กฎอัตโนมัติช่วยให้ตั้งเวลาให้โฆษณาปรากฏในช่วงเวลาหนึ่งๆ ของวัน รวมถึงปรับราคาเสนอตามช่วงเวลาของวัน ปัจจัยตามฤดูกาล หรือเงื่อนไขแบบไดนามิกอื่นๆ หรือควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่ายด้วยการแสดงโฆษณาตามเวลาที่คุณเลือกเท่านั้น
หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้คิดถึงงานที่คุณทำเป็นประจำในบัญชี Google Ads แล้วเขียนขั้นตอนที่ดำเนินการออกมา จากนั้นจึงจัดโครงสร้างกฎให้การทำงานเหล่านี้ดำเนินการเองโดยอัตโนมัติให้กับคุณ
บทความนี้แสดงตัวอย่างกฎยอดนิยม คุณใช้เป้าหมายประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเองเพื่อเลือกเมตริกและการดำเนินการที่เหมาะสมได้
เมื่อคุณสร้างกฎ โปรดตรวจสอบประสิทธิภาพของกฎเหล่านั้นเป็นประจำ และปรับแต่งกฎจนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
หมายเหตุ: เมื่อกำหนดให้กฎทำงานในช่วงเวลาหนึ่งๆ สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือเวลาดำเนินการมาตรฐานสำหรับกฎในการทำงานก็คือภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากที่เรียกใช้เงื่อนไข ตัวอย่างเช่น หากตั้งเวลากฎไว้ที่ 9.00 น. กฎอาจทำงานในเวลาใดก็ได้ระหว่าง 9.00 น.-11.00 น.
วิธีการ
ตั้งเวลาโฆษณา
เปิดหรือปิดโฆษณาพิเศษหลายรายการสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขาย
สมมติว่าคุณมีโฆษณาส่งเสริมการขายหลายรายการที่มีวลี "ข้อเสนอพิเศษสำหรับวันทหารผ่านศึก" และคุณต้องการให้โฆษณาเหล่านี้ทำงานในช่วงสุดสัปดาห์ของวันทหารผ่านศึก ขั้นแรก สร้างโฆษณาเหล่านี้ล่วงหน้าและหยุดโฆษณาไว้ชั่วคราว จากนั้นสร้างกฎที่ใช้ครั้งเดียว 2 ข้อ โดยกฎข้อแรกจะเปิดใช้โฆษณาเหล่านี้ในวันแรกของสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึก (เช่น วันที่ 28 พฤษภาคม เวลาประมาณ 17.00 น.) และกฎข้อที่ 2 จะหยุดโฆษณาไว้ชั่วคราวเมื่อสุดสัปดาห์จบลง (30 พฤษภาคม เวลาประมาณ 23.00 น.)
- คลิกโฆษณาและส่วนขยาย
- คลิกไอคอน 3 จุด
แล้วเลือกสร้างกฎอัตโนมัติ
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปิดใช้โฆษณา
- ในส่วน "ใช้กับโฆษณา" ให้เลือกโฆษณาที่เปิดใช้และหยุดชั่วคราวทั้งหมด
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกข้อความโฆษณา
- ในช่อง "ค่า" ให้ป้อน “ข้อเสนอพิเศษสำหรับวันทหารผ่านศึก” แล้วคลิกใช้
- ภายใน "ความถี่" ให้เลือกครั้งเดียว แล้วเลือก 28 พฤษภาคม 2018 เวลา 17.00 น.
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎเพื่อบันทึกกฎ 1
- หากต้องการสร้างกฎ 2 ให้คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือก หยุดโฆษณาชั่วคราว
- ในส่วน "ใช้กับ" ให้เลือกโฆษณาที่เปิดใช้และหยุดชั่วคราวทั้งหมด
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกข้อความโฆษณา
- ในช่อง "ค่า" ให้ป้อน “ข้อเสนอพิเศษสำหรับวันทหารผ่านศึก” แล้วคลิกใช้
- ภายใน "ความถี่" ให้เลือกครั้งเดียว แล้วเลือก 30 พฤษภาคม 2018 เวลา 23.00 น.
