ติดตามการโทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุบนเว็บไซต์

หลังจากตั้งค่าแท็ก Google แล้ว คุณจะต้องเพิ่มข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ ข้อมูลโค้ดโทรศัพท์จะใส่หมายเลขโอนสายของ Google แทนหมายเลขโทรศัพท์บนเว็บไซต์ของคุณ ติดตั้งข้อมูลโค้ดนี้ในหน้าเว็บไซต์ที่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณปรากฏขึ้น

1. คลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดข้าง "ข้อมูลโค้ดโทรศัพท์" คุณป้อนข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ในเว็บไซต์ด้วยตัวเองได้ ข้อมูลโค้ดโทรศัพท์จะใช้หมายเลขโอนสายของ Google แทนหมายเลขในเว็บไซต์ เพื่อให้คุณเห็นว่าโฆษณาทำให้เกิดการโทรจากเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด ระบบจะสร้างข้อมูลโค้ดพร้อมหมายเลขที่แสดงซึ่งคุณป้อนไว้โดยอัตโนมัติ
2. เลือกวิธีที่ต้องการติดตั้งแท็ก โดยสามารถทำดังนี้
   • ติดตั้งแท็กด้วยตัวเอง หากเลือกตัวเลือกนี้ คุณจะต้องทำตามวิธีการด้านล่างเพื่อแก้ไขโค้ดเว็บไซต์ด้วยตนเองหลังจากที่ติดตั้งแท็กแล้ว ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกขั้นสูงขึ้น และแนะนำให้ใช้ต่อเมื่อคุณใช้ JavaScript เป็นเท่านั้น คุณควรใช้ตัวเลือกนี้หากต้องการติดตามการโทรมาที่หมายเลขโทรศัพท์บนเว็บไซต์มากกว่า 1 หมายเลข โปรดทราบว่าจะติดตามได้เพียง 1 หมายเลขในหน้าเว็บหน้าเดียวโดยใช้แท็ก JavaScript เริ่มต้น
   • ส่งแท็กทางอีเมล
   • ใช้ Google Tag Manager
3. ในกรณีที่เลือกส่งแท็กทางอีเมล ให้ป้อนอีเมลของนักพัฒนาเว็บข้าง "อีเมล"
4. คลิกส่งและต่อไป
5. คลิกสร้างและต่อไป

1. เปิด HTML ของหน้าเว็บที่คุณได้เพิ่มข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ หรือหน้าเว็บที่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณปรากฏ ข้อมูลโค้ดโทรศัพท์จะมีลักษณะเหมือนกับตัวอย่างโค้ดด้านล่างโดยที่ "TAG_ID" หมายถึงรหัสแท็ก และ "CONVERSION_LABEL" หมายถึงป้ายกำกับ Conversion

   <script>
gtag('config', 'TAG_ID/CONVERSION_LABEL', {
'phone_conversion_number': 'REPLACE WITH VALUE'
});
</script>

2. สำหรับพารามิเตอร์ phone_conversion_number ให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงานของคุณแทน "REPLACE WITH VALUE" ตรวจสอบว่าหมายเลขตรงกับหมายเลขบนหน้าเว็บของคุณทุกประการ และมีรหัสประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
3. (ไม่บังคับ) เพิ่มพารามิเตอร์ที่ไม่บังคับต่อไปนี้ลงในข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ ทำตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เพื่อป้อนค่าสำหรับพารามิเตอร์ต่อไปนี้
   1. phone_conversion_callback: ป้อนฟังก์ชันเรียกกลับ ฟังก์ชันนี้จะเรียกโดย 2 อาร์กิวเมนต์ อาร์กิวเมนต์ตัวแรกคือหมายเลขโทรศัพท์ที่จัดรูปแบบ (อยู่ในรูปแบบเดียวกับพารามิเตอร์ phone_conversion_number) อาร์กิวเมนต์ตัวที่ 2 คือหมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบปกติ (เช่น '18001234567')
   2. phone_conversion_css_class: ป้อนชื่อคลาส CSS องค์ประกอบทั้งหมดของคลาสจะมีเนื้อหาที่แทนที่ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ที่จัดรูปแบบ
   3. phone_conversion_options: ป้อนค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้
      • timeout (ระยะหมดเวลา): เวลาสูงสุดเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการเรียกข้อมูลหมายเลข หากเรียกข้อมูลหมายเลขภายในเวลานี้ไม่ได้ ระบบจะไม่ส่งหมายเลขไปยังปลายทาง ระยะหมดเวลาที่เป็นค่าเริ่มต้นคือ 5,000 มิลลิวินาที
      • cache (แคช): ตั้งค่าเป็น false เพื่อปิดใช้การแคชหมายเลขที่เรียกในคุกกี้ หรือตั้งค่าเป็น true เพื่อเปิดใช้

