ผู้ลงโฆษณาจำนวนมากต่างหวังว่าผู้ดูจะคลิกโฆษณาของตน แต่การคลิกก็ไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักเสมอไป บางครั้งคุณอาจเพียงต้องการให้ผู้คนจำนวนมากเห็นโฆษณา ในกรณีดังกล่าว ควรเลือกใช้การเสนอราคาแบบราคาต่อการแสดงผลที่ได้แสดง 1,000 ครั้ง (vCPM) เมื่อใช้การเสนอราคา vCPM คุณจะเสนอราคาให้กับโฆษณาโดยอิงตามความถี่ที่โฆษณาปรากฏในตําแหน่งที่มองเห็นได้ในเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google คุณจะกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่ต้องการจ่ายให้โฆษณาที่ได้แสดง ไม่ว่าโฆษณานั้นจะได้รับคลิกหรือไม่ก็ตาม
เหตุผลที่ควรใช้การเสนอราคา vCPM
บางคนชื่นชอบการเสนอราคา vCPM เนื่องจากต้องการกําหนดจํานวนเงินสูงสุดที่จะจ่ายเมื่อมีผู้เห็นโฆษณาแต่ละครั้ง หรือก็คือการแสดงผลที่ได้แสดงแต่ละครั้ง แทนที่จะเป็นการคลิกแต่ละครั้ง
การเสนอราคา vCPM ใช้งานไม่ได้สําหรับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา
เคล็ดลับ
หากคุณมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ยอดขายออนไลน์หรือการเข้าชมเว็บไซต์ การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวนคลิกสูงสุดหรือเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
การเปรียบเทียบการเสนอราคา vCPM และ CPC อย่างย่อ
ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นบางประการ
การเสนอราคา CPM ที่ได้แสดง | การเสนอราคา CPC | |
พิจารณาใช้การเสนอราคานี้ในกรณีที่: | คุณให้ความสำคัญกับการดูโฆษณามากกว่าจำนวนคลิกที่เกิดขึ้น | คุณให้ความสำคัญกับจำนวนคลิกมากกว่า |
ราคาเสนอ: | จำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับการแสดงผลที่ได้แสดง 1,000 ครั้ง | จำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับการคลิก 1 ครั้ง |
จำนวนเงินที่เรียกเก็บจริง: | ไม่เกินจำนวนเงินที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้อยู่ในอันดับสูงกว่าผู้ลงโฆษณาที่อยู่ต่ำกว่าคุณ คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับการแสดงผลใดๆ ที่ไม่ได้แสดง ดูวิธีเสนอราคาให้ได้การแสดงผลที่ได้แสดงโดยใช้ CPM ที่ได้แสดง | ไม่เกินจำนวนเงินที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้อยู่ในอันดับสูงกว่าผู้ลงโฆษณาที่อยู่ต่ำกว่าคุณ |
วิธีแข่งขันกันระหว่างราคาเสนอ vCPM และ CPC
โฆษณาที่ใช้ประเภทการเสนอราคาที่แตกต่างกันสามารถแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งบนเครือข่ายดิสเพลย์เดียวกันได้
เพื่อความยุติธรรม เมื่อโฆษณาที่ใช้ CPC และ vCPM แข่งขันกันเพื่อตำแหน่งบนเครือข่ายดิสเพลย์เดียวกัน ระบบจะเปรียบเทียบโฆษณาทั้ง 2 ประเภทในด้านของจำนวนเงินที่ยินดีจ่ายสำหรับการแสดงผล ในส่วนของโฆษณาที่ใช้ vCPM ราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงสูงสุดจะหมายถึงจำนวนเงินที่ผู้ลงโฆษณายินดีจ่ายสำหรับการแสดงผลที่ได้แสดงทุก 1,000 ครั้ง ขณะที่ในส่วนของโฆษณาที่ใช้ CPC นั้น Google จะประมาณจำนวนคลิกที่โฆษณาอาจได้รับจากการแสดงผล 1,000 ครั้งเพื่อนำมาใช้เปรียบเทียบ
วิธีใช้การเสนอราคา vCPM
เมื่อใช้การเสนอราคา vCPM คุณจะกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่ต้องการจ่ายสำหรับการแสดงโฆษณาที่ได้แสดงทุก 1,000 ครั้ง ซึ่งเราเรียกว่าราคาเสนอ vCPM สูงสุด หรือ "CPM ที่ได้แสดงสูงสุด" ยิ่ง CPM ที่ได้แสดงสูงสุดสูงมากเท่าใด โอกาสที่โฆษณาจะปรากฏก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น และเช่นเคย ระบบ Google Ads จะเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นจำนวนต่ำสุดเท่าที่จำเป็นในการวางโฆษณาให้อยู่เหนือโฆษณาอันดับถัดไปเท่านั้น และจะเรียกเก็บเงินเฉพาะเมื่อโฆษณาได้แสดงเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองแอ็กทีฟ
เคล็ดลับ
โฆษณาแบบข้อความที่ใช้ราคาเสนอ vCPM จะมีข้อได้เปรียบพิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือ เมื่อชนะและได้รับตำแหน่ง โฆษณาเหล่านี้จะได้รับพื้นที่โฆษณาทั้งหมดโดยไม่ต้องแชร์พื้นที่กับโฆษณาแบบข้อความอื่นๆ ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะสังเกตเห็นมากขึ้น
ราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงสูงสุดอาจชนะและได้รับการแสดงผลในระดับต่างๆ ที่ราคาต่างกับราคาเสนอ CPM สูงสุดแบบเดิม เนื่องจากไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับการแสดงผลที่ไม่ได้แสดง คุณจึงอาจต้องการเพิ่มราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงสูงสุดเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและปริมาณการเข้าชมในระดับเดียวกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างราคาเสนอ CPM กับ vCPM
คุณตั้งราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงสูงสุดได้ใน 2-3 วิธี สมมติว่าคุณขายดอกไม้ และได้สร้างกลุ่มโฆษณาที่มีคีย์เวิร์ดเช่น กุหลาบ เดซี่ และทิวลิป
- การเสนอราคาระดับกลุ่มโฆษณา: กำหนด CPM ที่ได้แสดงสูงสุดที่ระดับกลุ่มโฆษณา และคุณจะมีราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงเดียวกันสำหรับคีย์เวิร์ดและตำแหน่งทั้งหมดในกลุ่มโฆษณานั้น สมมติว่าคุณเลือกกำหนด CPM ที่ได้แสดงระดับกลุ่มโฆษณาไว้ที่ 36 บาท หากโฆษณาแสดงในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับดอกกุหลาบหรือทิวลิป หรือปรากฏในบล็อกเกี่ยวกับดอกไม้ CPM ที่ได้แสดงสูงสุดจะเป็น 36 บาทเสมอ นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดง
- การเสนอราคาระดับตำแหน่ง: คุณกำหนดราคาเสนอ CPM ที่ได้แสดงสำหรับแต่ละตำแหน่งได้หากต้องการ หากเห็นว่าเว็บไซต์หนึ่งให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ก็อาจเพิ่มราคาเสนอสำหรับตำแหน่งในเว็บไซต์นั้นได้