เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Performance Max สําหรับการขายออนไลน์ (ไม่ใช่ Shopping)

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


Performance Max ใช้ AI ของ Google เพื่อช่วยเพิ่ม Conversion และมูลค่าผ่านการเสนอราคา การกําหนดเป้าหมาย ครีเอทีฟโฆษณา และการระบุแหล่งที่มา แคมเปญประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทํางานกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดและช่องทางสื่อที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอแนะนำให้ใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ในการสร้างแคมเปญ Performance Max สําหรับการขายออนไลน์ (ไม่ใช่ Shopping) ให้ประสบความสําเร็จ

บทความนี้จะอธิบายแนวทางปฏิบัติแนะนําของแคมเปญ Performance Max สําหรับการขายออนไลน์ (ไม่ใช่ Shopping)

ดูแนวทางปฏิบัติแนะนําเพิ่มเติมได้จากบทความต่อไปนี้


การตั้งค่าแคมเปญ

  • ระยะเวลาแคมเปญ: ใช้งานแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์เพื่อให้ AI ของ Google เรียนรู้และดูแลจัดการข้อมูลมากพอที่จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
  • สัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย: Performance Max ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google ใช้รายการกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสัญญาณเพื่อให้ AI ของ Google เรียนรู้และปรับปรุงผลลัพธ์ของแคมเปญได้เร็วขึ้น ใช้รายการรีมาร์เก็ตติ้ง ความตั้งใจที่กำหนดเอง การจับคู่ข้อมูลลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันเป็นสัญญาณ
ตามที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2022 กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันจะเปลี่ยนเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้นานขึ้น การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2023 และส่งผลต่อวิธีใช้กลุ่มที่คล้ายกันใน Google Ads ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
  • ชิ้นงาน: ใช้ชิ้นงานให้ได้มากที่สุด เพิ่มชิ้นงานในกลุ่มชิ้นงาน โดยให้มีชิ้นงานข้อความอย่างน้อย 20 รายการ (บรรทัดแรก 15 รายการ คําอธิบาย 5 รายการ) ชิ้นงานรูปภาพอย่างน้อย 7 รายการ (รูปภาพแนวนอน 3 รูป รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส 3 รูป และรูปภาพแนวตั้ง 1 รูป) และชิ้นงานวิดีโออย่างน้อย 1 รายการ (ชิ้นงานของคุณเองหรือชิ้นงานที่สร้างโดยใช้เครื่องมือ Video Creation ระหว่างการตั้งค่าแคมเปญ) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างกลุ่มชิ้นงาน
  • กลุ่มชิ้นงาน: แบ่งกลุ่มชิ้นงานตามหมวดหมู่/ธีม/ภาษาของเนื้อหาหรือกลุ่มเป้าหมาย คุณมีกลุ่มชิ้นงานหลายกลุ่มในแคมเปญเดียวกันได้

ครีเอทีฟโฆษณา

  • ใช้ครีเอทีฟโฆษณาที่มีคุณภาพ: ครีเอทีฟโฆษณาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และให้คุณปรับแต่งแคมเปญเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือข้อเสนอใหม่ๆ เน้นที่การให้เนื้อหาที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • เปลี่ยนครีเอทีฟโฆษณาอย่างมีกลยุทธ์: ครีเอทีฟโฆษณาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้คุณปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องได้
    • เผื่อเวลาในการเรียนรู้: ให้โอกาสชิ้นงานได้เพิ่มประสิทธิภาพ โดยรอ 3-4 สัปดาห์เพื่อให้การทำงานและข้อมูลเชิงลึกได้พัฒนาก่อนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผสมผสานองค์ประกอบครีเอทีฟโฆษณา
    • นำเนื้อหาประสิทธิภาพต่ำออก: ควรตรวจสอบคะแนนชิ้นงานไตรมาสละครั้งเพื่อแทนที่ชิ้นงานที่ล้าสมัยหรือมีประสิทธิภาพ "ต่ำ" ตามที่จําเป็น โปรดทราบว่าคุณจะแทนที่ชิ้นงานคะแนน "ต่ำ" ได้หลังผ่านไป 3-4 สัปดาห์ แต่อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งอาจทําให้ประสิทธิภาพผันผวนได้
    • การขายช่วงสุดสัปดาห์: เริ่มแคมเปญล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ จากนั้นปรับปรุงครีเอทีฟโฆษณาบ่อยๆ โดยเปลี่ยนจากครีเอทีฟโฆษณาทั่วไปของร้านค้าไปเป็นครีเอทีฟโฆษณาที่เน้นยอดขาย กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณทำโปรโมชันตามเวลาได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ
  • พื้นที่โฆษณาภาพ: ลูกค้ามองหาแหล่งข้อมูลภาพทางออนไลน์เพื่อหาแรงบันดาลใจในสิ่งที่จะซื้อ ใช้พื้นที่โฆษณาภาพเพื่อกําหนดเป้าหมายลูกค้าใหม่

การรายงาน

  • คุณภาพของโฆษณา: คุณดูคุณภาพของโฆษณาได้โดยคลิกโฆษณาในเมนูแบบเลื่อนลง "แคมเปญ" จากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย แล้วดูที่คอลัมน์ "คุณภาพของโฆษณา" เมตริกมีตั้งแต่ "แย่" ไปจนถึง "ยอดเยี่ยม" ใช้ตัวบ่งชี้ "คุณภาพของโฆษณา" เพื่อดูว่ากลุ่มชิ้นงานพร้อมรับความสำเร็จหรือไม่

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
16897621519882568651
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false