แคมเปญโฆษณา Search แบบไดนามิกที่มีอยู่อาจมีสิทธิ์อัปเกรดเป็น Performance Max ซึ่งจะช่วยให้คุณมีพื้นที่โฆษณาและรูปแบบเพิ่มเติมในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ผู้ลงโฆษณาที่อัปเกรดแคมเปญ DSA เป็น Performance Max พบว่า Conversion หรือมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 15% โดยมีต้นทุนต่อหนึ่งการกระทำ (CPA) หรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ใกล้เคียงกับของเดิม ดูวิธีอัปเกรดโฆษณา Search แบบไดนามิกเป็น Performance Max (เบต้า)
การกำหนดเป้าหมายสำหรับโฆษณา Search แบบไดนามิกทำงานด้วยการจับคู่การค้นหาของผู้ใช้ใน Google กับหน้าเว็บเฉพาะในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ด คุณเป็นผู้ควบคุมวิธีการทำงานของการกำหนดเป้าหมายนี้ คุณจะกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามหมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจงซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างของเว็บไซต์ หรือกำหนดเป้าหมายทุกหน้าในเว็บไซต์ได้ และยังจะเพิ่มเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกประเภทอื่นๆ หรือบล็อกหน้าเว็บด้วยการยกเว้นเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกก็ได้เช่นกัน
บทความนี้อธิบายเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิก 8 ประเภทที่ใช้ปรับแต่งวิธีแสดงโฆษณาของคุณได้ หากต้องการดูภาพรวมที่กว้างขึ้น ให้เริ่มต้นด้วยส่วนเกี่ยวกับโฆษณา Search แบบไดนามิก คุณต้องรับผิดชอบต่อข้อความสุดท้ายที่ปรากฏในโฆษณา ดังนั้นโปรดคํานึงถึงเรื่องนี้ในขณะที่เลือกหน้า Landing Page
ประเภทเป้าหมาย
หน้า Landing Page จากกลุ่มโฆษณามาตรฐาน
หมวดหมู่ "หน้า Landing Page จากกลุ่มโฆษณามาตรฐาน" ประกอบด้วยหน้าเว็บทุกหน้าที่คุณกำลังเรียกใช้โฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาในบัญชี ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายนี้ช่วยให้คุณเพิ่มการเข้าชมบนหน้าเว็บที่คุณใช้เป็นหน้า Landing Page อยู่แล้วในกลุ่มโฆษณาและแคมเปญที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น เราแนะนำตัวเลือกนี้ให้ผู้ลงโฆษณาที่เพิ่งเริ่มใช้โฆษณา Search แบบไดนามิก และต้องการเพิ่มจำนวนการเข้าชมที่การกำหนดเป้าหมายประเภทนี้เพิ่มให้ได้ โดยตัวเลือกนี้จะใช้ได้เฉพาะในบัญชีซึ่งมีหน้า Landing Page ที่มีสิทธิ์ในกลุ่มโฆษณามาตรฐานเท่านั้น
ตัวอย่าง
คุณมีเว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และคุณกำลังเรียกใช้โฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาซึ่งนำผู้ใช้ไปยังหน้า "กล้องถ่ายรูป" หากต้องการขยายการเข้าถึงผู้ใช้ที่ค้นหาคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหน้านี้ ให้กำหนดเป้าหมายหมวดหมู่ "หน้า Landing Page จากกลุ่มโฆษณามาตรฐาน"
การกำหนดเป้าหมาย URL
URL เท่ากับ
คุณกําหนดเป้าหมาย URL ที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่หาก URL นั้นมีพารามิเตอร์การติดตาม ระบบอาจถือว่าเป็นลิงก์ใหม่ และ "URL เท่ากับ" อาจไม่เหมาะสําหรับการยกเว้นในกรณีเช่นนี้
ตัวอย่าง
คุณต้องการเพิ่มการเข้าชมให้กับหน้า "ลดราคาล้างสต็อก" ในเว็บไซต์ของคุณ จึงกำหนดเป้าหมาย URL เฉพาะให้กับหน้านั้น ตัวเลือกดังกล่าวยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยกเว้นหน้าเว็บบางหน้าในเว็บไซต์ของคุณอีกด้วย
URL ประกอบด้วย
คุณกําหนดเป้าหมายหน้าเว็บที่มี URL ซึ่งประกอบด้วยข้อความบางส่วนที่เรียกว่าโทเค็นได้ ใน URL โทเค็นจะล้อมรอบด้วยตัวจำกัด เช่น “/”, “-” เป็นต้น
ตัวอย่าง
คุณต้องการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บบริการทั้งหมดในเว็บไซต์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยดูจากสตริง URL ที่ปรากฏเมื่อคุณไปยังส่วนต่างๆ ของไซต์ หาก URL ทั้งหมดเหล่านั้นมีรูปแบบเดียวกัน เช่น electronicsexample.com/services/ คุณควรจะกำหนดเป้าหมายทุก URL ที่มีคำว่า "services"
โปรดทราบว่าการทำงานเช่นนี้จะไม่ได้ผลกับ URL เช่น electronicsexample.com/servicesmenu/ เนื่องจากมีคําว่า "menu" หลังข้อความที่กำหนดเป้าหมาย แต่จะได้ผลกับ electronicsexample.com/services-menu/ เนื่องจากมี “-” เป็นตัวคั่น ตัวคั่นอื่นๆ ได้แก่ ‘:’ ‘/’ ‘?’ ‘+’ และ ‘&’
