หลังจากสร้างโฆษณาแล้ว คุณควรตรวจสอบว่าโฆษณาเหล่านั้นแสดงให้ลูกค้าเห็นจริงๆ โดยใช้เครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณา หรือตรวจสอบสถิติบัญชีเพื่อดูว่าโฆษณาทำงานหรือไม่
บทความนี้กล่าวถึงวิธีต่างๆ ที่คุณใช้ตรวจสอบได้ว่าโฆษณาทำงานอยู่หรือไม่
วิธีการ
วิธีดูตัวอย่างโฆษณาด้วยเครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณา
ใช้เครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณาเพื่อดูว่าโฆษณาแบบข้อความจะมีลักษณะอย่างไรในผลการค้นหาของ Google
- คลิกไอคอนเครื่องมือ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงการแก้ปัญหาในหมวดหมู่เมนู
- คลิกดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณา
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่ด้านบนของหน้าและป้อนคีย์เวิร์ด คุณจะเห็นตัวอย่างโฆษณาที่คีย์เวิร์ดนั้นเรียกให้ทำงานตามการตั้งค่าที่ได้เลือกไว้
เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณาแทนการค้นหาโฆษณาของคุณบน Google.com เนื่องจากการค้นหาใน Google.com จะเรียกโฆษณาให้แสดงทำให้ได้รับการแสดงผลที่ไม่มีการคลิก ซึ่งอาจทำให้อัตราการคลิกผ่านลดลง และทำให้โฆษณาปรากฏไม่บ่อยเท่าที่ควร และหากคุณค้นหาโฆษณาโดยใช้การค้นหาของ Google ซ้ำหลายครั้ง แต่ไม่เคยคลิกที่โฆษณาดังกล่าว คุณอาจจะไม่เห็นโฆษณานั้นอีกเลย นั่นเป็นเพราะระบบของ Google จะหยุดแสดงโฆษณาซึ่งระบบคิดว่าคุณไม่สนใจ
หากคุณระบุสาเหตุที่โฆษณาไม่แสดงในเครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณาไม่ได้ ให้ดูรายการสาเหตุที่เป็นไปได้ต่อไปนี้
ตรวจสอบว่าโฆษณามีสิทธิ์และเปิดใช้แล้วลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads แล้วคลิกโฆษณาในเมนูหน้าเว็บด้านซ้ายใต้เมนูแบบเลื่อนลง "แคมเปญ" โฆษณาที่เปิดใช้จะมีจุดสีเขียวติดกับชื่อ ส่วนโฆษณาที่หยุดชั่วคราวจะมีไอคอนหยุดชั่วคราว หากต้องการเปิดใช้โฆษณาที่หยุดชั่วคราว ให้คลิกไอคอนหยุดชั่วคราว จากนั้นคลิกเปิดใช้
โฆษณาจะได้รับการตรวจทานเพื่อดูว่าเป็นไปตามนโยบายการโฆษณาหรือไม่ โฆษณาบางรายการอาจแสดงในหน้าเว็บในเครือข่ายการค้นหาของ Google ก่อนที่จะได้รับการตรวจทาน แต่โฆษณาบางรายการก็อาจไม่แสดงเลยจนกว่าจะได้รับการตรวจทาน หากโฆษณาของคุณมีสิทธิ์ โฆษณาจะเริ่มทำงานและคุณจะเห็นการแสดงผลในสถิติบัญชี ดูสถานะการตรวจสอบโฆษณาได้ที่คอลัมน์ "สถานะ" ในหน้า "โฆษณา"
ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads แล้วคลิกโฆษณาในเมนูหน้าเว็บด้านซ้ายใต้เมนูแบบเลื่อนลง "แคมเปญ" จากหน้าโฆษณา คุณจะเห็นสถิติเกี่ยวกับโฆษณา เช่น จำนวนคลิก การแสดงผล อัตราการคลิกผ่าน และอื่นๆ อีกมากมาย ให้ใช้ตัวเลือกช่วงวันที่ที่มุมขวาบนของหน้าเพื่อกรองสถิติตามวันที่ คุณยังคลิกแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาในเมนูหน้าเว็บด้านซ้ายเพื่อดูสถิติโฆษณาตามแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาได้อีกด้วย
ปรับแต่งคอลัมน์ในตารางเพื่อเลือกประเภทข้อมูลที่คุณจะดูเกี่ยวกับโฆษณา โปรดทราบการรายงาน Google Ads ไม่ใช่แบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่เห็นจำนวนคลิกและการแสดงผลที่ได้รับในช่วง 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในหมวดหมู่เมนู แล้วคลิกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search
- คลิกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search หรือคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณาวิดีโอ/Display โดยขึ้นอยู่กับคีย์เวิร์ดที่จะตรวจสอบ
- วิธีตรวจสอบว่าคีย์เวิร์ดเรียกให้โฆษณาแสดงหรือไม่คือให้หาคอลัมน์ "สถานะ" แล้ววางเคอร์เซอร์ไว้เหนือสถานะของคีย์เวิร์ดนั้น ข้อมูลสถานะที่ปรากฏขึ้นจะแสดงสาเหตุที่อาจทำให้โฆษณาไม่แสดงในผลการค้นหา
มีปัจจัยหลายประการที่กำหนดเวลาและสถานที่ที่โฆษณาแสดงผล ตัวอย่างปัจจัยหลักๆ มีดังนี้
- การกำหนดเป้าหมาย โดยปกติโฆษณาจะแสดงต่อผู้ที่คุณกำหนดเป้าหมายเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปก็คือผู้ที่ค้นหาคีย์เวิร์ดของคุณในภาษาและสถานที่ที่คุณเลือกไว้ หากคุณพยายามค้นหาโฆษณาของตัวเอง คุณอาจไม่เห็นโฆษณาดังกล่าวหากการตั้งค่าแตกต่างจากสิ่งที่คุณกำหนดเป้าหมายไว้ ตัวอย่างเช่น หากคุณค้นหาจากคอมพิวเตอร์ในซานฟรานซิสโก แต่โฆษณากำหนดเป้าหมายที่ลอสแองเจลิส โฆษณาก็จะไม่ปรากฏในการค้นหาของคุณ หากต้องการดูตัวอย่างโฆษณาโดยใช้การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่ ให้ใช้เครื่องมือดูตัวอย่างและวิเคราะห์โฆษณา
- อันดับโฆษณา หากลำดับโฆษณาไม่สูงพอ โฆษณาก็อาจไม่ปรากฏในหน้าแรกในผลการค้นหาของ Google อันดับโฆษณาขึ้นอยู่กับคุณภาพของโฆษณา ("คะแนนคุณภาพ") และการเสนอราคาด้วยต้นทุนสูงสุดต่อคลิกที่ตั้งไว้ Google ไม่แสดงโฆษณาเดียวกันในหน้าเว็บแต่ละหน้า ดังนั้น โฆษณาของคุณอาจปรากฏในหน้าที่ 2 หน้าที่ 3 หรือหน้าถัดไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีพิจารณาอันดับโฆษณา
ใช้เครื่องมือแก้ปัญหาเพื่อหาสาเหตุอื่นที่ทำให้คุณไม่เห็นโฆษณา