ประเภทย่อยยอดดูวิดีโอช่วยให้คุณได้ยอดดูโฆษณาวิดีโอเพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลงด้วยการแสดงโฆษณาในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
ยอดดูวิดีโอช่วยให้การซื้อยอดดูเป็นเรื่องง่าย คุณกําหนดราคาเสนอเฉลี่ยที่ยินดีจ่ายสําหรับการดู 1 ครั้ง แล้วเราจะเพิ่มยอดดูให้ได้มากที่สุดโดยอัตโนมัติด้วยการใช้โฆษณาวิดีโอในฟีด โฆษณาวิดีโอในสตรีมแบบข้ามได้ และโฆษณา Shorts
ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบข้อดี วิธีการทำงาน และวิธีสร้างยอดดูวิดีโอในบัญชี Google Ads
ในหน้านี้
ข้อดีของยอดดูวิดีโอ
- สร้างแคมเปญได้โดยง่ายด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เนื่องจากคุณไม่ต้องพิจารณาเลือกรูปแบบและการผสมผสานรูปแบบต่างๆ อีกต่อไป
- รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นด้วยยอดดูที่เป็นไปได้มากขึ้นจากงบประมาณเท่าเดิม เนื่องจากวิดีโอจะแสดงในโฆษณาหลายรูปแบบโดยใช้ AI ของ Google
- กระตุ้นให้เกิดการพิจารณาแบรนด์ด้วยการแสดงโฆษณาเมื่อผู้ชมกำลังเรียกดูและค้นพบ รับชมเนื้อหาแบบยาว รวมถึงดูและค้นพบเนื้อหาแบบสั้น
วิธีการทำงานของยอดดูวิดีโอ
โฆษณาวิดีโอบางรายการมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อใช้โฆษณาบางรูปแบบ แคมเปญยอดดูวิดีโอใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format ซึ่งจะผสมและจับคู่โฆษณาวิดีโอกับหลายรูปแบบโฆษณาเพื่อระบุตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพที่สุด
หากไม่ต้องการใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format คุณก็ยังใช้โฆษณาในสตรีมแบบข้ามได้หรือโฆษณาวิดีโอในฟีดในกลุ่มโฆษณาแยกต่างหากได้ อย่างไรก็ตาม การใช้กลุ่มโฆษณาที่แตกต่างกันกับการตั้งค่าที่เหมือนกันอาจทำให้โฆษณาแข่งขันกันเอง และทําให้ยอดดูที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่แคมเปญอาจได้รับลดลง การใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format ช่วยให้มั่นใจว่าโฆษณาจะแสดงในทุกรูปแบบภายในกลุ่มโฆษณาเดียว ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนการดูรวมสูงสุดที่คุณจะได้รับ
โฆษณา Shorts ใช้ได้เฉพาะกับแคมเปญโฆษณาแบบ Multi-Format โดยสามารถใช้ร่วมกับโฆษณาวิดีโอในสตรีมและในฟีดได้
รูปแบบโฆษณาในส่วนยอดดูวิดีโอ
- โฆษณาในสตรีมแบบข้ามได้จะเล่นก่อน ระหว่าง หรือหลังจากวิดีโออื่นๆ ผู้ใช้จะข้ามโฆษณาส่วนที่เหลือได้เมื่อผ่านไป 5 วินาที ผู้ใช้ต้องมีส่วนร่วมหรือดูโฆษณาวิดีโอเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วินาทีหรือดูจนจบหากโฆษณามีความยาวน้อยกว่า 30 วินาที จึงจะนับเป็นยอดดู
- โฆษณาวิดีโอในฟีดปรากฎเป็นภาพปก ซึ่งประกอบด้วยรูปภาพจากวิดีโอและข้อความเล็กน้อย ผู้ใช้จะดูโฆษณาวิดีโอแบบเล่นอัตโนมัติในหน้าหรือจะคลิกภาพปกเพื่อดูโฆษณาวิดีโอในหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็ได้ การนับเป็นยอดดูจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้คลิกภาพปกหรือดูโฆษณาแบบเล่นอัตโนมัติเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาทีหรือดูจนจบหากโฆษณามีความยาวน้อยกว่า 10 วินาที
- หมายเหตุ: ในกรณีส่วนใหญ่ โฆษณาวิดีโอในฟีดจะไม่นับเป็นการดู เว้นแต่จะมีการคลิกโฆษณา สำหรับยอดดูวิดีโอ ระบบจะนับการดูเมื่อโฆษณาวิดีโอในฟีดเล่นอัตโนมัติเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาทีหรือเล่นจนจบหากโฆษณามีความยาวน้อยกว่า 10 วินาที วิธีนี้จะเพิ่มยอดดูโดยรวมของแคมเปญและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่สนใจโฆษณาของคุณ เพื่อช่วยคุณปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญในอนาคต
- โฆษณา Shorts จะเล่นใน YouTube Shorts ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอแบบสั้นของ YouTube ผู้ใช้สามารถข้ามโฆษณาได้ทุกเมื่อ การนับเป็นยอดดูจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ดูโฆษณาวิดีโอเล่นเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วินาทีหรือดูจนจบหากโฆษณามีความยาวน้อยกว่า 10 วินาที
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบโฆษณาวิดีโอ
กลยุทธ์การเสนอราคา
กลยุทธ์การเสนอราคาสําหรับยอดดูวิดีโอคือต้นทุนต่อการดู (CPV) เป้าหมาย เมื่อใช้ CPV ที่ตั้งไว้ คุณจะกำหนดจำนวนเงินเฉลี่ยที่ยินดีจ่ายสำหรับการดูแต่ละครั้งที่แคมเปญได้รับ
เราจะเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอจาก CPV ที่ตั้งไว้ที่คุณตั้งไว้เพื่อช่วยให้ได้รับยอดดูมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้ ยอดดูบางรายการอาจมีต้นทุนสูงหรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอราคาแบบต้นทุนต่อการดู (CPV)
หากเลือกไม่ใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format กลยุทธ์การเสนอราคาจะเปลี่ยนเป็นต้นทุนต่อการดูสูงสุด (CPV สูงสุด) คุณจะใช้ CPV สูงสุดเพื่อกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่ยินดีจ่ายสำหรับการดูแต่ละครั้งที่แคมเปญได้รับ
สร้างแคมเปญยอดดูวิดีโอ
ดูวิดีโอแนะนำของ Google Ads เพื่อศึกษาวิธีสร้างแคมเปญยอดดูวิดีโอ
สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
- คลิกแคมเปญ
- คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกแคมเปญใหม่
- เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญเป็นการพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์
- เลือกประเภทแคมเปญวิดีโอ
- เลือกประเภทย่อยของแคมเปญเป็นยอดดูวิดีโอ
- คลิกต่อไป
- ป้อนชื่อแคมเปญ
- (แนะนำ) เราขอแนะนำให้เปิดใช้โฆษณาแบบ Multi-Format โดยเลือกช่อง "เพิ่มยอดดูด้วยโฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format" ในส่วน "โฆษณาแบบ Multi-Format" ในส่วนนี้ คุณจะเลือกพื้นที่โฆษณาที่ต้องการให้แคมเปญแสดงได้ โฆษณาที่ใช้ได้มีดังนี้
- โฆษณาในสตรีมแบบข้ามได้
- โฆษณาในฟีด
- โฆษณา Shorts
คุณต้องเลือกพื้นที่โฆษณาอย่างน้อย 1 รายการ เราขอแนะนำให้ใช้พื้นที่โฆษณาทั้ง 3 รายการ เนื่องจากจะเพิ่มยอดดูให้กับแคมเปญได้
- ในส่วน "กลยุทธ์การเสนอราคา" ระบบจะเลือก CPV ที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งให้คุณกําหนดจํานวนเงินเฉลี่ยที่ยินดีจ่ายสําหรับการดูแต่ละครั้ง
- หมายเหตุ: เมื่อคุณเลือกไม่ใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format ระบบจะเลือก CPV สูงสุดเป็นกลยุทธ์การเสนอราคาให้โดยอัตโนมัติ คุณจะใช้ CPV สูงสุดเพื่อกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่ยินดีจ่ายเมื่อมีคนดูโฆษณาแต่ละครั้ง หลังจากสร้างแคมเปญแล้ว จะไม่มีตัวเลือกให้แก้ไขราคาเสนอในคอลัมน์ "กลุ่มโฆษณา" คุณจะแก้ไขและปรับราคาเสนอได้ในแท็บ "กลุ่มโฆษณา" เท่านั้น
- ป้อนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ เช่น งบประมาณ
- ตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายแคมเปญเพื่อเข้าถึงผู้ที่ค้นหาแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ
- ระบบจะเลือกช่องทำเครื่องหมายในส่วน "โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format" ไว้โดยค่าเริ่มต้น หากต้องการเลือกไม่ใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format ให้ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย
- หมายเหตุ: เมื่อเลือกไม่ใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format คุณจะใช้ได้เฉพาะโฆษณาในสตรีมหรือโฆษณาวิดีโอในฟีดเท่านั้น โฆษณา Shorts ใช้ได้เฉพาะกับแคมเปญโฆษณาแบบ Multi-Format การเลือกไม่ใช้โฆษณาวิดีโอแบบ Multi-Format เพื่อใช้โฆษณารูปแบบหนึ่งๆ อาจทำให้ได้ยอดดูลดลงจากงบประมาณที่ตั้งไว้
- สร้างโฆษณา สำหรับประเภทย่อยของแคมเปญยอดดูวิดีโอ คุณเพิ่มวิดีโอได้สูงสุด 5 รายการ เราขอแนะนำให้เพิ่มวิดีโอที่มีการวางแนวแตกต่างจากวิดีโอที่ได้เพิ่มไป ทั้งนี้เพื่อให้ได้ยอดดูมากขึ้น
- ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ หากทุกอย่างดูดีแล้ว ให้คลิกไปยังแคมเปญ
- คลิกสร้างแคมเปญ
หลักเกณฑ์ครีเอทีฟโฆษณา
แนะนำ | ยังยอมรับได้ | ข้อความไฮไลต์ | |
---|---|---|---|
ความละเอียด |
1080p (Full HD) พิกเซล (px) แนะนําสำหรับความละเอียดระดับ HD:
|
720p (HD มาตรฐาน) พิกเซลขั้นต่ำ:
พิกเซลขั้นต่ำสำหรับ SD:
|
เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เราไม่แนะนําให้ใช้ SD |
สัดส่วนภาพ |
|
|
เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เราไม่แนะนําให้ใช้ SD |
รูปแบบ | .MPG (MPEignored2 หรือ MPEignored4) | .WMV, .AVI, .MOV, .FLV .MPEignored1, .MP4, .MPEGPS, 3GPP, WebM, DNxHR, ProRes, CineForm และ HEVC (h265) | ระบบไม่ยอมรับไฟล์เสียง เช่น ไฟล์ MP3, WAV หรือ PCM บน YouTube |
ขนาดไฟล์ | ไม่เกิน 256 GB | ||
การจัดวางองค์ประกอบของรูปแบบ
|
การวางแนวและระยะเวลาของโฆษณาตามแนวทางปฏิบัติแนะนำ
|
|
|