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎเพื่อบันทึกกฎ 2
แล้วเลือกสร้างกฎอัตโนมัติเปิดหรือปิดโฆษณาพิเศษหลายรายการแบบทำซ้ำ (เช่น ทุกสุดสัปดาห์)
สมมติว่าคุณต้องการแสดงโฆษณาพิเศษ "ส่งฟรี" ทุกๆ สุดสัปดาห์ โดยการใช้กฎรายสัปดาห์สองข้อ โฆษณาเหล่านี้จะถูกเปิดใช้งานทุกเช้าวันเสาร์ (กฎ 1) และถูกหยุดชั่วคราวทุกคืนวันอาทิตย์ (กฎ 2) คุณจะใช้ข้อความโฆษณาเพื่อเลือกโฆษณาทั้งหมดที่ต้องการในบัญชีได้ (แทนที่จะเลือกโฆษณาทีละรายการจากตาราง ดังที่แสดงไว้ในตัวอย่างด้านล่าง)
- คลิกโฆษณาและส่วนขยาย
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือก เปิดใช้โฆษณา
- ในส่วน "ใช้กับโฆษณา" ให้เลือกโฆษณาที่เปิดใช้และหยุดชั่วคราวทั้งหมด
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกข้อความโฆษณา
- ในช่อง "ค่า" ให้ป้อน “ส่งฟรี” และคลิกใช้
- ภายใน "ความถี่" ให้เลือกรายสัปดาห์ และเลือกวันเสาร์ เวลา 1.00 น.
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎเพื่อบันทึกกฎ 1
- หากต้องการสร้างกฎ 2 ให้คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกหยุดโฆษณาชั่วคราว
- ในส่วน "ใช้กับ" ให้เลือกโฆษณาที่เปิดใช้และหยุดชั่วคราวทั้งหมด
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกข้อความโฆษณา
- ในช่อง "ค่า" ให้ป้อน “ส่งฟรี” และคลิกใช้
- ภายใน "ความถี่" ให้เลือกรายสัปดาห์ และเลือกวันอาทิตย์ เวลา 23.00 น.
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎเพื่อบันทึกกฎ 2
เปิดหรือปิดแคมเปญโฆษณาพิเศษสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขาย
สมมติว่าคุณมีแคมเปญโฆษณาพิเศษที่ต้องการใช้งานในวันที่ 1 พฤษภาคม ขั้นแรก สร้างแคมเปญนี้ล่วงหน้าและหยุดแคมเปญไว้ชั่วคราว จากนั้นสร้างกฎที่ใช้ครั้งเดียว 2 ข้อ โดยกฎข้อแรกจะเปิดใช้แคมเปญนี้เมื่อถึงวันประกาศอิสรภาพ (เช่น วันที่ 1 พฤษภาคม เวลาประมาณ 01.00 น.) และกฎข้อที่ 2 จะหยุดแคมเปญนี้ไว้ชั่วคราวเมื่อหมดวัน (เวลาประมาณ 23.00 น.)
- คลิกแคมเปญ
- คลิกไอคอน 3 จุด
- สำหรับกฎ 1 เลือกเปิดใช้แคมเปญ สำหรับกฎ 2 เลือกหยุดแคมเปญชั่วคราว
- ในส่วน "ใช้กับแคมเปญ" ให้เลือกเลือกแคมเปญ และเลือกแคมเปญที่คุณต้องการรวม
- สำหรับกฎ 1 ในส่วน "ความถี่" ให้เลือกครั้งเดียว และเลือก 1 พฤษภาคม 2018 เวลา 1.00 น. สำหรับกฎ 2 ให้เลือก 1 พฤษภาคม 2018 เวลา 23.00 น.
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎ
แก้ไขโฆษณาหรือคีย์เวิร์ด
หยุดคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพต่ำชั่วคราว โดยพิจารณาจากเมตริกประสิทธิภาพ (เช่น มีราคาต่อหนึ่ง Conversion สูง)
ผู้ลงโฆษณาบางรายทดสอบคีย์เวิร์ดต่างๆ และพยายามเก็บคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดไว้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพต่ำไปด้วย คุณจะใช้กฎอัตโนมัติในกระบวนการนี้ได้ โดยหยุดคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพไม่ตรงตามต้องการไว้ชั่วคราวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและเปิดใช้คีย์เวิร์ดเหล่านั้นใหม่ในภายหลัง ตัวอย่างเช่น ใช้ข้อมูล Conversion ได้ถ้าคุณเปิดใช้งานเครื่องมือวัด Conversion ไว้
