การปรับยอดการจองใน Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2024 แคมเปญโฆษณาโรงแรมใหม่จะใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ทั้งต่อการเข้าพักและต่อ Conversion) ไม่ได้อีก

ทั้งนี้แคมเปญโฆษณาโรงแรมที่ใช้งานอยู่ซึ่งมีกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันจะแสดงต่อจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ดูขั้นตอนถัดไปที่ควรทำได้จากหัวข้อกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันในโฆษณาโรงแรมจะหยุดให้บริการ

หมายเหตุ: กลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) เป็นฟีเจอร์ใหม่ของการเสนอราคาอัตโนมัติสำหรับแคมเปญโรงแรม โปรดติดต่อทีมดูแลบัญชี Google เพื่อสอบถามวิธีเปิดใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ในบัญชีของคุณ

หลังจากได้รับการจองจากแคมเปญกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) แล้ว คุณต้องปรับยอดกับ Google ภายใน 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์ของการจอง

ตัวอย่าง

  • มีการจอง (Conversion) เกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคมจากแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) สำหรับวันที่เช็คเอาต์ 1 มีนาคม
  • คุณต้องปรับยอดการจองภายในวันที่ 14 เมษายน (1 มีนาคม + 45 วัน) หากไม่ปรับยอด ระบบจะถือว่ามีการเข้าพักตามการจองเสร็จสมบูรณ์แล้ว และจะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันสำหรับการเข้าพักของแขกที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
    • หากมีการเข้าพัก: ให้ทําเครื่องหมายสถานะเป็น "การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์" แล้วป้อนค่าที่ปรับยอดแล้วเป็นค่าสุดท้ายสําหรับการเข้าพักของแขก
    • หากการเข้าพักถูกยกเลิก: ให้ทําเครื่องหมายสถานะเป็น "ยกเลิกแล้ว" แล้วกําหนดค่านี้เป็น 0 แต่หากการจองถูกยกเลิกและคุณได้รับค่าธรรมเนียมการยกเลิกแล้ว ให้ระบุค่าธรรมเนียมการยกเลิกด้วย

วิธีปรับยอดการจอง

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญ แล้วคลิกชิ้นงาน
  3. คลิกโรงแรม
  4. คลิกแท็บคอมมิชชัน
  5. ดาวน์โหลดรายงานการปรับยอดโดยคลิกดาวน์โหลดที่มุมขวาบนของรายงาน
    • รายงานนี้มีให้ใช้งานทั้งในรูปแบบ .csv และ .xlsx
    • คุณกรองรายงานตามวันที่เช็คเอาต์หรือตามสถานะได้ (เช่น กรองให้เหลือเพียงสถานะ = "จำเป็นต้องปรับยอด") เพื่อดูการจองที่จำเป็นต้องปรับยอด
      ภาพเคลื่อนไหวแสดงวิธีดาวน์โหลดไฟล์การปรับยอด
  6. อัปเดตรายงานการปรับยอดเพื่อแจ้งให้ Google ทราบว่าการจองใดถูกยกเลิกหรือมีการเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว โปรดอ่านวิธีสร้างรายงานการปรับยอดอย่างละเอียดก่อนอัปโหลด
    • คุณต้องอัปเดตคอลัมน์ต่อไปนี้เพื่อทำเครื่องหมายการจองเป็นยกเลิกหรือมีการเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว
      • สถานะ: อัปเดตเป็น "การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว" หรือ "ยกเลิกแล้ว"
      • มูลค่าที่ปรับยอดแล้ว: อัปเดตมูลค่าสุดท้ายสำหรับการเข้าพักของแขกโดยใช้สกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินของบัญชี ซึ่งอาจเหมือนกันกับช่อง "มูลค่าการจอง" หากมูลค่าสำหรับการเข้าพักของแขกไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากการจองถูกยกเลิก ให้กำหนดค่านี้เป็น 0
      • นอกจากนี้ คุณยังอัปเดตคอลัมน์ต่อไปนี้ได้หากมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การจอง (Conversion) เกิดขึ้น
        • รหัสโรงแรมของพาร์ทเนอร์
        • วันที่เช็คอิน
        • วันที่เช็คเอาต์
      • คอลัมน์อื่นๆ ในรายงานจะแก้ไขไม่ได้ หากคุณแก้ไขและอัปโหลด Google Ads จะไม่สนใจค่าที่แก้ไข หรือจะปฏิเสธการจองที่แก้ไขและแสดงข้อผิดพลาด
        ภาพเคลื่อนไหวแสดงวิธีอัปโหลดไฟล์ค่าคอมมิชชันต่อการเข้าพัก
  7. บันทึกไฟล์ที่อัปเดตของคุณ
  8. ในหน้า "ค่าคอมมิชชัน" ใน Google Ads ให้คลิกอัปโหลดเพื่ออัปโหลดไฟล์

