ไฟล์ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาคือองค์ประกอบที่ App Campaign ใช้ในการสร้างโฆษณา เราจึงขอแนะนำบทความนี้ที่นำเสนอแนวทางปฏิบัติแนะนำในการสร้างชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา ทั้งในรูปแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอและ HTML5 ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและการเข้าถึงของ App Campaign ได้ แต่หากต้องการคำแนะนำทางเทคนิคเพิ่มเติม เช่น ข้อกำหนดของชิ้นงานที่ App Campaign ยอมรับ โปรดดูวิธีสร้าง App Campaign
คำแนะนำในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แนวทางชี้นำเท่านั้น เนื่องจากแต่ละแคมเปญต่างกัน จึงรับประกันประสิทธิภาพไม่ได้แม้ว่าจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทั้งหมดแล้วก็ตาม เราขอแนะนำให้ตรวจสอบรายงานชิ้นงานเป็นประจำ
เนื้อหาโฆษณาทั้งหมดต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านนโยบายและหลักเกณฑ์โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับชิ้นงาน
ปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ภาพลักษณ์ และรูปแบบของแบรนด์
แม้ว่าหลักเกณฑ์เหล่านี้จะมีส่วนในความสำเร็จของผู้ลงโฆษณา แต่ธุรกิจแต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์ของตนเอง คุณจึงควรประเมินแนวทางปฏิบัติแนะนำทุกอย่างตามความต้องการของธุรกิจ และต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์แคมเปญ
ปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมายแคมเปญ
ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาควรสอดคล้องกับเป้าหมายเฉพาะของ App Campaign เช่น
- หากต้องการเพิ่มยอดการติดตั้ง ชิ้นงานควรแสดงถึงการติดตั้ง (ตัวอย่างเช่น โฆษณาแบบข้อความที่แจ้งให้ผู้ใช้ "ดาวน์โหลดเลย" หรือ "เล่นเลย")
- หากต้องการกระตุ้นยอดซื้อ ชิ้นงานควรแสดงการลดราคา ส่วนลด หรือสินค้าที่ให้ซื้อ (ตัวอย่างเช่น "รับส่วนลด 150 บาทเมื่อสั่งซื้อครั้งแรก" หรือรูปภาพที่แสดงโปรโมชัน)
- หากต้องการเพิ่มยอดการรักษาผู้ใช้หรือการกลับมามีส่วนร่วม ชิ้นงานควรไฮไลต์ช่องทางระดับล่างหรือฟีเจอร์ที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้โต้ตอบ (ตัวอย่างเช่น "สินค้าใหม่กว่า 100 รายการ" หรือวิดีโอแสดงเกมเพลย์ที่อัปเดตใหม่)
ปรับให้สอดคล้องกับธีมของโฆษณาแต่ละกลุ่ม หากมี
กลุ่มโฆษณาใน App Campaign ช่วยให้คุณ "จัดกลุ่ม" ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาตามลักษณะเด่นของแอป ข้อความที่ต้องการไฮไลต์ หรือกลุ่มประชากรของผู้ใช้ที่ต้องการดึงดูด ชิ้นงานควรแสดงลักษณะ ข้อความ และความต้องการของผู้ใช้ที่โดดเด่นเหล่านั้น (เช่น อัปโหลดครีเอทีฟโฆษณาธีมซูชิในกลุ่มโฆษณาหนึ่งเพื่อดึงดูดคนรักซูชิ และครีเอทีฟโฆษณาธีมพิซซ่าในอีกกลุ่มโฆษณาหนึ่งสำหรับผู้ที่ชอบสั่งอาหารเดลิเวอรี)
ออกแบบชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาให้หลากหลาย
ชิ้นงานที่หลากหลายช่วยให้ App Campaign สร้างโฆษณาที่ตรงใจผู้ใช้กลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้น และยังช่วยให้โฆษณามีสิทธิ์แสดงในช่องทางโฆษณาต่างๆ กว้างขวางขึ้นด้วย ในการเพิ่มชุดค่าผสมและตำแหน่งของโฆษณา เราขอแนะนำให้อัปโหลดชิ้นงานแต่ละประเภทให้ครบจำนวนสูงสุดที่อนุญาต นั่นคือ โฆษณาแบบข้อความไม่เกิน 4 รายการ และโฆษณาแบบรูปภาพ วิดีโอ และ HTML5 20 รายการ ซึ่งอาจช่วยลดความผันผวนของประสิทธิภาพเมื่อรีเฟรชชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาได้