ต่อไปนี้คือตัวอย่างการหยุดคีย์เวิร์ดที่มีราคาต่อหนึ่ง Conversion สูงมากไว้ชั่วคราว: กฎรายเดือนจะหยุดคีย์เวิร์ดทั้งหมดที่มีราคาต่อหนึ่ง Conversion มากกว่า 600 บาท และได้รับ Conversion อย่างน้อย 100 Conversion ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โปรดอย่าลืมว่า เมตริกประสิทธิภาพ (ราคา 600 บาทต่อหนึ่ง Conversion) และข้อมูลที่สนใจ (100 Conversion ในหนึ่งเดือน) เป็นข้อมูลที่ขึ้นอยู่กับผู้ลงโฆษณาแต่ละราย คุณควรเลือกข้อมูลเหล่านี้ตามเป้าหมายประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
วิธีสร้างกฎนี้มีดังนี้
- คลิกคีย์เวิร์ด
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกหยุดคีย์เวิร์ดชั่วคราว
- ในส่วน "ใช้กับคีย์เวิร์ด" ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ในส่วนเงื่อนไข ให้คลิก +เพิ่ม และเลือก Conversion
- ตั้งค่า Conversion เป็น “>100” และคลิกใช้
- คลิก +เพิ่ม และเลือกราคา/1 Conv
- ตั้งค่า ราคา/1 Conv. เป็น " > $20" และคลิกใช้
- ในส่วน "ความถี่" ให้เลือกรายวัน เวลาใดก็ได้ โดยใช้ข้อมูลจาก 30 วันก่อนหน้า
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
โปรดทราบว่าเมื่อคุณสร้างกฎที่พิจารณาจาก Conversion เราแนะนำให้ใช้ช่วงเวลาที่ยาว (เช่น 7 วันก่อนหน้าหรือ 30 วันก่อนหน้า) เพื่อจะได้เก็บรวบรวม Conversion ได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจาก Conversion อาจใช้เวลานานถึง 30 วัน
หยุดโฆษณาที่มีประสิทธิภาพต่ำชั่วคราว โดยพิจารณาจากเมตริกประสิทธิภาพ (เช่น CTR ต่ำ)
ผู้ลงโฆษณาบางรายทดสอบโฆษณาต่างๆ และเก็บโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดไว้ คุณจะใช้กฎอัตโนมัติในกระบวนการนี้ได้ โดยหยุดโฆษณาที่มีประสิทธิภาพไม่ตรงตามต้องการไว้ชั่วคราวอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น คุณจะใช้กฎรายวันเพื่อหาโฆษณาที่มีอัตราการคลิกผ่านน้อยกว่า 0.2% และมีการแสดงผลมากกว่า 1,000 ครั้งในวันสุดท้ายได้ (เพื่อจะได้มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจ) จากนั้นโฆษณาเหล่านี้จะหยุดชั่วคราวได้โดยอัตโนมัติ
โปรดอย่าลืมว่า เมตริกประสิทธิภาพ (ในกรณีนี้ CTR 0.2%) และข้อมูลที่สนใจ (การแสดงผล 1,000 ครั้งในหนึ่งวัน) เป็นข้อมูลที่ขึ้นอยู่กับผู้ลงโฆษณาแต่ละราย คุณควรเลือกข้อมูลเหล่านี้ตามเป้าหมายประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
วิธีสร้างกฎนี้มีดังนี้
- คลิกโฆษณาและส่วนขยาย
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกหยุดโฆษณาชั่วคราว
- ในส่วน "ใช้กับโฆษณา" ให้เลือกโฆษณาที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือก CTR
- ตั้งค่า CTR เป็น “.2%” และคลิกใช้
- +เพิ่ม และเลือกการแสดงผล
- ตั้งค่าการแสดงผลเป็น “ >= 1000”
- ในส่วน "ความถี่" ให้เลือกรายวัน โดยใช้ข้อมูลจาก 14 วันก่อนหน้า
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
กฎที่อธิบายไว้ข้างต้นจะทำงานกับโฆษณาที่ตรงตามเงื่อนไขของแคมเปญทั้งหมดของคุณ หากต้องการให้กฎทำงานเฉพาะกับโฆษณาที่อยู่ในแคมเปญที่เจาะจง 3 รายการเท่านั้น ให้เพิ่มเงื่อนไขแคมเปญและเลือก 3 แคมเปญดังกล่าว
เปลี่ยน URL สุดท้ายสําหรับคีย์เวิร์ด
คุณตั้งกฎเพื่ออัปเดต URL สุดท้ายของคีย์เวิร์ดได้
วิธีสร้างกฎนี้มีดังนี้
- คลิกไอคอนเครื่องมือ
- ไปที่ "การดําเนินการแบบกลุ่ม" แล้วเลือกกฎ
- คลิกปุ่มบวกสีน้ำเงิน
แล้วเลือก +กฎคีย์เวิร์ด