สิ่งสำคัญที่ควรทราบ มีดังนี้

  • รายงานการปรับยอดต้องสอดคล้องกับไวยากรณ์ที่อธิบายไว้ในหัวข้อสร้างรายงานการปรับยอด โปรดอ่านส่วนนี้อย่างละเอียดก่อนอัปโหลดไฟล์
  • หากคุณกำลังแก้ไขรายงานโดยใช้ Excel ให้ดาวน์โหลดไฟล์ในรูปแบบ .xlsx หากใช้ Google ชีต ให้ดาวน์โหลดในรูปแบบ .csv
  • ไฟล์ CSV หรือ Excel ของคุณเป็นของบัญชี Google Ads (รหัสลูกค้า) ทั้งบัญชี และไม่จำกัดเฉพาะมุมมองตัวกรอง แคมเปญ หรือกลุ่มโฆษณาแต่ละรายการ
    • หากใช้บัญชี Google Ads (รหัสลูกค้า) หลายบัญชี คุณจะต้องอัปโหลดไฟล์การปรับยอดแยกต่างหากสำหรับแต่ละบัญชี
    • หากมีแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) หลายแคมเปญในบัญชี Google Ads (รหัสลูกค้า) เดียวกัน คุณต้องอัปโหลดไฟล์การปรับยอดเพียง 1 ไฟล์สำหรับแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ทั้งหมดภายในบัญชีนั้น
  • คุณจะแก้ไขการเข้าพักของแขกได้สูงสุด 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์ หากคุณอัปโหลดการจองเดียวกันมากกว่า 1 ครั้งภายใน 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์ รายละเอียดและสถานะการจองก่อนหน้าจะถูกเขียนทับด้วยการอัปโหลดใหม่ ตราบใดที่มี "รหัสค่าคอมมิชชัน" เดียวกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากเรียกเก็บเงินจากการจองแล้ว (45 วันหลังจากวันที่เช็คเอาต์) คุณจะแก้ไขการจองไม่ได้อีก
  • ดูข้อผิดพลาดหรือแถวที่ถูกปฏิเสธหลังจากอัปโหลดได้โดยไปที่หน้า "การอัปโหลด" (เครื่องมือ > การดำเนินการแบบกลุ่ม > การอัปโหลด). คุณใช้วิธีนี้เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับไฟล์การปรับยอดและอัปโหลดอีกครั้งได้หากจำเป็น
สร้างรายงานการปรับยอด
ส่วนนี้จะอธิบายวิธีสร้างรายงานการปรับยอดเพื่อให้คุณอัปโหลดไปยัง Google Ads ได้

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ไฟล์ CSV หรือ Excel ของการปรับยอดแต่ละรายการจะต้องมีข้อมูลต่อไปนี้

  • แถวส่วนหัว 1 แถวที่มีชื่อคอลัมน์
  • แถวการจอง 0 แถวขึ้นไป (1 แถวต่อการจอง)

รูปแบบไฟล์ CSV และ Excel ที่เราใช้สำหรับรายงานการปรับยอดจะสอดคล้องกับ RFC 4180 กฎทั่วไปต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้

