงจาก Search
Android iPhone และ iPad

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
6985897279688966336
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false