Google Ads จะไม่แปลโฆษณา ดังนั้นคุณควรเลือกภาษาที่ถูกต้องเมื่อสร้างแคมเปญ แล้วเลือกประเทศทั้งหมดที่กลุ่มเป้าหมายพูดภาษาเหล่านั้นได้ เมื่อกำหนดเป้าหมายในวงกว้าง คุณจะเข้าถึงผู้ใช้ที่บรรลุเป้าหมายได้มากขึ้น และให้ข้อมูลสำหรับปรับแต่งแคมเปญมากขึ้นแก่โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงของเรา
ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
ชิ้นงานควรใช้ข้อความเชิงสนทนาในบรรทัดแรกและคำอธิบาย ภาพที่จดจำได้ง่าย รวมทั้งเสียงที่มีเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้
หาชิ้นงานใหม่มาแทนชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพต่ําอยู่ตลอดเวลา
ติดตามรายงานชิ้นงานอย่างใกล้ชิด หลังจากออกจากสถานะ "กําลังเรียนรู้" แล้ว จะมีป้ายกํากับที่ระบุอันดับชิ้นงานเป็น "ต่ํา" "ดี" หรือ "ดีที่สุด" หากคุณยังไม่ได้อัปโหลดชิ้นงานตามจํานวนสูงสุดที่อนุญาต ให้เพิ่มชิ้นงานที่คล้ายกับอันดับที่ "ดีที่สุด" หากคุณมีชิ้นงานครบตามจํานวนสูงสุดที่อนุญาตแล้ว ให้แทนที่ชิ้นงานที่มีอันดับ "ต่ํา" โปรดค่อยๆ ลดความผันผวนของประสิทธิภาพให้เหลือน้อยที่สุด
ใช้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงสุด
เมื่อคุณส่งชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาคุณภาพสูง โฆษณาจะมีโอกาสที่จะให้ประสิทธิภาพดีในระยะยาวมากขึ้น เนื่องจากชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาคุณภาพสูงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากกว่า อย่างไรก็ตาม ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่มีคุณภาพต่ำกว่าอาจลดประสิทธิภาพของแคมเปญลงเนื่องจากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้น้อยกว่า การเพิ่มคุณภาพของชิ้นงานจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดในทุกพร็อพเพอร์ตี้
เราได้กําหนดหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพสําหรับชิ้นงานประเภทต่างๆ ที่คุณส่งสําหรับโฆษณา
เนื้อหาข้อความ
ส่งข้อความเดี่ยวๆ ที่สมบูรณ์ในตัวเอง
- เขียนวลีเดี่ยวๆ ที่มีความยาวแตกต่างกันโดยใช้ไวยากรณ์ การสะกดคำ และเครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้อง โดยที่นำไปใช้ในลำดับใดก็ได้ Google Ads จะนำวลีเหล่านี้มาผสมกันโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างโฆษณารูปแบบต่างๆ ที่อาจปรับปรุงประสิทธิภาพได้
- กำหนดให้แต่ละวลีมุ่งเน้นจุดขายที่โดดเด่นเพียงจุดเดียว
ใส่คํากระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน
ใช้ข้อความบนปุ่มเพื่อเน้นย้ำเป้าหมายของแคมเปญดังนี้
- หากต้องการเพิ่มยอดการติดตั้ง ข้อความบนปุ่มควรแสดงถึงการติดตั้ง (เช่น ข้อความแจ้งให้ "ดาวน์โหลดเลย" หรือ "เล่นเลย")
- หากต้องการกระตุ้นการซื้อ ข้อความบนปุ่มควรไฮไลต์ส่วนลด การลดราคา หรือสินค้าที่ให้ซื้อ (เช่น "รับส่วนลด 150 บาท" หรือ "ประหยัดทันที")
- หากต้องการเพิ่มยอดการรักษาผู้ใช้หรือการกลับมามีส่วนร่วม ข้อความบนปุ่มควรไฮไลต์ช่องทางระดับล่างหรือฟีเจอร์ที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้โต้ตอบ (เช่น "สินค้าใหม่กว่า 100 รายการ" หรือ "ลองเลยวันนี้")
หลีกเลี่ยงการใช้คลิกเบตและการกล่าวเกินจริง
- เราไม่อนุญาตให้ใช้วลี คําถาม และถ้อยคําที่กล่าวเกินจริงในลักษณะที่โน้มน้าวให้ผู้ใช้คลิกโฆษณา
- หลีกเลี่ยงการใช้วลีที่มีการอ้างอิงไม่ชัดเจน เช่น "นี้" หรือ "เหล่านี้"
ปฏิบัติตามกฎของรูปแบบทั้งหมด
โฆษณาทั้งหมดควรปฏิบัติตามกฎของรูปแบบเพื่อไม่ให้ถูกปฏิเสธ ดูสาเหตุของการปฏิเสธโฆษณาที่พบบ่อยที่สุดพร้อมตัวอย่างดังต่อไปนี้
อย่าใช้:
- ภาษาเร้าความสนใจ รวมถึงการใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์มากเกินพอดี (เช่น "คุณต้องไม่เชื่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแน่นอน!")