  • การเข้ารหัส UTF-8
  • ใช้เครื่องหมายลำดับไบต์ได้ (แต่ไม่จำเป็น)
  • ตัวเลขควรใช้เครื่องหมายจุด "." เป็นตัวคั่นทศนิยมแทนคอมมา "," เช่น 10 ยูโรควรอยู่ในรูปแบบ "10.00" ไม่ใช่ "10,00"
  • สตริงที่มีคอมมา เครื่องหมายคำพูด หรืออักขระขึ้นบรรทัดใหม่/อักขระตัดบรรทัดจะต้องอยู่ใน "เครื่องหมายคำพูดแบบคู่"
  • แต่ละบรรทัดต้องสิ้นสุดด้วย CRLF

ตัวอย่างไฟล์ CSV

ตัวอย่างไฟล์ CSV นี้แสดงแถวส่วนหัว เราแนะนำให้ดาวน์โหลดไฟล์จาก Google Ads ใต้แท็บ "ค่าคอมมิชชัน" เพื่ออัปเดตสถานะการจอง

คอลัมน์ แหล่งที่มา ตัวอย่าง ค่าที่ยอมรับ รูปแบบที่ยอมรับ
รหัสค่าคอมมิชชัน ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า รหัสนี้คือตัวระบุที่ Google กำหนดให้สำหรับการจองแต่ละรายการโดยเฉพาะ 123456 แก้ไขไม่ได้ N/A
รหัสคำสั่งซื้อ ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า รหัสนี้มาจากพารามิเตอร์ "transaction_id" ในคำสั่ง ping สำหรับ Conversion คุณควรใช้ค่านี้เพื่อช่วยจับคู่การจองที่รายงานไปยัง Google กับระเบียนภายในของคุณ อย่าส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ (PII) เช่น หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลของแขกในพารามิเตอร์ Conversion นี้ ABCD123 แก้ไขไม่ได้ N/A
วันที่ของ Conversion ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า ข้อมูลนี้มาจากคำสั่ง ping สำหรับ Conversion 2021-01-23 แก้ไขไม่ได้ N/A
รหัสโรงแรมของพาร์ทเนอร์ ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า รหัสนี้มาจากพารามิเตอร์ '"id"' ในคำสั่ง ping ของ Conversion DEF456 คุณอัปเดตรหัสโรงแรมได้หากมีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ทำการจอง สตริง
รหัสบัญชี Hotel Center ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า รหัสนี้มาจากฟีด (บัญชี Hotel Center) ที่แสดงแคมเปญนี้ 7890123 แก้ไขไม่ได้ N/A
วันที่เช็คอิน ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า ข้อมูลนี้มาจากพารามิเตอร์ "start_date" ในคำสั่ง ping ของ Conversion 2021-01-31 คุณอัปเดตวันที่เช็คอินได้หากมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทำการจอง สตริง ต้องอยู่ในรูปแบบ ปปปป-ดด-วว
วันที่เช็คเอาต์ ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า ข้อมูลนี้มาจากพารามิเตอร์ "end_date" ในคำสั่ง ping ของ Conversion 2021-02-03 คุณอัปเดตวันที่เช็คเอาต์ได้หากมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทำการจอง สตริง ต้องอยู่ในรูปแบบ ปปปป-ดด-วว
แคมเปญ ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า แคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่แสดงโฆษณาของคุณ Mobile_NA_PPS แก้ไขไม่ได้ N/A
อัตราค่าคอมมิชชัน ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า อัตรานี้คืออัตราค่าคอมมิชชันที่ตั้งไว้ขณะประมูล 10% แก้ไขไม่ได้ N/A
มูลค่าการจอง ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า ค่านี้มาจากพารามิเตอร์ "value" ในคำสั่ง ping ของ Conversion ซึ่งควรแสดงมูลค่าการจอง 456.78 แก้ไขไม่ได้ N/A

มูลค่าที่ปรับยอดแล้ว

(ผู้ลงโฆษณาต้องป้อนข้อมูลในระหว่างการปรับยอด)