   ตัวอย่างข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ที่มีพารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ

   <script>
gtag('config', 'TAG_ID/CONVERSION_LABEL', {
'phone_conversion_number': '1-650-555-5555',
'phone_conversion_callback': function(formatted_number, mobile_number) {
// formatted_number: หมายเลขที่จะแสดงขึ้นในรูปแบบเดียวกันกับ
// หมายเลขที่ส่งไปยัง 'phone_conversion_number'
// (ในกรณีนี้คือ '1-650-555-5555')
// mobile_number: หมายเลขที่จัดรูปแบบเพื่อใช้ในลิงก์ที่คลิกได้ซึ่งมี
// with tel:-URI (ในกรณีนี้คือ '+16505555555')
var e = document.getElementById("number");
e.innerHTML = "";
e.appendChild(document.createTextNode(formatted_number));
},
'phone_conversion_options': {
'timeout': 20,
'cache': false
}
});
</script>
4. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ

ตัวอย่างด้านล่างแสดงวิธีใช้งานข้อมูลโค้ดนี้ใน 3 กรณีการใช้งานที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างที่ 1: ใส่หมายเลขโอนสายของ Google แทนหมายเลขโทรศัพท์คงที่

ฟังก์ชันนี้จะรับหมายเลขโทรศัพท์แล้วแทนที่เนื้อหาแท็ก span ทั้งหมดของคลาสที่ระบุ ในตัวอย่างนี้ หมายเลขโอนสายที่มีการจัดรูปแบบและสร้างแบบไดนามิกจะใช้แทนหมายเลขโทรศัพท์ "1-800-123-4567" ภายในแท็ก span ดังนี้

1. เพิ่มพารามิเตอร์ phone_conversion_css_class ที่มีค่าเป็น number ไปยังข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ของคุณ บรรทัดนี้จะมีสีไฮไลต์ดังตัวอย่างด้านล่าง

   <script type="text/javascript">
gtag('config', 'TAG_ID/CONVERSION_LABEL', {
'phone_conversion_number': '1-800-123-4567',
'phone_conversion_css_class':'number'
});
</script>

2. ใน HTML สำหรับหน้าเว็บที่มีหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ ให้เพิ่มคลาสจากพารามิเตอร์ phone_conversion_css_class (ไฮไลต์ในตัวอย่างด้านล่าง) ไปยังแท็ก span ที่มีหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ
   <body>
<span class="number">1-800-123-4567</span>
</body>

ตัวอย่างที่ 2: ส่งต่อหมายเลขโอนสายของ Google ไปยังฟังก์ชันเรียกกลับที่กำหนดเอง

ฟังก์ชันนี้จะรับหมายเลขโทรศัพท์แล้วส่งไปยังฟังก์ชันเรียกกลับ ฟังก์ชันเรียกกลับตัวอย่างจะใช้หมายเลขโอนสายที่มีการจัดรูปแบบแทนเนื้อหาขององค์ประกอบที่มีรหัสเป็น "number"

