ดูรายละเอียดสถิติได้ในหน้า "โฆษณา" "ชิ้นงาน" และ "ตำแหน่งโฆษณา" เพื่อช่วยประเมินประสิทธิภาพของโฆษณา Display ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบวิธีทำสิ่งต่างๆ ดังนี้
|
เคล็ดลับ
พยายามใช้เวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละชั่วโมงเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์
ข้อมูลเชิงลึกเบื้องต้น
ยืนยันว่าโฆษณาแสดงอยู่โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่าโฆษณาทำงานอยู่หรือหยุดชั่วคราว
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
- คลิกโฆษณา
- เลือกแคมเปญ Display จากแถบมุมมองด้านบน
- คอลัมน์ "สถานะ" จะบอกว่าโฆษณาแสดงอยู่หรือไม่ หากโฆษณาไม่แสดง คุณจะเห็นสาเหตุและสิ่งที่ทำได้เพื่อแก้ไขปัญหา
ดูว่าเว็บไซต์ วิดีโอ และแอปใดที่เคยแสดงโฆษณาของคุณโดยใช้หน้า "เวลาและตําแหน่งที่แสดงโฆษณา"
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงข้อมูลเชิงลึกและรายงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกเวลาและตำแหน่งที่แสดงโฆษณา
คุณจะเห็นตำแหน่งทั้งหมดซึ่งรวมถึงวิธีการกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติ เช่น คีย์เวิร์ด หัวข้อ รีมาร์เก็ตติ้ง และกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้จะเห็นตำแหน่งที่กำหนดเองที่ได้เลือกไว้ด้วย
สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้
- ตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพดีและตำแหน่งที่โฆษณาของคุณน่าจะได้แสดงบ่อยขึ้นถ้าเพิ่มราคาเสนอ
- ตำแหน่งประสิทธิภาพต่ำที่ควรยกเว้น โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ ของคุณ บางครั้งสาเหตุที่โฆษณาแสดงในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอาจไม่ชัดเจนแต่แรก แต่ประสิทธิภาพเชิงเปรียบเทียบจะเป็นเกณฑ์วัดที่ดีว่าควรยกเว้นตำแหน่งใดๆ หรือไม่
หมายเหตุ: URL บางรายการที่คุณเห็นอาจไม่สมบูรณ์ อาจเป็นได้ว่า URL นั้นยาวเกินไปหรือมีข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับบุคคลที่ดูตำแหน่งนั้น เช่น ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่าน หากเกิดกรณีนี้ URL จะถูกตัดให้สั้นลงโดยใช้เครื่องหมายวงเล็บ และอาจมีบางส่วนถูกตัดออกไป ทำให้ระบบนำไปยังหน้าเว็บอื่นซึ่งไม่ใช่หน้าเว็บที่โฆษณาของคุณแสดงอยู่
ตัวอย่าง
บริษัทที่ทำธุรกิจกิจกรรมกลางแจ้งแห่งหนึ่งมีแคมเปญปีนเขาที่กระบี่
พวกเขาใช้ตำแหน่งที่จัดการและต้องการจะค้นหาเว็บไซต์เพิ่มเติมเพื่อกำหนดเป้าหมาย โดยการวิเคราะห์การแสดงผลและ Conversion ซึ่งเป็นเมตริกที่มีอยู่ในหน้าตำแหน่ง
ตำแหน่ง | ประเภท | แคมเปญ | การแสดงผล | Conversion |
---|---|---|---|---|
half-dome-hikes.com | เว็บไซต์ | ปีนเขาที่กระบี่ | 1,500 | 20 |
adventure-hikes.com | เว็บไซต์ | ปีนเขาที่กระบี่ | 1,500 | 25 |
krabi-power-drinks.com | เว็บไซต์ | ปีนเขาที่กระบี่ | 3,000 | 2 |
hikes-for-kids.com | เว็บไซต์ | ปีนเขาที่กระบี่ | 2,000 | 0 |
ในหน้าตำแหน่งที่แสดงโฆษณา แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ half-dome-hikes.com
มีประสิทธิภาพดี ดังนั้น ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าจึงเพิ่มตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่กำหนดเองลงในแคมเปญ ในขณะที่ตำแหน่งอัตโนมัติ yosemite-power-drinks.com
และ hikes-for-kids.com
มีประสิทธิภาพต่ำ นอกจากนี้ ตำแหน่งเหล่านี้ยังมุ่งไปยังผู้ที่อยู่นอกกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น ผู้จัดการบัญชีจึงยกเว้นตำแหน่งทั้งสอง
โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดูว่าโฆษณาได้รับการแสดงผล คลิก และอื่นๆ หรือไม่
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
- คลิกโฆษณา
- จากแถบมุมมองที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้
- โฆษณาต่างๆ แตกต่างกันอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบในแง่ประสิทธิภาพ
- โฆษณารูปแบบใด (รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ) มีประสิทธิภาพดีกว่า
ตัวอย่าง
แคมเปญปีนเขาที่กระบี่
นี้มีโฆษณา 2 รายการ
โฆษณา | แคมเปญ | จำนวนคลิก | Conversion |
---|---|---|---|
ฮาล์ฟโดม |
ปีนเขาที่กระบี่ | 150 | 20 |
นักปีนเขา |
ปีนเขาที่กระบี่ | 150 | 5 |
โฆษณาฮาล์ฟโดม
ได้รับ Conversion มากกว่าโฆษณานักปีนเขา
ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าจึงตัดสินใจที่จะนำโฆษณานักปีนเขาออกจากแคมเปญนี้
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในหมวดหมู่เมนู
- จากแถบพื้นที่ทํางานที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
- เลือกแคมเปญ
- คลิกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search เพื่อดูประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ด
- คลิกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดูกลุ่มเป้าหมายและประสิทธิภาพตามข้อมูลประชากร