ค่านี้คือมูลค่าสุดท้ายสำหรับการเข้าพักของแขก หากการจองถูกยกเลิก ให้กำหนดค่านี้เป็น 0 แต่หากการจองถูกยกเลิกและคุณได้รับค่าธรรมเนียมการยกเลิกแล้ว คุณก็ควรระบุค่าธรรมเนียมการยกเลิกด้วย 500.12 คุณอาจป้อนค่าสกุลเงินในสกุลเงินเดียวกันกับสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินของบัญชี ทศนิยม
ค่าคอมมิชชัน ระบบจะคำนวณค่านี้โดยอัตโนมัติตามสูตร (มูลค่าที่ปรับยอดแล้ว x อัตราค่าคอมมิชชัน) ระบบจะไม่สนใจค่าที่ผู้ลงโฆษณาอัปโหลดในคอลัมน์นี้ 50 แก้ไขไม่ได้ N/A
สกุลเงิน ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า สกุลเงินนี้คือสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินของบัญชีของคุณ USD แก้ไขไม่ได้ N/A

สถานะ

(ผู้ลงโฆษณาต้องป้อนข้อมูลในระหว่างการปรับยอด)

ข้อมูลนี้คือสถานะการจองของคุณ ซึ่งจะมีสถานะเริ่มต้นตามรายการที่คุณจะต้องอัปเดตระหว่างการปรับยอด โปรดดูด้านล่าง

  • (อัตโนมัติ) การจองที่ยังมีผลอยู่: ยังไม่ถึงวันที่เช็คเอาต์และแขกยังเข้าพักอยู่ การจองนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการปรับยอด เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงวันที่เช็คเอาต์
  • (อัตโนมัติ) จำเป็นต้องปรับยอด: การเข้าพักของแขกเสร็จสมบูรณ์แล้วเนื่องจากวันที่เช็คเอาต์ผ่านไปแล้ว คุณต้องอัปเดตสถานะการจองนี้ภายใน 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์
  • (ข้อมูลที่พาร์ทเนอร์ป้อน) การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว: หากการเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณควรอัปเดตการจองเป็นสถานะนี้
  • (ข้อมูลที่พาร์ทเนอร์ป้อน) ยกเลิกแล้ว: หากการเข้าพักถูกยกเลิก คุณควรอัปเดตการจองเป็นสถานะนี้
การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณอัปเดตสถานะเป็น "การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว" หรือ "ยกเลิกแล้ว" ในการอัปโหลดได้ คุณจะแก้ไขแถวไม่ได้หลังจากระบบเรียกเก็บเงินแล้ว

สตริง โปรดดูสถานะการอัปโหลดที่รองรับดังนี้

  • การเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว: หากการเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณควรอัปเดตการจองเป็นสถานะนี้
  • ยกเลิกแล้ว: หากการเข้าพักถูกยกเลิก คุณควรอัปเดตการจองเป็นสถานะนี้
เรียกเก็บเงินแล้ว ระบบจะป้อนข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า ค่านี้ระบุว่ามีการเรียกเก็บเงินจากคุณสำหรับการจองนี้แล้วหรือยัง ไม่ แก้ไขไม่ได้ N/A

นโยบายการรายงาน

ระบบจะถือว่าการจองที่ไม่ได้ปรับยอดทั้งหมดมีการเข้าพักเสร็จสมบูรณ์แล้วโดยอัตโนมัติหลังจากวันที่เช็คเอาต์ 45 วัน ซึ่งส่งผลให้ระบบเรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าพักที่เสร็จสมบูรณ์แล้วหากคุณไม่ปรับยอดการจอง

หาก Google เห็นว่าการรายงานของคุณไม่ถูกต้อง เราอาจขอให้คุณส่งเอกสารหรือบันทึกที่จำเป็นต่อการพิจารณาว่ารายงานหรือการชำระเงินของคุณ ณ ขณะนั้นถูกต้องหรือไม่ โดยจะแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันและเป็นไปตามเหตุผลที่สมควร หากคุณไม่ส่งเอกสารหรือบันทึกที่ขอ หรือ Google เห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่แสดงให้เห็นว่าการรายงานนั้นถูกต้อง Google อาจหยุดแสดงโฆษณาโรงแรมของคุณ

