คุณจะเห็นการปรับปรุงใน Google Ads ดังต่อไปนี้ เพื่อให้มุมมองของกลุ่มเป้าหมายแบบรวมและครอบคลุม และทําให้การจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มเป้าหมายทําได้ง่ายขึ้น
- การรายงานกลุ่มเป้าหมายใหม่
ต่อไปนี้การรายงานแบบละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลประชากร กลุ่ม และการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายจะรวมอยู่ในที่เดียว คลิกไอคอนแคมเปญ แล้วเปิดแท็บ "กลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหา" จากนั้นคลิกกลุ่มเป้าหมาย คุณยังจัดการกลุ่มเป้าหมายจากหน้ารายงานนี้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานกลุ่มเป้าหมาย - คำใหม่
เราจะใช้คำใหม่ในรายงานกลุ่มเป้าหมายและทั่วทั้ง Google Ads ตัวอย่างเช่นคำว่า "ประเภทกลุ่มเป้าหมาย" (ซึ่งได้แก่ ที่กําหนดเอง ที่มีแผนจะซื้อ และผู้สนใจ) ตอนนี้จะเรียกว่ากลุ่มเป้าหมาย และ "รีมาร์เก็ตติ้ง" จะเรียกว่า "ข้อมูลของคุณ" ดูรายละเอียดการอัปเดตคำและวลีเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย
วิธีการตั้งค่าแคมเปญจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายธุรกิจและประเภทลูกค้าที่ต้องการเข้าถึง เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย เราขอนำเสนอเคล็ดลับและคำแนะนำที่คุณควรคำนึงถึงขณะตั้งค่าแคมเปญที่ใช้ข้อมูลในการเข้าถึงผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้ใช้แอป
กลยุทธ์ในการตั้งค่ากลุ่มข้อมูล
1. กำหนดเป้าหมายผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้ใช้แอปทั้งหมดวิธีพื้นฐานที่สุดคือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือใช้แอปของคุณมาก่อน เราขอแนะนำให้ใช้ "กลุ่มที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Google Ads" ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงผู้เข้าชมเว็บไซต์ ผู้ใช้แอป และแหล่งที่มาของกลุ่มเป้าหมายแหล่งอื่นๆ ได้
กลยุทธ์ Smart Bidding เช่น CPC ที่ปรับปรุงแล้ว (ราคาต่อหนึ่งคลิก) จะปรับราคาเสนอที่คุณตั้งไว้ตามคลิกที่มีหรือไม่มีแนวโน้มจะทำให้เกิดการขายหรือ Conversion ในเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ
การเสนอราคาแบบ CPA (ต้นทุนต่อการดำเนินการ) เป้าหมายคือเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยให้คุณเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้ได้สูงสุดโดยเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอสำหรับการแสดงผลแต่ละครั้งแบบเรียลไทม์ เมื่อใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย คุณจะไม่ต้องปรับราคาเสนอด้วยตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Conversion อีกต่อไป
ROAS (ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา) เป้าหมาย ช่วยให้คุณเปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็นลูกค้าด้วยการกำหนดการเสนอราคาต่อคลิกสูงสุด พร้อมกับพยายามให้ได้ ROAS เท่ากับเป้าหมายของคุณ
เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด ช่วยให้คุณได้รับ Conversion มากที่สุดจากงบประมาณที่คุณกำหนด โดยไม่ขึ้นอยู่กับ ROAS หรือ CPA เป้าหมาย
กลยุทธ์การเสนอราคาด้วยตนเอง หากคุณต้องการจัดการราคาเสนอของแคมเปญด้วยตนเอง เราขอแนะนำให้ตั้งค่าการเสนอราคา CPC สูงสุด