- คลิกเนื้อหาสําหรับหัวข้อและ/หรือตำแหน่งโฆษณา
สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้
- ลบวิธีการกำหนดเป้าหมายที่ด้อยประสิทธิภาพออก หรือวิธีการที่จำกัดกลุ่มผู้ชมของคุณมากเกินไป
- ระบุวิธีการกำหนดเป้าหมายที่ทำให้โฆษณาของคุณอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดและอยู่เบื้องหน้ากลุ่มผู้ชมที่คุณต้องการ
ตัวอย่าง
ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าใช้หัวข้อกว้างๆ อย่างการปีนเขาและการตั้งแคมป์
เพื่อกำหนดโฆษณาเป้าหมายสำหรับแคมเปญปีนเขาที่กระบี่ แต่ตำแหน่งที่โฆษณาเหล่านี้ปรากฏตามการกำหนดหัวข้อเป้าหมายกลับไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างที่ต้องการ ผู้จัดการจึงตัดสินใจใช้หน้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าถึงลูกค้าบางกลุ่ม จากหน้ากลุ่มเป้าหมาย ผู้จัดการเลือกการกำหนดเป้าหมาย และใช้กลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มความสนใจกับ "ผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง" และ "ผู้แสวงหาความตื่นเต้น"
เคล็ดลับ
หากต้องการดูประสิทธิภาพของการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ให้คลิกกลุ่มเป้าหมายในเมนูหน้าเว็บและเลื่อนลงไปที่ด้านล่างของตารางประสิทธิภาพ คุณก็จะเห็นเมตริกตามการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และวิธีเพิ่มการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มโฆษณา
ดูกลุ่มที่คุณกำลังเข้าถึงได้จากหน้าข้อมูลประชากร คุณจะเห็นข้อมูลทางสถิติเหล่านี้แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากร
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในหมวดหมู่เมนู
- คลิกกลุ่มเป้าหมาย
- จากแถบมุมมองที่ด้านบน ให้เลือกแคมเปญ Display
- เลือกแคมเปญ แล้วคลิกแท็บอายุ เพศ รายได้ครัวเรือน หรือสถานะความเป็นบิดามารดาเพื่อเข้าถึงสถิติประสิทธิภาพ
- หากต้องการเข้าถึงการยกเว้น ให้คลิกเนื้อหาในเมนูแบบเลื่อนลงกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหาในหมวดหมู่เมนู แล้วเลือกแท็บการยกเว้นหัวข้อ
สิ่งที่ควรพิจารณามีดังนี้
- กลุ่มประชากรที่มี Conversion สูง
- กลุ่มประชากรที่มีต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) ต่ำ
- กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มที่คุณต้องการเข้าถึงด้วยครีเอทีฟโฆษณาและวิธีการกำหนดเป้าหมาย
ตัวอย่าง
แคมเปญปีนเขาที่กระบี่
นี้จะโฆษณาการเดินทางท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ
อายุ | แคมเปญ | อัตราการคลิกผ่าน |
---|---|---|
18-24 | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.26% |
25-34 | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.20% |
35-44 | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.16% |
45-54 | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.16% |
55-64 | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.14% |
ไม่ทราบ | ปีนเขาที่กระบี่ | 0.15% |
ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าสังเกตเห็นอัตราการคลิกผ่านที่สูงขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุ 18-24 ปี การที่ผู้คนในกลุ่มอายุนี้มีแนวโน้มที่จะคลิกโฆษณาในแคมเปญนี้บ่อยกว่าผู้คนในกลุ่มอายุอื่น ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเข้าไปที่โฆษณานั้นอีกครั้ง และกำหนดเป้าหมายเพื่อให้โฆษณานี้ดึงดูดใจกลุ่มอายุอื่น
หมายเหตุ
หากคุณยกเว้นผู้คนในหมวดหมู่ที่ "ไม่รู้จัก" อาจเป็นการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายบางส่วนออกไป
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเข้าถึงผู้คนตามอายุและเพศที่เฉพาะเจาะจง
ข้อมูลและแผนภูมิประสิทธิภาพที่กำหนดเอง
เมื่อคลิกแคมเปญ จากนั้นคลิกข้อมูลเชิงลึกและรายงาน คุณจะเห็นวิธีใหม่ๆ ในการดูและวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพโฆษณา
เครื่องมือการรายงานมี 3 อย่างหลักๆ ดังนี้
รายงานช่วยในการสร้างแผนภูมิหรือตารางแบบต่างๆ สำหรับดูข้อมูลประสิทธิภาพ คุณรวมเมตริกที่กำหนดเองหลายสิบรายการเข้าด้วยกันเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ได้ เช่น การแสดงผล การกำหนดเป้าหมาย และ Conversion และยังบันทึกรายงานเหล่านี้ไว้ใช้อ้างอิงในอนาคตได้ด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือการรายงาน
รายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เดิมเรียกว่ามิติข้อมูล) ช่วยให้เห็นข้อมูลประสิทธิภาพพื้นฐานจากชุดเมตริกที่เลือกซึ่งปรับแต่งเพิ่มเติมได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
แดชบอร์ดออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์มากที่สุดได้ในที่เดียว คุณสามารถลากและวางแผนภูมิที่บันทึกไว้และตารางที่สร้างโดยใช้รายงานให้เป็นแผงต่างๆ ในหน้าแดชบอร์ด รวมถึงสร้างแผนภูมิใหม่ สร้างตารางสรุปสถิติเพื่อดูข้อมูลประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว และเพิ่มโน้ตได้ด้วย