หากมีคําถามทางเทคนิคเกี่ยวกับ Google Ads API (เช่น คําถามที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้งาน API หรือ SDK, ข้อผิดพลาดที่ได้รับจาก API หรือ SDK เป็นต้น) โปรดทําตามขั้นตอนการแก้ปัญหาที่อยู่ในหน้าการสนับสนุนด้านเทคนิคของ API

หากมีคำถามเกี่ยวกับ Google Ads API ที่เกี่ยวข้องกับ UI ของ Google Ads โดยเฉพาะ โปรดคลิก "ติดต่อเรา" ที่ด้านล่างของหน้า

การปรับยอดอัตโนมัติ

คุณทำให้ขั้นตอนการปรับยอดเป็นไปโดยอัตโนมัติได้ด้วยการใช้ Google Ads API และกำหนดเวลาอัปโหลดรายงานการปรับยอดทีละจำนวนมาก คุณทำตามขั้นตอนด้านล่างซ้ำได้เพื่อกำหนดเวลาการอัปโหลดแต่ละรอบ
  1. ดาวน์โหลดรายงานการจองโดยใช้ Google Ads API ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ hotel_reconciliation API
  2. จัดเตรียมรายงานการปรับยอดที่วางแผนจะอัปโหลดและทำให้พร้อมใช้งานใน Google ชีต, HTTPS หรือ SFTP
  3. กำหนดเวลาการอัปโหลดทีละจำนวนมากตามรอบใน Google Ads ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการอัปโหลดทีละจำนวนมากตามรอบ

คำถามที่พบบ่อย

ระบบมีการเรียกเก็บเงินสำหรับแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) อย่างไร

ระบบจะเรียกเก็บเงินการจองแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ได้เมื่อครบ 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์สำหรับการจองแต่ละรายการที่รายงานในแท็บ "ค่าคอมมิชชัน" หากคุณปรับยอดก่อนกำหนด ระบบจะไม่เรียกเก็บเงินจากคุณจนกว่าจะครบอย่างน้อย 45 วันหลังจากวันที่เช็คเอาต์

ระบบจะเรียกเก็บเงินจากแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) จากใบแจ้งหนี้ของบัญชี Hotel Center ที่ลิงก์ไว้

หากฉันใช้ฟีเจอร์ "การเพิกถอน Conversion" ใน Google Ads เพื่อเพิกถอน Conversion ระบบจะนำการจองออกจากรายงานการปรับยอดของฉันหรือไม่

ไม่ ขณะนี้ฟีเจอร์การเพิกถอน Conversion ใช้งานไม่ได้กับการปรับยอดค่าคอมมิชชัน

ฉันจะทำอย่างไรหากลืมแก้ไขการเข้าพักของแขกสำหรับรายงานการปรับยอด

คุณมีเวลาสูงสุด 45 วันนับจากวันที่เช็คเอาต์ของการจองแต่ละรายการเพื่อแก้ไขรายงานการปรับยอดและสถานะการจอง มิฉะนั้นระบบจะเรียกเก็บเงินจากคุณโดยอัตโนมัติสำหรับการจองดังกล่าว เราแนะนำให้ตรวจสอบแท็บ "ค่าคอมมิชชัน" อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อตรวจสอบการเข้าพักของแขกที่ขาดหายไป

รายงานการปรับยอดรองรับภาษาใดบ้าง

เรารองรับภาษาที่ Google Ads รองรับอยู่แล้ว หากบัญชีของคุณใช้ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เราแนะนำให้ดาวน์โหลดรายงานจากแท็บ "ค่าคอมมิชชัน" โดยตรงเป็นเทมเพลตสำหรับแถวส่วนหัว อย่าพยายามแปลแถวส่วนหัวในไฟล์การปรับยอดด้วยตนเอง เนื่องจากอาจทำให้การอัปโหลดการปรับยอดล้มเหลว