กลยุทธ์การเสนอราคา 2 ข้อที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญมีดังนี้
หากคุณพอใจกับประสิทธิภาพของแคมเปญก็ควรพิจารณาเพิ่มราคาเสนอเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นและเพิ่ม ROI โดยการเพิ่มราคาเสนอจะช่วยปรับปรุงอันดับโฆษณาของคุณด้วยการเพิ่มโอกาสที่จะแสดงในเว็บไซต์บนเครือข่าย Display อย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้ใช้แอป
หากคุณสร้างกลุ่มข้อมูลที่มีระยะเวลาการเป็นสมาชิกไม่เท่ากัน คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากการจัดการราคาเสนอได้ สมมติว่าคุณต้องการเข้าถึงผู้เข้าชมที่มาที่เว็บไซต์ของคุณในช่วง 30 วันที่ผ่านมาแยกกับผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา คุณอาจสร้างกลุ่มข้อมูล 2 กลุ่มซึ่งมีระยะเวลาต่างกัน แล้วตั้งราคาเสนอสูงกว่าสำหรับกลุ่มที่มีค่าต่อคุณมากกว่า
ตัวอย่าง
เธอจึงสร้างกลุ่มเป้าหมายผู้ดูหน้าเว็บเกี่ยวกับโทรทัศน์ซึ่งกำหนดระยะเวลาการเป็นสมาชิกไว้เป็น 7 วัน และกำหนดเป้าหมายกลุ่มนี้โดยใช้ราคาเสนอที่สูงกว่า นอกจากนี้ยังสร้างกลุ่มเป้าหมายผู้ดูหน้าเว็บเกี่ยวกับโทรทัศน์เป็นกลุ่มที่ 2 ซึ่งกำหนดระยะเวลาการเป็นสมาชิกไว้เป็น 30 วัน จากนั้นเธอสร้างชุดค่าผสมที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มที่มีระยะเวลาการเป็นสมาชิก 30 วัน โดยยกเว้นผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 7 วันเพื่อไม่ให้ทั้ง 2 กลุ่มเข้าถึงผู้เข้าชมในระยะ 7 วัน แล้วเสนอราคาที่ต่ำลง
เมื่อใช้รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิก เครื่องมือแนะนําผลิตภัณฑ์ของ Google Ads จะแสดงผลิตภัณฑ์และบริการแก่ผู้ที่เคยดูผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านั้นในเว็บไซต์ของคุณมาก่อน เครื่องมือคำแนะนำนี้ยังจะตัดสินด้วยว่าเลย์เอาต์โฆษณาประเภทใดน่าจะทำงานได้ดีที่สุด โดยพิจารณาจากบุคคลและอุปกรณ์ที่ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิก
บางครั้งผู้เข้าชมจะเลือกสินค้าใส่รถเข็นช็อปปิ้งออนไลน์ไว้แต่ไม่ได้ทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากลูกค้าเหล่านี้มักจะเข้าใกล้การตัดสินใจซื้อมากแล้ว จึงเป็นโอกาสอันมีค่าที่จะเข้าถึงและช่วยให้ซื้อ หากต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ ให้ตั้งค่ากลุ่มข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายให้กำหนดเป้าหมาย "ผู้เข้าชมหน้าเว็บที่ไม่ได้เข้าชมหน้าอื่น" และระบุ URL ของหน้ารถเข็นช็อปปิ้งและหน้ายืนยันคำสั่งซื้อ
ตัวอย่าง
นฤมลเปิดร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ เธอพบว่าลูกค้าใส่สินค้าราคาสูงในรถเข็นช็อปปิ้ง แต่ไม่ได้ซื้อเสมอไป นฤมลจึงตัดสินใจสร้างแคมเปญเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ละทิ้งรถเข็นช็อปปิ้งกลางคัน โดยหวังว่าลูกค้าจะทำการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์
ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของคุณอาจสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งคุณนำเสนออยู่ด้วย
เมื่อสร้างกลุ่มเป้าหมาย "ลูกค้าที่สร้าง Conversion" คุณจะเข้าถึงกลุ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ในจำนวนที่น้อยกว่า แต่ลูกค้ากลุ่มนี้จะคุ้นเคยและสนใจธุรกิจของคุณอยู่แล้ว อย่าลืมปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย
นอกจากนี้คุณยังสร้างกลุ่มข้อมูลสําหรับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วย หากลูกค้าที่เคยชมสินค้าบางรายการแล้วทำการซื้อ คุณก็แสดงโฆษณาผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ากลุ่มนี้ได้
ตัวอย่าง
เจตน์เป็นเจ้าของร้านผลิตภัณฑ์ทำสวน และต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เคยมาชมสินค้าในส่วนเมล็ดพันธุ์พืชในร้านและทำการซื้อแล้ว เขารู้ว่าลูกค้าที่ซื้อเมล็ดพันธุ์พืชมักจะสนใจผลิตภัณฑ์อาหารพืชด้วย จึงสร้างแคมเปญเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องนี้ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมเหล่านั้น
ในการนำเสนอหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้สร้างกลุ่มข้อมูลสำหรับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์แต่ละหมวดหมู่โดยให้ URL ของแต่ละกลุ่มมีชื่อหมวดหมู่นั้นๆ
ตัวอย่าง
เธอสร้างโฆษณาที่ปรากฏต่อลูกค้าที่เคยเรียกดูหน้า "เสื้อผ้าผู้หญิง" และโฆษณาอีกรายการหนึ่งสำหรับลูกค้าที่เคยเรียกดูหน้า "เสื้อผ้าผู้ชาย"
หากคุณคิดว่ามีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะซื้อจากธุรกิจของคุณภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่มีการโต้ตอบครั้งแรกกับธุรกิจ คุณก็สร้างกลุ่มเป้าหมายที่รวมผู้เข้าชมเว็บไซต์พร้อมกำหนดระยะเวลาการเป็นสมาชิกได้
หากต้องการเข้าถึงลูกค้าที่ได้ทำการซื้อหลังจากระยะเวลา 30 วันจนถึง 90 วัน ให้สร้างกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม โดยที่กลุ่มหนึ่งมีระยะเวลา 30 วัน และอีกกลุ่มมีระยะเวลา 90 วัน จากนั้นใช้กลุ่มชุดค่าผสมที่กำหนดเองเพื่อเข้าถึงลูกค้าทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่ม 90 วันแต่ไม่อยู่ในกลุ่ม 30 วัน
ตัวอย่าง
กลยุทธ์โฆษณา
10. ปรับแต่งโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกคุณต้องมีกลยุทธ์ครีเอทีฟโฆษณาเมื่อออกแบบโฆษณาสําหรับผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้ใช้แอป ซึ่งคําแนะนําทั่วไปมีดังนี้
- มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเข้าถึง
- มีรูปลักษณ์และให้ความรู้สึกเหมือนเว็บไซต์ของคุณ
- มีคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ดึงดูด
ตัวอย่าง
โฆษณาของเจนที่แสดงต่อผู้ที่เคยเข้าชมส่วนเสื้อผ้าชั้นนอกของผู้หญิงในเว็บไซต์ของเธอจะมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นหากโฆษณานั้นโปรโมตเสื้อแจ็กเก็ตกระดุมหน้าของผู้หญิง แทนที่จะใช้ข้อความทั่วไป
ราคาเสนอที่สูงขึ้นจะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนที่อยู่ในกลุ่มได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายที่มีค่ากลุ่มนี้จะได้รู้จักคุณ เมื่อคุณต้องกำหนดว่าจะเสนอราคาเท่าใด ให้พิจารณาถึงมูลค่าของลูกค้าในกลุ่มข้อมูลแต่ละกลุ่ม
ตัวอย่าง
ระพีจำหน่ายเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากโทรทัศน์ทำกำไรได้มากกว่ากล้อง เขาจึงเสนอราคาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเป้าหมายเป็นผู้เข้าชมหน้าขายโทรทัศน์สูงกว่ากลุ่มที่สร้างสำหรับหน้าขายกล้อง
นอกจากนี้เขายังสร้างชุดค่าผสมที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายลูกค้า 2 ชุดต่อไปนี้อีกด้วย
- ผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์แต่ไม่ได้ทำการซื้อ