- ในส่วน "การดําเนินการ" ให้เลือกเปลี่ยน URL สุดท้ายของคีย์เวิร์ดจากเมนูแบบเลื่อนลง
- ภายใน "ทําการเปลี่ยนแปลงกับ" ให้เลือกว่าการดําเนินการนี้มีผลกับ URL ในทุกอุปกรณ์หรือ URL สุดท้ายที่ปรากฏในอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ภายใน "การดำเนินการ" ให้เลือกว่าจะกําหนด URL ใหม่ เพิ่มข้อความใน URL ที่มีอยู่ หรือค้นหาและแทนที่ข้อความใน URL ที่เฉพาะเจาะจง
- เลือกประเภทของ URL ที่ต้องการให้ได้รับผลจากกฎนี้ในส่วน "ใช้กับ" และ "เงื่อนไข"
- เลือกความถี่ที่กฎนี้จะทํางาน
- เลือกว่าต้องการให้ระบบส่งอีเมลถึงคุณเกี่ยวกับกฎนี้หรือไม่
- เลือกบันทึกกฎเมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว
สร้างกฎเพื่อใช้ป้ายกํากับ
คุณสามารถสร้างกฎเพื่อช่วยสร้างการจัดกลุ่มป้ายกํากับที่สื่อความหมายให้บัญชีที่จัดการ แคมเปญ กลุ่มโฆษณา คีย์เวิร์ด และโฆษณาได้ ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อสร้างและใช้กฎ
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
- ไปที่หน้าบัญชี แคมเปญ กลุ่มโฆษณา คีย์เวิร์ด หรือโฆษณาและส่วนขยาย
- คลิกไอคอน 3 จุด
ด้านบนตารางสถิติ
- เลือกสร้างกฎอัตโนมัติ
- เลือกชื่อให้กฎ
- ในเมนูแบบเลื่อนลงชื่อ "การกระทํา" ให้เลือกเปลี่ยนป้ายกํากับ
- ในส่วนเมนูแบบเลื่อนลงชื่อ "ใช้กับ" ให้เลือกตําแหน่งที่ต้องการใช้ป้ายกํากับ
- เลือกเงื่อนไข ความถี่ หรือผลลัพธ์ของอีเมลของกฎ
- คลิกแสดงตัวอย่างเพื่อดูว่าคุณได้ตั้งค่ากฎให้ทำงานตามที่ต้องการแล้ว การแสดงตัวอย่างเป็นเพียงการตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น และจะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรใดๆ กับบัญชี
ด้านบนตารางสถิติราคาเสนอและการกำหนดเวลาการเสนอราคา
ปรับราคาเสนอของคีย์เวิร์ดตามราคาต่อหนึ่ง Conversion
คุณใช้กฎอัตโนมัติเพื่อเพิ่มราคาเสนอของคีย์เวิร์ดที่ทำให้เกิด Conversion ได้ดีและมีราคาต่อหนึ่ง Conversion ต่ำ แล้วลดราคาเสนอของคีย์เวิร์ดที่ไม่เข้าข่ายนี้ได้ ตัวอย่างเช่น กฎรายสัปดาห์อาจเพิ่มราคาเสนอ CPC สูงสุดขึ้น 15% สำหรับคีย์เวิร์ดที่มี Conversion มากกว่า 50 รายการและราคาต่อหนึ่ง Conversion ต่ำกว่า 300 บาทซึ่งเรียกใช้โฆษณาในอันดับที่แย่กว่า 3 โปรดทราบว่าเราแนะนำให้ตั้งค่าราคาเสนอสูงสุดเป็นการป้องกันไว้ก่อน กฎรายสัปดาห์ข้อที่ 2 อาจลดราคาเสนอลง 15% สำหรับคีย์เวิร์ดที่มีราคาต่อหนึ่ง Conversion มากกว่า 360 บาท วิธีสร้างกฎมีดังนี้
- คลิกคีย์เวิร์ด
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด
- ในส่วน "ใช้กับคีย์เวิร์ด" ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ภายใน "การดำเนินการ" ให้เลือกเพิ่มราคาเสนอ
- ป้อน "15%" ถัดจาก "เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์"
- ในส่วน "เงื่อนไข" คลิก +เพิ่ม และเลือกราคา/1 Conv.
- ตั้งค่าราคา/1 Conv. เป็น “<$10”
- คลิก +เพิ่ม เลือก Conversion และตั้งค่าเป็น “>50”
- คลิก +เพิ่ม เลือกอันดับเฉลี่ย และตั้งค่าเป็น “<3”
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกบันทึกกฎเพื่อสร้างกฎ 1
- สำหรับกฎ 2 ภายใน "การดำเนินการ" ให้เลือกลดราคาเสนอ
- ป้อน "15%" ถัดจาก "ลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์"
- ในส่วน "เงื่อนไข" คลิก +เพิ่ม และเลือกราคา/1 Conv.