ป้ายกำกับที่กำหนดเอง
คุณใช้ฟีดหน้าเว็บเพื่อสร้างรายการ URL ที่ต้องการกำหนดเป้าหมมาย แล้วแนบป้ายที่กำหนดเองลงใน URL เพื่อจัดระเบียบได้ คุณใช้เป้าหมายป้ายกำกับที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายหรือยกเว้นฟีดหน้าเว็บชุดย่อยเหล่านี้ได้ ดูวิธีใช้ฟีดเพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณา Search แบบไดนามิกและ Performance Max
ตัวอย่าง
คุณต้องการสร้างแคมเปญสำหรับกล้องดิจิทัลที่มีคะแนนระดับ 4 ดาว คุณได้แนบฟีดให้กับแคมเปญ และใช้ฟีดดังกล่าวเพื่อติดป้ายกำกับ URL ของกล้องระดับ 4 ดาวทั้งหมดเป็น “FOUR_STAR” ใน Google Ads คุณกำหนดเป้าหมายป้ายที่กำหนดเอง แล้วป้อน "FOUR_STAR" เป็นป้ายที่กำหนดเอง
ประเภทการกำหนดเป้าหมายอื่นๆ
หน้าเว็บทั้งหมด
หน้าเว็บทั้งหมดประกอบด้วยหน้าทุกหน้าในโดเมนของเว็บไซต์ที่ค้นพบโดยการค้นหาของ Google และโปรแกรมรวบรวมข้อมูลโฆษณา (โปรแกรมที่จะค้นพบและสแกนเว็บไซต์โดยอัตโนมัติโดยการติดตามลิงก์จากหน้าเว็บหนึ่งไปยังอีกหน้าเว็บหนึ่ง)
ตัวอย่าง
คุณมีเว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ electronicsexample.com ในการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บทุกหน้าใน electronicsexample.com ให้กำหนดเป้าหมายหน้าเว็บทุกหน้าหากคุณเลือกที่จะใช้หน้าเว็บทุกหน้า และมีหน้าเว็บที่คุณไม่ต้องการเพิ่มการเข้าชมจากโฆษณา Search เลย เราขอแนะนําให้เพิ่มหน้าเว็บเหล่านั้นเป็นเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบ ดูวิธีสร้างการยกเว้นสําหรับโฆษณา Search แบบไดนามิก
ชื่อหน้า
คุณกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บที่มีชื่อซึ่งประกอบด้วยคำบางคำได้ หากไม่ทราบชื่อหน้า ให้เลื่อนเมาส์ไปวางเหนือแท็บเบราว์เซอร์ แล้วเคล็ดลับเครื่องมือจะปรากฏขึ้นเพื่อแสดงชื่อของหน้าเว็บ โปรดระมัดระวังเมื่อใช้การกําหนดเป้าหมายชื่อหน้า เนื่องจากมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้
ตัวอย่าง
คุณต้องการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บที่มีชื่อซึ่งประกอบด้วยคำที่ระบุ เช่น "กล้องถ่ายรูป" หากต้องการกําหนดเป้าหมายหน้าเว็บด้วยชื่อนี้ ให้เพิ่มชื่อหน้าเป้าหมายที่มีคําว่า "กล้อง"
เนื้อหาของหน้า
คุณสามารถกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บซึ่งประกอบด้วยคำที่คุณระบุ
ตัวอย่าง
คุณต้องการใช้หน้าเว็บทุกหน้าที่ประกอบด้วยวลี "กล้องดิจิทัล" เพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณา ในการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บตามเนื้อหา ให้เพิ่มกลุ่มหน้าเว็บ เลือกตัวเลือก Page_Content แล้วป้อน "กล้องดิจิทัล"
หมวดหมู่
Google จะสร้างหมวดหมู่ที่กำหนดเป้าหมายได้ หรือชุดของหน้า Landing Page ที่จัดระเบียบโดยธีม โดยอิงตามเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ คุณตัดสินใจเลือกได้ว่าจะกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บชุดใด วิธีจัดกลุ่มหน้าที่คล้ายกัน ตลอดจนระดับของรายละเอียด โปรดทราบว่าระบบอาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมงในการจัดหมวดหมู่หลังจากที่คุณสร้างกลุ่มโฆษณาแบบไดนามิก
ตัวอย่าง
คุณมีเว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และต้องการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บที่ขายกล้องดิจิทัล โฆษณา Search แบบไดนามิกจะจัดเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ โดยใช้ AI ของ Google ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น "กล้องดิจิทัล" "โทรทัศน์" และ "เครื่องบันทึกวิดีโอ" หากต้องการกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บตามหมวดหมู่ ให้ใช้หมวดหมู่ที่แนะนำสำหรับเว็บไซต์ของคุณ คุณจะเห็นเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกสำหรับกล้องดิจิทัลโดยอิงตามเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังใช้ช่องค้นหาที่ด้านบนของมุมมองหมวดหมู่เพื่อค้นหาหมวดหมู่ที่ไม่ได้อยู่ในชุดหมวดหมู่ที่เราแนะนำได้อีกด้วย แม้ว่าหมวดหมู่ดังกล่าวจะไม่ได้อยู่ในรายการก็ตาม