- ผู้ที่เริ่มกระบวนการเช็คเอาท์บนเว็บไซต์แล้ว แต่ออกจากกระบวนการโดยที่ยังซื้อไม่เสร็จ
คนที่เลือกผลิตภัณฑ์ใส่ในรถเข็นช็อปปิ้งแล้วมีแนวโน้มจะดำเนินการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์มากกว่า ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงอาจมีค่าสำหรับเขามากกว่า ในกรณีนี้ เขาจึงเสนอราคาสูงกว่าสําหรับกลุ่มโฆษณาที่มีกลุ่มข้อมูลนี้
กลยุทธ์ทั่วไป
13. ขยายการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่และการกำหนดภาษาเป้าหมายเนื่องจากข้อมูลที่ประกอบด้วยผู้เข้าชมเว็บไซต์ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการได้ คุณจึงควรที่จะแสดงโฆษณาต่อลูกค้าเหล่านี้ได้ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดก็ตามบนอินเทอร์เน็ต ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณอาจใช้ภาษาได้หลายภาษาและอาจเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้จากทั่วโลก ดังนั้นโปรดตรวจสอบว่าคุณได้เลือกกำหนดเป้าหมายทุกภาษาในการตั้งค่าแคมเปญ
เมื่อเลือกการกำหนดสถานที่เป้าหมาย โปรดทราบว่าคุณควรให้บริการแก่ลูกค้าในพื้นที่ที่กำหนดเป้าหมายได้
การเพิ่มระยะเวลาของกลุ่มข้อมูล (เช่น จาก 30 เป็น 60 วัน) จะทำให้คุณดึงดูดผู้คนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีส่วนมาก ยิ่งระยะเวลานาน ผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มก็จะเพิ่มขึ้น
เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะเกิด Conversion จากกลุ่มข้อมูล คุณอาจลดระยะเวลาการเป็นสมาชิกของกลุ่มข้อมูลลงเพื่อเข้าถึงเฉพาะผู้เข้าชมล่าสุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การลดระยะเวลาอาจเป็นการจำกัดจำนวนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่คุณเข้าถึงได้
ความถี่สูงสุดจะจำกัดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้แต่ละรายเห็นโฆษณาหนึ่งๆ ในแต่ละวัน ซึ่งอาจลดจำนวนการแสดงผลของคุณ
การตั้งเวลาโฆษณาช่วยให้คุณระบุเวลาและวันในสัปดาห์ที่ต้องการให้โฆษณาแสดง เพื่อที่จะเข้าถึงลูกค้าขณะที่ตื่นอยู่และกำลังออนไลน์เพื่อดูโฆษณาได้
กลยุทธ์ระยะยาว
18. ลงทุนงบประมาณโฆษณาในเว็บไซต์ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ถ้าคุณใช้งบประมาณในสัดส่วนสูงบนเว็บไซต์ 1-2 แห่ง แต่ไม่ได้รับ Conversion มากพอที่จะคุ้มค่าต่อการลงทุน คุณอาจลดราคาเสนอสำหรับเว็บไซต์นี้ หรือยกเว้นเว็บไซต์นี้จากแคมเปญ
ในทางกลับกัน หากมีบางไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากและมี CPA ต่ำ คุณอาจต้องการเพิ่มราคาเสนอสำหรับเว็บไซต์เหล่านี้
เครื่องมือวัด Conversion ช่วยให้คุณเห็นจำนวน Conversion ที่ได้รับจากแคมเปญ Google Ads นอกจากนี้คุณยังสามารถประเมินประสิทธิภาพในเว็บไซต์ในเครือข่ายดิสเพลย์ที่แสดงโฆษณาเทียบกับประสิทธิภาพในเครือข่ายการค้นหา แล้วตัดสินใจว่าจะเสนอราคาและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างไรตามข้อมูลนี้ได้อีกด้วย
ใช้กลยุทธ์การโฆษณาออนไลน์เสริมเพื่อดึงดูดให้มีคนเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นแล้วเพิ่มคนเหล่านี้ลงในกลุ่มข้อมูล แคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์และการค้นหาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำเช่นนี้