- ตั้งค่าราคา/1 Conv. เป็น “>$12”
- คลิก +เพิ่ม เลือก Conversion และตั้งค่าเป็น “>50”
- คลิก +เพิ่ม เลือกอันดับเฉลี่ย และตั้งค่าเป็น “<3”
- ในส่วน "ความถี่" ให้เลือกรายสัปดาห์ โดยใช้ข้อมูลจากสัปดาห์ล่าสุด
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
เคล็ดลับ
เมื่อคุณสร้างกฎที่พิจารณาจาก Conversion เราแนะนำให้คุณเลือกช่วงเวลาที่ยาวสำหรับช่อง "โดยใช้ข้อมูลจาก" (เช่น 14 วันที่ผ่านมา 30 วันที่ผ่านมา หรือนานกว่านั้น) เพื่อจะได้เก็บรวบรวม Conversion อย่างเหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจาก Conversion อาจใช้เวลานานถึง 30 วัน
เปลี่ยนราคาเสนอเพื่อกำหนดเป้าหมายอันดับเฉลี่ย (เครือข่ายการค้นหาเท่านั้น)
ผู้ลงโฆษณาบางรายต้องการให้โฆษณาของตนแสดงในอันดับโฆษณาเฉพาะเจาะจง เช่น ในตำแหน่งสูงสุด 2 อันดับแรก หรืออันดับ 3-5 การปรับราคาเสนอระดับคีย์เวิร์ดนั้นช่วยได้ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าราคาเสนอที่สูงกว่าบางครั้งอาจนำไปสู่อันดับโฆษณาเฉลี่ยที่ต่ำกว่าก็ได้ ทั้งนี้เราแนะนำให้คุณดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอันดับโฆษณาและลำดับโฆษณาก่อน
หากต้องการกำหนดเป้าหมายอันดับ 3-5 ให้สร้างกฎ "เปลี่ยนราคาเสนอระดับคีย์เวิร์ด" รายวันขึ้น 2 ข้อ กฎข้อแรกจะเพิ่มราคาเสนอเมื่ออันดับเฉลี่ยต่ำกว่า 5 และกฎข้อที่ 2 จะลดราคาเสนอเมื่ออันดับเฉลี่ยสูงกว่า 3
วิธีสร้างกฎมีดังนี้
- คลิกคีย์เวิร์ด
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด
- ในส่วน "ใช้กับคีย์เวิร์ด" ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ภายใน "การทำงาน" ให้เลือกเพิ่มราคาเสนอให้เท่ากับ CPC สำหรับด้านบนของหน้าเว็บ
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกอันดับเฉลี่ย
- ตั้งค่าอันดับเฉลี่ยเป็น “>5”
- ตั้งค่าความถี่เป็นรายวัน โดยใช้ข้อมูลจากวันที่ผ่านมา
- ตั้งชื่อและบันทึกกฎ 1
- สำหรับกฎ 2 ภายใน "การทำงาน" ให้เลือกเพิ่มราคาเสนอให้เท่ากับ CPC สำหรับหน้าแรก
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกอันดับเฉลี่ย
- ตั้งค่าอันดับเฉลี่ยเป็น “<3”
- ตั้งค่าความถี่เป็นรายวัน โดยใช้ข้อมูลจากวันที่ผ่านมา
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
หากคุณยังห่างไกลจากอันดับเฉลี่ยที่ต้องการ ให้สร้างกฎหลายข้อเพื่อช่วยให้ไปถึงอันดับดังกล่าวได้เร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่ออันดับเฉลี่ยแย่กว่า 5 แต่ดีกว่า 7 คุณอาจเพิ่มราคาเสนอ 10% หรือหากอันดับเฉลี่ยแย่กว่า 7 ให้เพิ่มราคาเสนอ 20%
เพิ่มราคาเสนอเพื่อให้มั่นใจว่าโฆษณาจะแสดงบนหน้าแรก (เครือข่ายการค้นหาเท่านั้น)
ผู้ลงโฆษณาบางรายต้องการให้แน่ใจว่าโฆษณาของตนอยู่ในหน้าแรกเป็นอย่างน้อยเสมอ คุณใช้กฎอัตโนมัติเพื่อเพิ่มราคาเสนอของคีย์เวิร์ดให้เป็นราคาเสนอหน้าแรกที่แนะนำ และให้กฎนี้ทำงานทุกวันได้
แต่ก็อย่าลืมระบุราคาเสนอสูงสุด และเพิ่มข้อกำหนดให้สถานะคีย์เวิร์ดเป็น "ต่ำกว่าการเสนอราคาสำหรับหน้าแรก" ด้วย เพื่อให้เปลี่ยนเฉพาะราคาเสนอของคีย์เวิร์ดที่ไม่ได้แสดงในหน้าแรกอยู่แล้ว นอกจากนี้ คุณอาจเพิ่มราคาเสนอเฉพาะสำหรับคีย์เวิร์ดที่มีคะแนนคุณภาพดี (เช่น คะแนนคุณภาพ >= 6) เพื่อไม่ให้ไปเพิ่มราคาเสนอของคีย์เวิร์ดที่ยังต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ
- คลิกคีย์เวิร์ด