1. อัปเดตข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ของคุณเพื่อให้ตรงกับตัวอย่างโค้ดด้านล่าง ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏในเว็บไซต์ของคุณแทน “1-800-123-4567” นอกจากนี้ ให้ใส่รหัสแท็กของบัญชี Google Ads ของคุณโดยเฉพาะแทน "TAG_ID" และใส่ป้ายกำกับ Conversion เฉพาะสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion แทน "CONVERSION_LABEL" ด้วย

   <script type="text/javascript">
var callback = function(formatted_number, mobile_number) {
// formatted_number: หมายเลขที่จะแสดงขึ้นในรูปแบบเดียวกันกับ
// 'phone_conversion_number'
// (ในกรณีนี้คือ '1-800-123-4567')
// mobile_number: หมายเลขที่จัดรูปแบบเพื่อใช้ในลิงก์ที่คลิกได้ซึ่งมี
// with tel:-URI (ในกรณีนี้คือ '+18001234567')
var e = document.getElementById("number");
e.innerHTML = "";
e.appendChild(document.createTextNode(formatted_number));
};

   gtag('config', 'TAG_ID/CONVERSION_LABEL', {
'phone_conversion_number': '1-800-123-4567',
'phone_conversion_callback': callback
});
</script>

2. ใน HTML สำหรับหน้าเว็บที่มีหมายเลขโทรศัพท์ ให้เพิ่มพารามิเตอร์รหัสที่มีค่าเป็น number (ไฮไลต์ในตัวอย่างด้านล่าง) ลงในแท็ก Span ที่มีหมายเลขโทรศัพท์
   <body>
<span id="number">1-800-123-4567</span>
</body>

หากต้องการให้ผู้ที่กำลังดูเว็บไซต์บนโทรศัพท์มือถือโทรหาธุรกิจของคุณได้โดยง่าย โปรดตั้งหมายเลขโอนสายของ Google ให้เป็นแบบคลิกได้

ตัวอย่างที่ 3: ส่งต่อหมายเลขโอนสายของ Google ไปยังฟังก์ชันเรียกกลับที่กําหนดเองในเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่
ในหน้าเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีหมายเลขโทรศัพท์ที่คลิกได้ ให้แทนที่ทั้งหมายเลขที่แสดงและหมายเลขที่จะโทรหาเมื่อคลิก วิธีนี้ต้องใช้ฟังก์ชันเรียกกลับ

1. อัปเดตข้อมูลโค้ดโทรศัพท์ของคุณเพื่อให้ตรงกับตัวอย่างโค้ดด้านล่าง ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏในเว็บไซต์ของคุณแทน “1-800-123-4567” นอกจากนี้ ให้ใส่รหัส Conversion ของบัญชี Google Ads ของคุณโดยเฉพาะแทน “CONVERSION_ID” และใส่ป้ายกำกับ Conversion เฉพาะสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion แทน “CONVERSION_LABEL” ด้วย
   <script type="text/javascript">
var callback = function(formatted_number, mobile_number) {
// formatted_number: หมายเลขที่จะแสดงขึ้นในรูปแบบเดียวกันกับ
// 'phone_conversion_number'
// (ในกรณีนี้คือ '1-800-123-4567')
// mobile_number: หมายเลขที่จัดรูปแบบเพื่อใช้ในลิงก์ที่คลิกได้ซึ่งมี
// with tel:-URI (ในกรณีนี้คือ '+18001234567')
var e = document.getElementById("number");
e.href = "tel:" + mobile_number;
e.innerHTML = "";
e.appendChild(document.createTextNode(formatted_number));
};
gtag('config', 'TAG_ID/CONVERSION_LABEL', {
'phone_conversion_number': '1-800-123-4567',
'phone_conversion_callback': callback
});
</script>
2. ใน HTML ของหน้าเว็บที่มีหมายเลขโทรศัพท์ ให้เพิ่มแอตทริบิวต์รหัสที่มีค่าเป็น number (ไฮไลต์ในตัวอย่างด้านล่าง) ลงในแท็ก <a> ที่มีหมายเลขโทรศัพท์
   <body>
<a href="tel:18001234567" id="number">1-800-123-4567</a>
</body>