- อีโมจิ
- เครื่องหมายวรรคตอนหรือสัญลักษณ์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้ (เช่น การใช้ "@บ้าน" เพื่อให้หมายถึง "ที่บ้าน")
- การใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่อย่างไม่เหมาะสม (เช่น “SALE, S.A.L.E., SaLe”)
- การเว้นวรรคอย่างไม่เหมาะสม (เช่น "ขายซื้อ รองเท้าผ้าใบ" "ร อ ง เ ท้ า ผ้ า ใ บ")
- ไวยากรณ์ไม่เหมาะสม
ชิ้นงานรูปภาพ
ดึงดูดสายตา
การโฆษณาสะท้อนให้เห็นถึงแบรนด์ของคุณ ชิ้นงานรูปภาพควรน่าสนใจและไม่ลดความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เราขอแนะนำให้คุณอย่าใช้รูปภาพที่บิดเบี้ยว รูปทรงแปลกตา มีลักษณะซ้อนทับกัน กลับหัวกลับหาง ไม่ชัดเจน มีสีในโทนตรงข้าม หรือใช้ฟิลเตอร์มากเกินไป
รูปภาพควรมีความหนาแน่นของพิกเซลสูง
พิกเซลที่หนาแน่นยิ่งขึ้นไม่ได้ช่วยให้คุณภาพของรูปภาพดีขึ้นอย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แสดงผลได้อย่างถูกต้องเมื่อปรับขนาดหรือแสดงบนหน้าจอความละเอียดสูงด้วย
ใช้ทั้งเฟรม
โฆษณาจะดูเป็นธรรมชาติขึ้นหากตรงกับรูปร่าง ขนาด และการวางตำแหน่งของเนื้อหาแบบเนทีฟ โดยไม่ควรมีช่องว่างระหว่างขอบของชิ้นงานรูปภาพและเฟรม
จำกัดพื้นที่ว่างในรูปภาพ
ไม่ควรมีพื้นที่ว่างเกิน 80% ในรูปภาพใดๆ หัวเรื่องของรูปภาพควรเป็นจุดดึงดูดและควรใช้พื้นที่มากขึ้นเพื่อให้สะดุดตาและมองเห็นได้ง่ายขึ้นในหน้าจอขนาดเล็ก
อย่าวางข้อความ โลโก้ หรือคํากระตุ้นการตัดสินใจในรูปภาพ
ข้อความที่วางซ้อนไม่ควรเด่นกว่ารูปภาพ ตามหลักการแล้ว ข้อความหรือโลโก้ควรผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับรูปภาพ เช่น อยู่ในบรรจุภัณฑ์ เสื้อผ้า ป้าย บิลบอร์ด ฯลฯ หากวางข้อความหรือโลโก้ให้ซ้อนทับ ก็ควรออกแบบไม่ให้สะดุดตาไปกว่ารูปภาพ รูปภาพที่มีเนื้อหาที่วางซ้อนเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยจะได้ประโยชน์จากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า โดยรวมแล้ว เราขอแนะนําให้จํากัดองค์ประกอบที่ซ้อนไว้เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของรูปภาพน้อยกว่า 20%
หลีกเลี่ยงการใช้คลิกเบตและคำกล่าวเกินจริงในรูปภาพ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาพหรือข้อความในภาพที่ดึงดูดให้ผู้ใช้คลิกผ่านเนื้อหาที่สร้างความตื่นตระหนกหรือไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับเนื้อหาข้อความ
โฆษณาวิดีโอ
ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการใช้แอปให้มากกว่าเรื่องราว
แม้ว่าการสร้างอารมณ์ร่วมและการเล่าเรื่องยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่วิดีโอก็ควรนำเสนอประสบการณ์ในการใช้แอปตั้งแต่เนิ่นๆ จัดเฟรมภาพให้เน้นเฉพาะส่วนสำคัญ (ภาพระยะใกล้ของตัวละครในโฆษณาและ UI) เพื่อช่วยให้ผู้ชมจดจ่ออยู่กับฟีเจอร์ที่ใช้ได้ในแอปและประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับ
ดึงดูดความสนใจของผู้ชม
- ผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่สนใจในสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน คุณจึงควรพยายามดึงดูดความสนใจให้ได้ภายใน 2 ถึง 3 วินาทีแรก การวิจัยของเราพบว่าโฆษณาวิดีโอในแอปที่ประสบความสำเร็จนั้นเปลี่ยนฉากมากกว่า 2 ครั้งภายใน 5 วินาทีแรกโดยเฉลี่ย ซึ่งจะช่วยให้สัมผัสประสบการณ์แอปได้อย่างมีไดนามิก
- เสียงเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งในการดึงดูดผู้ใช้ได้ง่ายๆ ฉะนั้นลองใช้เสียงและเพลงเพื่อเน้นการสร้างแบรนด์และคำกระตุ้นการตัดสินใจ คุณควรเพิ่มคำบรรยายเสียงวิดีโอเนื่องจากพื้นที่โฆษณาบางแห่งปิดเสียงตามค่าเริ่มต้น
แสดงแบรนด์ตลอดการนำเสนอโฆษณา
- แสดงแบรนด์ตั้งแต่ต้นและนำเสนอต่อไปตลอดทั้งโฆษณาทุกครั้งที่ทำได้
- แสดงแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของแอป (ในวิดีโอ), ที่ด้านข้าง (ในโฆษณาแนวตั้ง) แสดงผ่านเสียงบ่งชี้ หรือทั้ง 3 แบบร่วมกัน
สร้างความหลากหลายและทดลอง
ทดลองสร้างวิดีโอโดยใช้ธีมต่างๆ (เช่น ธีมตลกขำขันเทียบกับเร้าอารมณ์) รูปแบบต่างๆ (เช่น อารมณ์จริงจังเทียบกับขบขัน) หรือหัวข้อต่างๆ (เช่น กรณีการใช้งานหรือประโยชน์ของแอปหนึ่งเทียบกับอีกแอปหนึ่ง) ซึ่งช่วยให้โฆษณามีโอกาสถูกใจกลุ่มเป้าหมายต่างๆ มากขึ้น
ชิ้นงาน HTML5
การสร้างชิ้นงาน HTML5 อาจยุ่งยากและใช้ต้นทุนสูงกว่าชิ้นงานประเภทอื่นที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ เราจึงขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้อัปโหลดชิ้นงานแบบข้อความ รูปภาพ และวิดีโอให้ครบจำนวนสูงสุดก่อนที่จะสร้างเป็นชิ้นงาน HTML5
ออกแบบโดยคำนึงถึงความสามารถของอุปกรณ์เคลื่อนที่
ชิ้นงาน HTML5 เป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟ ดังนั้นคุณจึงควรคำนึงถึงความสามารถของอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การออกแบบออกมาดียิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้โต้ตอบกับโฆษณา HTML5 ผ่านทั้งการแตะ เลื่อน ลากและวาง บีบเพื่อซูม และเขย่า
ใส่คำอธิบายวิธีใช้
ผู้ชมไม่คาดหวังว่าโฆษณาจะเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟ ดังนั้นให้ใส่คำอธิบายวิธีใช้สั้นๆ ก่อนที่วิดีโอจะเริ่มเล่น โดยมีเป้าหมายให้ผู้ชมโต้ตอบตามที่ต้องการกับโฆษณาภายใน 3 หรือ 4 วินาที
ใส่สิ่งที่สื่อถึงแบรนด์ที่มองเห็นได้ชัดเจนตลอดทั้งโฆษณา
โลโก้แอปพร้อมปุ่ม "ติดตั้งเลย" หรือ "ดาวน์โหลดเลย" ควรจะแสดงอยู่ตลอดทั้งโฆษณาเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือและป้องกันการปฏิเสธ ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้จัดตำแหน่งทั้งสองปุ่มให้อยู่ติดกันที่แถบด้านบนสุด
ใส่คำบรรยายวิดีโอ
คุณควรเพิ่มคําบรรยายวิดีโอเนื่องจากชิ้นงานประเภท HTML5 ไม่มีวิดีโอหรือเสียง และคำบรรยายวิดีโอต้องอ่านออกได้อย่างชัดเจนบนหน้าจอขนาดต่างๆ