หากคุณได้รับการเข้าชมในจำนวนที่น่าพอใจจากโฆษณา แต่มีคนที่ซื้อหรือลงชื่อสมัครจริงไม่มากนัก (เราเรียกการกระทำเหล่านี้ว่า "Conversion") คุณสามารถดำเนินการหลายๆ วิธีเพื่อปรับปรุงสถานการณ์นี้ได้ คุณใช้เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads ได้เพื่อวัดจำนวนผู้ที่ซื้อหรือลงชื่อสมัครใช้จริงหลังจากที่มาถึงเว็บไซต์ของคุณ จากนั้นคุณมีทางเลือกในการดำเนินการมากมายเพื่อปรับปรุงอัตรา Conversion เช่น เพิ่มคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นและเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบซึ่งเราจะพูดถึงในบทความนี้
ติดตามความสำเร็จของคุณด้วยเครื่องมือวัด Conversion
ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในบัญชี คุณควรดูก่อนว่าปัจจุบันโฆษณานำลูกค้ามาให้คุณมากน้อยเพียงใด Google Ads แสดงจำนวนการแสดงผลและคลิกที่คุณได้รับจากโฆษณา แต่คงจะเป็นการดีถ้า Google Ads สามารถแสดงจำนวน Conversion ที่คุณได้รับด้วย อันที่จริง Google Ads สามารถทำเช่นนั้้นได้ด้วยเครื่องมือวัด Conversion
หลังจากตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion คุณจะสามารถดูว่าแคมเปญมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดหลังจากคุณทำการปรับเปลี่ยน เช่น หากคุณทำการเปลี่ยนแปลงในแคมเปญและสังเกตเห็นว่าอัตรา Conversion ของคุณสูงขึ้น นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงนำไปสู่แคมเปญที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น
ใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงเพื่ออัตรา Conversion ที่ดีขึ้น
เมื่อคุณสามารถวัด Conversion ได้แล้ว คุณก็สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงอัตรา Conversion ได้ คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงมักมีแนวโน้มที่จะมีอัตรา Conversion ที่ดีกว่าคีย์เวิร์ดทั่วไป ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาคีย์เวิร์ดด้านล่าง คีย์เวิร์ดใดที่คุณคิดว่าจะทำให้ได้รับอัตรา Conversion ที่สูงขึ้น
- Acme
- เครื่องพิมพ์ Acme
- Acme 710c
โดยทั่วไป คีย์เวิร์ดที่เจาะจงมากกว่าอย่าง "Acme 710c" มักจะนำไปสู่อัตรา Conversion ที่ดีกว่าคีย์เวิร์ดกว้างๆ อย่าง "Acme" นั่นเป็นเพราะผู้ใช้ที่ค้นหารุ่นหรือหมายเลขผลิตภัณฑ์เฉพาะมักได้สำรวจผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการไปแล้ว และต้องการที่จะซื้อ
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะทำให้มีการแสดงผลที่น้อยลง หากคีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงมากเกินไป จำนวนผู้คนที่ค้นหาคำเหล่านั้นอาจน้อยลง เคล็ดลับก็คือ การค้นหาจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างคำทั่วไปที่กว้างพอที่จะตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหา และเฉพาะเจาะจงเพียงพอที่จะทำให้ได้รับ Conversion
ใช้คีย์เวิร์ดเชิงลบเพื่อกรองการเข้าชมของคุณ
