บทความนี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการจับคู่ข้อมูลสำหรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าและวิธีการที่ Google Ads ประมวลผลไฟล์ที่คุณอัปโหลด
ลักษณะการทำงาน
คุณสร้างไฟล์ข้อมูลลูกค้าตามข้อมูลที่ลูกค้าแชร์
เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล คุณจะแฮชข้อมูลลูกค้าด้วยตัวเองโดยใช้อัลกอริทึม SHA256 หรือให้ Google Ads แฮชโดยใช้อัลกอริทึม SHA256 เดียวกันซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการแฮชทางเดียว
ระบบจะแฮชเฉพาะข้อมูลส่วนตัวลูกค้าในไฟล์ (อีเมล โทรศัพท์ ชื่อ และนามสกุล) แต่จะไม่แฮชข้อมูลประเทศและรหัสไปรษณีย์ หากคุณอัปโหลดไฟล์ข้อมูลที่แฮช โปรดอย่าแฮชข้อมูลประเทศและรหัสไปรษณีย์
คุณจะอัปโหลดไฟล์ข้อมูลลูกค้าในบัญชี Google Ads หรือใช้ Google Ads API ก็ได้ Google จะใช้ Transport Layer Security (TLS) ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการถ่ายโอนไฟล์อย่างปลอดภัยกับการอัปโหลดของคุณ
หมายเหตุ
หากบันทึกผู้ใช้ไม่ตรง Google อาจยังคงใช้บันทึกเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย แต่ Google จะไม่ใช้บันทึกกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าหรือในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google กระบวนการจับคู่อาจใช้เวลาสูงสุด 48 ชั่วโมง
หลังจากกระบวนการจับคู่และการตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายเสร็จสิ้นแล้ว ไฟล์ข้อมูลจะถูกทำเครื่องหมายไว้สำหรับการลบ จากนั้นคุณจึงเริ่มต้นกำหนดเป้าหมายของกลุ่มการจับคู่ข้อมูลลูกค้าในแคมเปญ Google Ads ได้
นอกจากนี้ คุณยังเริ่มกำหนดเป้าหมายของกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันใน Search, YouTube และ Gmail ได้ หากกลุ่มเป้าหมายตามการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเป็นไปตามข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์
การจับคู่ที่อยู่อีเมลและโทรศัพท์
Google จะติดตามข้อมูลอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบัญชี Google และสตริงที่แฮชที่เกี่ยวข้องสำหรับอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์เหล่านั้น
หลังจากที่คุณอัปโหลดรายชื่ออีเมลและ/หรือหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าแล้ว Google Ads จะเปรียบเทียบสตริงที่แฮชแต่ละรายการในรายชื่อลูกค้ากับสตริงที่แฮชสำหรับอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของบัญชี Google หากตรงกัน Google จะเพิ่มบัญชี Google ที่เกี่ยวข้องลงในกลุ่มการจับคู่ข้อมูลลูกค้า (รายชื่อลูกค้า)
การจับคู่ที่อยู่ทางไปรษณีย์
Google รวมข้อมูลชื่อและที่อยู่ทางไปรษณีย์ที่แฮชสำหรับบัญชี Google เพื่อสร้างคีย์การจับคู่ ข้อมูลที่อยู่จัดส่งควรมีเฉพาะประเทศและรหัสไปรษณีย์ หลังจากที่คุณอัปโหลดรายชื่อซึ่งมีชื่อและที่อยู่ของลูกค้าที่แฮชแล้ว (โปรดอย่าแฮชข้อมูลรหัสไปรษณีย์และประเทศ) Google จะสร้างคีย์ที่คล้ายกันโดยอาศัยข้อมูลของคุณ แล้วเปรียบเทียบคีย์แต่ละคีย์ในรายชื่อลูกค้ากับคีย์ที่อิงตามบัญชี Google หากตรงกัน Google จะเพิ่มบัญชี Google ที่เกี่ยวข้องลงในกลุ่มการจับคู่ข้อมูลลูกค้า (รายชื่อลูกค้า)