ฉันต้องอัปโหลดรหัสค่าคอมมิชชันที่มีขีดล่างไหม

ไม่ต้อง คุณจะอัปโหลดรหัสค่าคอมมิชชันที่มีหรือไม่มีขีดล่างก็ได้ ขีดล่างมีไว้เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการจัดรูปแบบสำหรับผู้ใช้ Excel ระหว่างการดาวน์โหลดเท่านั้น

ฉันอัปโหลดข้อมูลครั้งล่าสุดผิดพลาด ฉันจะแก้ไขได้ไหม

คุณมีเวลา 45 วันหลังจากวันที่เช็คเอาต์ในการแก้ไขการอัปโหลดการปรับยอด คุณแก้ไขการอัปโหลดการปรับยอดได้ง่ายๆ เพียงอัปโหลดไฟล์อื่นสำหรับการจองที่ต้องการแก้ไขโดยใช้รหัสค่าคอมมิชชันเดียวกัน คุณอัปโหลดได้หลายครั้งตามต้องการจนกว่าจะครบ 45 วันหลังจากวันที่เช็คเอาต์ เราแนะนำให้ปรับยอดโดยเร็วที่สุดเพื่อให้มีเวลาแก้ไขข้อผิดพลาด

ระบบจะเรียกเก็บเงินจากฉันเมื่อฉันอัปโหลดไฟล์การปรับยอดหรือไม่

ไม่ ระบบจะไม่เรียกเก็บเงินจากคุณจนกว่าจะครบอย่างน้อย 45 วันหลังจากวันที่เช็คเอาต์ วันที่ในใบแจ้งหนี้จริงอาจช้ากว่านี้ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ เราแนะนำให้ปรับยอดโดยเร็วที่สุดเพื่อให้มีเวลาแก้ไขข้อผิดพลาด

หากฉันมีบัญชี Google Ads หลายบัญชี ฉันต้องอัปโหลดไฟล์การปรับยอดแยกสำหรับแต่ละบัญชีไหม

ใช่ อย่ารวมรายงานการปรับยอดจากหลายบัญชีเป็นรายงานเดียว เนื่องจากอาจส่งผลให้ระบบเรียกเก็บเงินจากคุณในจำนวนที่ไม่ถูกต้อง และการเสนอราคาของบัญชีจะได้รับผลกระทบในเชิงลบ

รหัสโรงแรม วันที่เช็คอิน และ/หรือวันที่เช็คเอาต์มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การจองครั้งแรก เนื่องจากผู้ใช้ได้แก้ไขการจอง (เช่น ขยายระยะเวลาในการเข้าพัก) ฉันจะอัปเดตข้อมูลในช่องเหล่านี้ในไฟล์การปรับยอดได้หรือไม่

ได้ คุณอัปเดตช่องเหล่านี้ในไฟล์การปรับยอดได้ และระบบจะอัปเดตรายงานเมื่อคุณอัปโหลด โปรดอ่านข้อกำหนดรูปแบบคอลัมน์เมื่อแก้ไขข้อมูลในช่องเหล่านี้

การปรับราคาเสนอจะส่งผลต่อการปรับยอดและการเรียกเก็บเงินอย่างไร

ระบบจะใช้การปรับราคาเสนอที่เกี่ยวข้องกับอัตราค่าคอมมิชชันที่รวมอยู่ในรายงานค่าคอมมิชชันโดยอัตโนมัติ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับราคาเสนอสำหรับแคมเปญโรงแรม

ฉันไม่พบรหัสคําสั่งซื้อปรากฏในรายงานค่าคอมมิชชัน ฉันควรทำอย่างไร

หากไม่ได้ส่งรหัสคําสั่งซื้อไปยัง Google ในคําสั่ง ping ของ Conversion คุณจะไม่พบรายงานรหัสคําสั่งซื้อ โปรดดูวิธีการในศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion โดยใช้รหัสคําสั่งซื้อเป็นพารามิเตอร์

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
17169832562099191061
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false