อีกวิธีหนึ่งในการพยายามปรับปรุงอัตรา Conversion ของคุณคือ การใช้คีย์เวิร์ดเชิงลบ เมื่อคุณใช้คีย์เวิร์ดเชิงลบ โฆษณาจะไม่แสดงเมื่อผู้ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดเหล่านั้น วิธีการนี้จะเป็นประโยชน์เมื่อคุณพยายามจำกัดโฆษณาของคุณ เพื่อไม่ให้แสดงต่อผู้ใช้ที่ต้องการเรียกดูเฉยๆ และยังไม่พร้อมที่จะซื้ออะไร
ตัวอย่างเช่น ผู้ลงโฆษณาบางรายใช้คำว่า "ฟรี" เป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ คุณอาจต้องการเพิ่มคำนี้เป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ฟรีให้น้อยลง ยกเว้นไซต์ของคุณจะมีผลิตภัณฑ์หรือรุ่นทดลองใช้ฟรี ผู้ใช้ที่ค้นหาผลิตภัณฑ์ฟรีมักจะไม่ค่อยซื้อ
ใช้รายงานข้อความค้นหาเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสม
Google Ads ไม่เพียงทำให้คุณเห็นว่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำใช้การได้ดีเพียงใด แต่ยังสามารถแสดงคำที่ลูกค้าใช้ค้นหาโดยเฉพาะเมื่อมีการแสดงโฆษณาของคุณ คุณสามารถดูรายการคำเหล่านี้ได้ในรายงานข้อความค้นหา
หลังจากดูรายงานแล้ว คุณสามารถตัดสินใจที่จะเพิ่มหรือยกเว้นคีย์เวิร์ดบางคำออกจากรายการคีย์เวิร์ดได้ การดำเนินการนี้สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นลูกค้าที่เหมาะสมได้โดยขยายหรือกรองผู้ที่สามารถดูโฆษณาของคุณ
ตัวอย่าง
สมมติว่าคุณขายวิดีโอเกมบนเว็บไซต์ หลังจากดูรายงานข้อความค้นหา คุณเห็นว่าโฆษณาของคุณแสดงเมื่อผู้ใช้ค้นหา "นิตยสารวิดีโอเกม" ผู้ที่ค้นหานิตยสารไม่น่าจะต้องการซื้อวิดีโอเกมในตอนนี้ ในกรณีนี้คุณอาจพิจารณาเพิ่มคำว่า "นิตยสาร" เป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ เพื่อที่โฆษณาจะได้ไม่แสดงในการค้นหาเหล่านี้
ขณะเดียวกัน คุณเห็นด้วยว่าโฆษณาแสดงต่อผู้ใช้ที่ค้นหา "ตุ๊กตาวิดีโอเกม" และบังเอิญว่าคุณขายตุ๊กตาวิดีโอเกมด้วย ในกรณีนี้ คุณอาจต้องการเพิ่ม "ตุ๊กตาวิดีโอเกม" เป็นคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้โฆษณาของคุณมีโอกาสมากขึ้นที่จะแสดงสำหรับการค้นหานี้
ใส่ราคาลงในโฆษณาของคุณเพื่อดึงดูดผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า
อีกวิธีหนึ่งในการทำให้ได้รับการเข้าชมที่เกี่ยวข้องมากขึ้นคือ การใส่ราคาลงในข้อความโฆษณาของคุณ หากลูกค้าเห็นราคาของผลิตภัณฑ์ของคุณและยังคงคลิกโฆษณา คุณจะรู้ว่าเขาสนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณตามราคานั้น หากลูกค้าไม่ชอบราคานี้ เขาจะไม่คลิกโฆษณาซึ่งทำให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับคลิกนั้น
คุณอาจลองเพิ่มราคาในข้อความโฆษณาเป็นการทดสอบเพื่อดูว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้โฆษณานำไปสู่อัตรา Conversion ที่ดีขึ้นหรือไม่ วิธีการนี้อาจมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษเมื่อราคาของคุณถูกกว่าราคาของคู่แข่ง
ในการทดสอบว่าวิธีนี้ดีสำหรับคุณหรือไม่ คุณสามารถใช้การทดสอบด้วยการสร้างโฆษณาใหม่และหมุนเวียนโฆษณา เมื่อใช้การหมุนเวียนโฆษณา คุณสามารถเปรียบเทียบอัตราการคลิกผ่านและอัตรา Conversion ของโฆษณาที่มีราคากับโฆษณาที่ไม่มีราคาได้