วิธีที่ Google Ads และ Display & Video 360 ใช้ทดสอบโฆษณาตามความสนใจโดยอิงตามสัญญาณการรักษาความเป็นส่วนตัวแบบใหม่

โครงการริเริ่ม Privacy Sandbox มีเป้าหมายที่จะสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ทั้งรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้คนทางออนไลน์และช่วยให้บริษัทและนักพัฒนาซอฟต์แวร์มีเครื่องมือไว้สร้างธุรกิจดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วยให้อินเทอร์เน็ตเปิดกว้างและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน Privacy Sandbox เป็นการทํางานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทางเลือกแทนการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม โดยนําแนวคิดจากภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมมารวมกันเป็นข้อเสนอใหม่ที่ผ่านการทดสอบ อภิปรายต่อสาธารณะ และทำซ้ำ

แผนของ Privacy Sandbox แผนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการทดสอบใน Chrome ก็คือ Topics API โดย Topics นำเสนอสัญญาณการรักษาความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ซึ่งช่วยระบุความสนใจของผู้ใช้โดยไม่ต้องใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม

เมื่อใช้ Topics API เบราว์เซอร์ของผู้ใช้จะรวบรวมหัวข้อต่างๆ (เช่น "เพลงคันทรี" "การแต่งหน้าและเครื่องสําอาง" หรือ "อาหารมังสวิรัติ") ที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้รายนั้นโดยพิจารณาจากกิจกรรมการท่องเว็บในระยะเวลาหนึ่งๆ ที่รู้จักกันในชื่อ Epoch ซึ่งตอนนี้เสนอให้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หัวข้อที่เลือกไว้สำหรับแต่ละ Epoch จะถูกสุ่มเลือกจาก 5 หัวข้อยอดนิยมของผู้ใช้ โดยจะมีการเพิ่มชั้นความเป็นส่วนตัวแบบสุ่มสําหรับช่วงเวลานั้น


วิธีที่ Google Ads และ Display & Video 360 ใช้ Topics เพื่อช่วยแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้อง

Google Ads และ Display & Video 360 จะได้รับสัญญาณ Topics ในคําขอราคาเสนอที่มีสิทธิ์จากผู้เผยแพร่โฆษณาหรือแพลตฟอร์มฝั่งขาย (SSP) หากมี จากนั้น Google Ads และ Display & Video 360 จะใช้สัญญาณที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัวต่อไปนี้ร่วมกันเพื่อแสดงโฆษณาตามความสนใจ


วิธีที่ Google Ads และ Display & Video 360 ทดสอบ Topics API

เมื่อช่วงกลางปี 2022 Google Ads และ Display & Video 360 เริ่มใช้สัญญาณ Topics เป็นข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณากับแคมเปญโฆษณาตามความสนใจเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ช่วงแรกของการทดสอบมุ่งเน้นการทดสอบฟังก์ชันเพื่อระบุว่า Google Ads และ Display & Video 360 สามารถรับและวิเคราะห์สัญญาณ Topics สําเร็จหรือไม่ เป็นต้น

หลังจากนั้น ทีม Google Ads และ Display & Video 360 ได้เปลี่ยนไปทดสอบยูทิลิตีเพื่อให้ทราบว่าการใช้สัญญาณที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัว เช่น ข้อมูลตามบริบท, Topics API ร่วมกับตัวระบุบุคคลที่หนึ่ง เช่นรหัสที่ผู้เผยแพร่โฆษณาระบุ สามารถเป็นข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด การทดสอบโซลูชันแบบองค์รวมซึ่งมีสัญญาณอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (เทียบกับการทดสอบ Topics เพียงอย่างเดียว) แสดงถึงโซลูชันและระดับประสิทธิภาพที่เราคาดหวังในแพลตฟอร์มโฆษณาหลังจากที่ Chrome เลิกใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามได้ชัดเจนกว่า

การทดสอบยูทิลิตีนี้รวมการทดสอบรุ่นอัลฟ่าของโฆษณาตามความสนใจซ้ำรอบที่ 2 ซึ่งทำในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 กับกลุ่มผู้ลงโฆษณาทั่วโลกจากธุรกิจหลากหลายประเภทที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ที่เข้มงวด ในการให้ข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณา ผู้ลงโฆษณากลุ่มนี้เห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพแคมเปญกลุ่มเป้าหมายเมื่อใช้สัญญาณแรกๆ รายการใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวร่วมกัน ซึ่งรวมถึง Topics ที่จําลองขึ้น (เนื่องจากขณะนั้นช่วงทดลองใช้จากต้นทางของ Chrome มีการเข้าชมจํากัด) เมื่อเทียบกับคุกกี้ของบุคคลที่สาม

ทีมของเรายังทําการทดสอบแยกต่างหาก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทราบว่าโซลูชันกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ (IBA) ของ Google ทํางานได้ดีเพียงใดเมื่อใช้สัญญาณที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัวรายการต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งได้แก่ ข้อมูลตามบริบท, Topics API จาก Privacy Sandbox และตัวระบุบุคคลที่หนึ่ง เช่น รหัสที่ผู้เผยแพร่โฆษณาระบุ โดยเปรียบเทียบกับคุกกี้ของบุคคลที่สาม การทดสอบนี้ทำกับการเข้าชมทั่วโลกเพียงส่วนน้อยโดยใช้โซลูชันกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ เช่น กลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มความสนใจ มีแผนจะซื้อ กําหนดเอง และตามข้อมูลประชากร นอกจากนี้ยังรวมทั้งแคมเปญ Google Ads และรายการโฆษณา Display & Video 360 ในอุตสาหกรรมต่างๆ

ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจทีเดียว การทดสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้โซลูชัน IBA กับสัญญาณที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัวในเครือข่าย Display การใช้จ่าย Google Display Ads ของผู้ลงโฆษณาสำหรับ IBA (เพื่อเป็นสิ่งแทนการปรับขนาดที่ทำได้) ลดลงถึง 2-7% เมื่อเทียบกับผลลัพธ์จากคุกกี้ของบุคคลที่สาม ส่วนการใช้จ่ายต่อดอลลาร์สําหรับ Conversion (เพื่อเป็นสิ่งแทนสําหรับผลตอบแทนจากการลงทุน) ก็ลดลง 1-3% สุดท้าย เราสังเกตเห็นด้วยว่าอัตราการคลิกผ่านยังคงอยู่ภายใน 90% ของสถานภาพปัจจุบัน รวมถึงสังเกตเห็นว่า Display & Video 360 มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับของเดิม เราได้เผยแพร่การพูดคุยเรื่องวิธีการทดสอบโดยละเอียดเพื่อประกอบผลการทดสอบด้วย

ในปี 2024 การทดสอบใหม่แสดงให้เห็นว่า Privacy Sandbox API ช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพของผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณาได้ เมื่อใช้ร่วมกับสัญญาณอื่นๆ เช่น เมื่อใช้การใช้จ่ายเป็นสิ่งแทนการปรับขนาดที่ทำได้ เราพบว่า GDA ฟื้นตัว 89% และ Display & Video 360 ฟื้นตัว 86% โปรดอย่าลืมว่าคุณไม่ควรถือว่าผลการทดสอบที่น่าพอใจเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงประสิทธิภาพ IBA ของ Google ในยุคที่ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตให้สังเกตพฤติกรรมผู้ใช้ได้มีน้อยลง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
1684241647362196592
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false