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด
- ในส่วน "ใช้กับคีย์เวิร์ด" ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ภายใน "การทำงาน" ให้เลือกเพิ่มราคาเสนอให้เท่ากับ CPC สำหรับหน้าแรก
- (ไม่บังคับ) ตั้งค่า “ขีดจำกัดราคาเสนอสูงสุด”
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกคะแนนคุณภาพ
- ตั้งค่าคะแนนคุณภาพเป็น ">=6"
- ตั้งค่าความถี่เป็นรายวัน โดยใช้ข้อมูลจากวันที่ผ่านมา
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
เพิ่มราคาเสนอเป็นราคาเสนอที่แนะนำสำหรับด้านบนของหน้า (เครือข่ายการค้นหาเท่านั้น)
คุณใช้กฎอัตโนมัติกับค่าประมาณราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าเว็บเพื่อเพิ่มราคาเสนอของคีย์เวิร์ดให้เป็นราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าที่แนะนำ และให้กฎนี้ทำงานทุกวันได้
โปรดอย่าลืมระบุราคาเสนอสูงสุด นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้เพิ่มเฉพาะราคาเสนอสำหรับคีย์เวิร์ดที่มีคะแนนคุณภาพที่ดี (เช่น คะแนนคุณภาพ >= 6) เพื่อให้ไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากไปกับคีย์เวิร์ดที่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ
- คลิกคีย์เวิร์ด
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด
- ในส่วน "ใช้กับคีย์เวิร์ด" ให้เลือกคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด
- ภายใน "การทำงาน" ให้เลือกเพิ่มราคาเสนอให้เท่ากับ CPC สำหรับด้านบนของหน้าเว็บ
- (ไม่บังคับ) ตั้งค่า “ขีดจำกัดราคาเสนอสูงสุด”
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกคะแนนคุณภาพ
- ตั้งค่าคะแนนคุณภาพเป็น ">=6"
- ตั้งค่าความถี่เป็นรายวัน โดยใช้ข้อมูลจากวันที่ผ่านมา
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
การกำหนดเวลาการเสนอราคา (เช่น บางช่วงเวลาของวันมีราคาเสนอสูงขึ้น)
คุณใช้กฎอัตโนมัติเพื่อเพิ่มและลดราคาเสนอตามวันของสัปดาห์ หรือตามช่วงเวลาในแต่ละวันได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจตั้งค่ากฎรายวัน 2 ข้อให้เพิ่มราคาเสนอระหว่างเวลา 18.00 - 22.00 น. ทุกวัน กฎข้อแรกจะเพิ่มราคาเสนอขึ้น 25% ที่เวลาประมาณ 18.00 น. และกฎข้อที่ 2 จะลดราคาเสนอนั้นลง 20% ที่เวลาประมาณ 22.00 น. ดังนั้นราคาเสนอจะกลับมาเท่าเดิม (30 บาทเพิ่มขึ้น 25% คือ 37.50 บาท 37.50 บาทลดลง 20% จะกลับมาเป็น 30 บาทอีกครั้ง)
เคล็ดลับ
ลองดูวิธีคำนวณ % การลดและเพิ่มอย่างง่ายต่อไปนี้ เมื่อการเพิ่มขึ้นเป็น x % แล้ว การลดลงที่สอดคล้องกัน d % เพื่อกลับไปยังค่าเดิมเป็นไปตามสูตรนี้: d = (100 * x) / (100 + x) ในตัวอย่างด้านบน x = 25 ดังนั้น d = (100 * 25) / (100 + 25) = 20
ควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่าย
การตรวจสอบงบประมาณของคุณ
คุณใช้กฎอัตโนมัติเพื่อให้ส่งอีเมลเมื่อมีเหตุการณ์ที่ตรงตามเงื่อนไขที่ระบุเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีแคมเปญที่มีงบประมาณรายวันเท่ากับ 4,000 บาท คุณจะตั้งค่ากฎอัตโนมัติให้ทำงานตอนเที่ยงทุกวัน โดยให้ส่งอีเมลถึงคุณถ้าคุณได้ใช้จ่ายไปมากกว่า 2,000 บาทแล้วสำหรับวันนั้นได้ เมื่อได้รับอีเมลแจ้งเตือน คุณจะเลือกได้ว่าจะเพิ่มงบประมาณหรือไม่ เพื่อให้แคมเปญทำงานได้เต็มที่ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของวัน
วิธีสร้างกฎที่จะส่งอีเมลถ้าหากแคมเปญที่ระบุมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,500 บาทแล้วภายในเวลา 12.00 น. มีดังนี้
- คลิกแคมเปญ
- คลิกชื่อแคมเปญซึ่งมีงบประมาณที่คุณต้องการติดตาม
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกส่งอีเมล
- ในส่วน "ใช้กับกลุ่มโฆษณา" ให้เลือกกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ทั้งหมด หรือเลือกกลุ่มโฆษณาเฉพาะเจาะจง
- ในส่วน "เงื่อนไข" ให้คลิก +เพิ่ม และเลือกค่าใช้จ่าย
- กำหนดค่าใช้จ่ายเป็น “>$50”
- ตั้งความถี่เป็นทุกวัน 12.00 น. โดยใช้ข้อมูลจากวันเดียวกัน
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
คุณตั้งค่ากฎที่คล้ายกันนี้ให้ส่งอีเมลถึงคุณเมื่อเกิดเหตุการณ์ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในกลุ่มโฆษณา โฆษณา และคีย์เวิร์ดได้
การกำหนดเวลางบประมาณ (เช่น งบประมาณที่สูงขึ้นในบางวันของสัปดาห์)
กฎอัตโนมัติช่วยให้คุณเพิ่มหรือลดงบประมาณแคมเปญตามวันของสัปดาห์ได้อย่างยืดหยุ่น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทราบว่า Conversion ส่วนใหญ่เกิดในวันอังคารและวันพุธ คุณอาจตั้งกฎเพื่อเพิ่มงบประมาณตอนเช้าวันอังคาร และลดงบประมาณกลับเป็นค่าปกติในคืนวันพุธ
ตัวอย่างเช่น กฎข้อแรกจะเพิ่มงบประมาณของคุณ 50% และกฎข้อที่สองจะลดงบประมาณนั้นลง 33.3% ดังนั้นงบประมาณจะกลับมาเท่าเดิม (3,000 บาทเพิ่มขึ้น 50% คือ 4,500 บาท 4,500 บาทลดลง 33.3% จะกลับมาเป็น 3,000 บาทอีกครั้ง)
วิธีสร้างกฎ 2 ข้อดังกล่าวมีดังนี้
- คลิกแคมเปญ
- คลิกไอคอน 3 จุด
- ภายใน "ประเภทกฎ" ให้เลือกเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
- ในส่วน "ใช้กับแคมเปญ" ให้เลือกแคมเปญที่เปิดใช้ทั้งหมด
- สำหรับกฎ 1 ภายใน "การทำงาน" ให้เลือกเพิ่มงบประมาณ และป้อน “50%”
- สำหรับกฎ 2 ภายใน "การดำเนินการ" ให้เลือกลดงบประมาณ และป้อน “33.3%”
- สำหรับกฎ 1 กำหนดความถี่เป็น รายสัปดาห์ วันอังคาร 1:00 น. โดยใช้ข้อมูลจาก สัปดาห์ก่อนหน้า
- สำหรับกฎ 2 กำหนดความถี่เป็นรายสัปดาห์ วันพุธ 23:00 น. โดยใช้ข้อมูลเดียวกัน
- ตั้งชื่อกฎของคุณแล้วบันทึก
เคล็ดลับ
ลองดูวิธีคำนวณ % การลดและเพิ่มอย่างง่ายต่อไปนี้ เมื่อการเพิ่มขึ้นเป็น x % แล้ว การลดลงที่สอดคล้องกัน d % เพื่อกลับไปยังค่าเดิมเป็นไปตามสูตรนี้: d = (100 * x) / (100 + x) ในตัวอย่างด้านบน x = 50 ดังนั้น d = (100 * 50) / (100 + 50) = 33.3
ดูว่ากฎรายสัปดาห์ 2 กฎมีลักษณะอย่างไรที่ด้านล่าง
หยุดแคมเปญที่ใช้งบประมาณถึงค่าที่กำหนดในระหว่างเดือนชั่วคราว
แม้ว่าคุณควบคุมค่าใช้จ่ายของแคมเปญโดยใช้งบประมาณรายวันของแคมเปญนั้นได้ แต่ก็อาจต้องการจำกัดค่าใช้จ่ายรายเดือนของแคมเปญนั้นด้วย ซึ่งอาจทำได้ใกล้เคียงโดยใช้กฎอัตโนมัติที่ทำงานทุกวันในตอนเช้า และหยุดชั่วคราวแคมเปญใดๆ ที่ใช้จ่ายเป็นเงิน 8,000 บาทแล้วในเดือนนี้ เป็นต้น ซึ่งทำได้โดยใช้ความถี่เป็น "รายวัน" และตั้งค่า "โดยใช้ข้อมูลจาก" เป็น "เดือนเดียวกัน"
หยุดแคมเปญที่มีจำนวนคลิกถึงจำนวนที่กำหนดระหว่างวันชั่วคราว
ในบางกรณี คุณอาจต้องการจำกัดจำนวนคลิก เช่น 500 คลิกสำหรับแคมเปญหนึ่งในแต่ละวัน ซึ่งทำได้ใกล้เคียงโดยการสร้างกฎรายวันหลายๆ กฎโดยแต่ละกฎทำงานในชั่วโมงที่ต่างกันของวันนั้นๆ แต่ละกฎจะตรวจสอบว่าแคมเปญได้รับถึง 500 คลิกหรือยัง ถ้าถึงแล้ว แคมเปญนั้นจะถูกหยุดชั่วคราว ในกรณีง่ายๆ วิธีนี้อาจใช้กฎรายวัน 4 ข้อ ได้แก่
- กฎข้อ 1: เมื่อถึงเวลาประมาณ 6.00 น. ให้ตรวจสอบว่ามีจำนวนคลิกถึง 500 คลิกหรือยัง และหยุดแคมเปญชั่วคราวหากถึงแล้ว
- กฎข้อ 2: เมื่อถึงเวลาประมาณ 12.00 น. ให้ตรวจสอบว่ามีจำนวนคลิกถึง 500 คลิกหรือยัง และหยุดแคมเปญชั่วคราวหากถึงแล้ว
- กฎข้อ 3: เมื่อถึงเวลาประมาณ 18.00 น. ให้ตรวจสอบว่ามีจำนวนคลิกถึง 500 คลิกหรือยัง และหยุดแคมเปญชั่วคราวหากถึงแล้ว
- กฎข้อ 4: เปิดใช้แคมเปญที่เวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อให้แคมเปญพร้อมทำงานในวันถัดไป
เพิ่มงบประมาณสำหรับแคมเปญที่ทำ Conversion ได้ดี (โดยใช้ราคาต่อหนึ่ง Conversion)
ถ้าตั้งเป้าหมายราคาต่อหนึ่ง Conversion ไว้และเห็นว่าบางแคมเปญทำงานได้ดีกว่าที่คาด คุณควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับแคมเปญเหล่านี้ กฎรายสัปดาห์อัตโนมัติทำงานนี้ให้คุณได้ ตัวอย่างเช่น สร้างกฎว่า แคมเปญใดๆ ที่มี Conversion มากกว่า 10 รายการและราคาต่อหนึ่ง Conversion น้อยกว่า 200 บาท ควรได้รับงบประมาณเพิ่ม 10 % โปรดทราบว่าเราแนะนำให้ตั้งค่างบประมาณสูงสุดเป็นการป้องกันไว้ก่อน
เพิ่มราคาเสนอสำหรับมิติข้อมูลที่ทำงานได้ดีในแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์
สมมติว่าคุณมีแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์ที่กำหนดเป้าหมายอายุ 18-24, 25-34 และ 35-44 และคุณเสนอราคาให้แต่ละกลุ่มอายุเท่ากัน อย่างไรก็ตาม เมื่อแคมเปญทำงานไปสักพัก คุณก็สังเกตเห็นว่าบางกลุ่มอายุมีแนวโน้มสูงที่จะซื้อผลิตภัณฑ์จริงๆ เมื่อคลิกเข้าไปในเว็บไซต์แล้ว คุณจึงอาจเต็มใจที่จะลงทุนเป็นพิเศษเพื่อเข้าถึงกลุ่มอายุที่มี Conversion สูงเหล่านั้น
เพื่อทำเช่นนี้ คุณอาจสร้างกฎที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ โดยให้กฎนั้นพิจารณาข้อมูลประสิทธิภาพที่ผ่านมาและเพิ่มราคาเสนอสำหรับกลุ่มอายุที่มีอัตรา Conversion สูง (ซึ่งนำไปสู่ผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุน) ได้ ในทางกลับกัน คุณจะลดราคาเสนอสำหรับกลุ่มอายุที่มีอัตรา Conversion ต่ำก็ได้ ในกรณีนี้ คุณอาจตั้งราคาเสนอสูงสุดไว้ด้วยเพื่อไม่ให้เพิ่มราคาเสนอเกินกว่าที่ยินดีใช้จ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลักเกณฑ์ทั่วไปและตัวอย่าง
ใช้กฎรายวันที่เพิ่มหรือลดราคาเสนออย่างระมัดระวัง
กฎการเสนอราคารายวันที่ทำงานกับทั้งบัญชีควรมีการตั้งค่าอย่างรอบคอบ โดยทั่วไป หากกฎถูกตั้งค่าให้ทำงานทุกวัน คุณควรใช้ข้อมูลจาก "วันที่ผ่านมา" เปลี่ยนแปลงราคาเสนอของคุณเพียงเล็กน้อย (เช่น การเพิ่ม/ลด 5%) และสังเกตดูประสิทธิภาพอย่างใกล้ชิดอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่จะพิจารณาทำการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น
ยกเว้นไม่ให้กฎทำงานกับคีย์เวิร์ดบางคำ
บางครั้งคุณต้องการใช้กฎกับคีย์เวิร์ดทั้งหมด ยกเว้นคีย์เวิร์ดบางรายการที่ต้องการจัดการด้วยตัวเอง ซึ่งทำได้ด้วยการยกเว้นคีย์เวิร์ดเหล่านั้นโดยใช้ "เงื่อนไข" ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการกำหนดเวลาให้กฎเพิ่มราคาเสนอ CPC สำหรับคีย์เวิร์ดทั้งหมดในแคมเปญหนึ่ง ยกเว้นคีย์เวิร์ดที่มีคำว่า "งานแต่งงานแบบชนบท" ไปที่คีย์เวิร์ดของแคมเปญนั้น และเมื่อสร้างกฎ ให้ตั้งค่าข้อกำหนดว่าข้อความของคีย์เวิร์ดต้องไม่มี "งานแต่งงานแบบชนบท"
