คุณจะเห็นการปรับปรุงใน Google Ads ดังต่อไปนี้ เพื่อให้มุมมองของกลุ่มเป้าหมายแบบรวมและครอบคลุม และทําให้การจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มเป้าหมายทําได้ง่ายขึ้น
- การรายงานกลุ่มเป้าหมายใหม่
ต่อไปนี้การรายงานแบบละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลประชากร กลุ่ม และการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายจะรวมอยู่ในที่เดียว คลิกไอคอนแคมเปญ แล้วเปิดแท็บ "กลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหา" จากนั้นคลิกกลุ่มเป้าหมาย คุณยังจัดการกลุ่มเป้าหมายจากหน้ารายงานนี้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานกลุ่มเป้าหมาย - คำใหม่
เราจะใช้คำใหม่ในรายงานกลุ่มเป้าหมายและทั่วทั้ง Google Ads ตัวอย่างเช่นคำว่า "ประเภทกลุ่มเป้าหมาย" (ซึ่งได้แก่ ที่กําหนดเอง ที่มีแผนจะซื้อ และผู้สนใจ) ตอนนี้จะเรียกว่ากลุ่มเป้าหมาย และ "รีมาร์เก็ตติ้ง" จะเรียกว่า "ข้อมูลของคุณ" ดูรายละเอียดการอัปเดตคำและวลีเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย
เหตุการณ์รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกสําหรับแอปช่วยให้คุณกําหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปของคุณอยู่แล้วได้โดยอิงตามการโต้ตอบกับฟีเจอร์ต่างๆ ในแอป การโต้ตอบที่เข้าเกณฑ์ ได้แก่ การดูหน้าผลิตภัณฑ์ การเลือกวันเดินทางและรหัสสนามบิน หรือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ไปยังรายการช็อปปิ้ง เหตุการณ์เหล่านี้ช่วยให้คุณจัดระเบียบกลุ่มเป้าหมายตามการกระทําที่เข้าเกณฑ์เหล่านั้นเพื่อปรับแต่งข้อความให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง
- เมื่อผู้ใช้ยกเลิกรถเข็นช็อปปิ้ง คุณสามารถแสดงโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อเตือนให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมจนเสร็จสมบูรณ์
- เมื่อผู้ใช้ค้นหาโรงแรมในกวม คุณจะแสดงโฆษณาที่เน้นโรงแรมพร้อมข้อเสนอการท่องเที่ยวได้
- เมื่อผู้ใช้ดูข้อเสนอการเรียนภาษาในกรุงโรม คุณจะแสดงโฆษณาที่เสนอส่วนลดสำหรับข้อเสนอเดียวกันดังกล่าวได้
หากต้องการให้แอปส่งเหตุการณ์รีมาร์เก็ตติ้งไปยัง Google Ads จะต้องพิจารณาการกำหนดค่า 3 รายการ ดังนี้
- การใช้ Firebase
- ผ่าน SDK ผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สาม (3P) หรือ
- การใช้การผสานรวมแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์
ตั้งค่าข้อมูลด้วย Firebase
Firebase เป็นแพลตฟอร์มบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อช่วยคุณในการสร้างแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ดียิ่งขึ้น และขยายธุรกิจให้เติบโต วิธีตั้งค่ารีมาร์เก็ตติ้งด้วย Firebase มีดังนี้
- กำหนดค่าแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย Firebase SDK สำหรับ Android หรือ iOS
- ใช้เหตุการณ์ที่แนะนำสำหรับประเภทธุรกิจของคุณ
- ลิงก์บัญชี Firebase และ Google Ads
- หมายเหตุ: คุณต้องแชร์ข้อมูลเหตุการณ์ Conversion จากทั้ง Firebase และจาก Google Ads
- กำหนดค่าวิธีที่แอปส่งข้อมูลการระบุแหล่งที่มา
ตั้งค่าข้อมูลด้วย SDK ของบุคคลที่สาม
เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลในการตัดสินใจด้านการตลาดเกี่ยวกับแอป Google Ads จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามบางรายเพื่อรองรับรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกของ Google สำหรับสคีมของแอป Google Ads และ App Attribution Partner ของเราจะช่วยให้คุณเข้าใจได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพแคมเปญของแอป
หากคุณใช้งานผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามเหล่านี้รายใดรายหนึ่ง ให้ลิงก์ผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามกับ Google Ads เพื่อเปิดใช้การสร้างกลุ่มข้อมูล ทำงานร่วมกับตัวแทนการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามเพื่อตั้งค่า SDK ของแอป
ตั้งค่าข้อมูลแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์
Google ได้ประกาศเรื่อง API ใหม่สําหรับเครื่องมือวัด Conversion ของแอป Google Ads เพื่อช่วยคุณในการใช้ข้อมูลเพื่อขยายการเข้าถึง โดย API ใหม่นี้ทำให้การวิเคราะห์และการระบุแหล่งที่มาของแอปง่ายขึ้นสำหรับผู้ลงโฆษณา และน่าเชื่อถือมากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการการระบุแหล่งที่มาของ Google Ads
ขอแนะนําให้ใช้ API ใหม่ เนื่องจากสุดท้ายแล้ว Google จะเลิกใช้งาน API เดิม ไปที่API เครื่องมือวัด Conversion ของแอปและ API รีมาร์เก็ตติ้งในคู่มือของ Google Developers เพื่อดูวิธีการตั้งค่าข้อมูลผ่านการผสานรวมแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์โดยละเอียด โปรดดูตัวอย่างข้อกำหนดสําหรับทั้ง API ใหม่และ API เดิมต่อไปนี้
API ใหม่ (ตัวอย่างเท่านั้น)
ตัวอย่างของ Android
POST /pagead/conversion/app/1.0 ?dev_token=MY_DEVELOPER_TOKEN &link_id=MY_LINK_ID &app_event_type=session_start &rdid=MY_USER_ADID &id_type=advertisingid &lat=LAT_STATUS &app_version=1.2.4 &os_version=8.0.0 &sdk_version=1.0.0 ×tamp=1432681913.123456 &gclid=GCLID_VALUE_FROM_REFERRER Host: googleadservices.com User-Agent: MyAnalyticsCompany/1.0.0 (Android 8.0; en_US; SM-G900F; Build/MMB29M; Proxy) X-Forwarded-For: 216.58.194.174 Content-Type: application/json; charset=utf-8 |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูรายการ (การศึกษา งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345"}} |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่เข้าถึงหน้าจอ Conversion (การศึกษา งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345", "value":99.99}} |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูผลิตภัณฑ์
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345"}} |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสําหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์หลายรายการ
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":["id12345","id54321"], "value":99.99}} |
ตัวอย่างของ iOS
การแจ้งเตือน Session_start ไปยัง Google Ads (หรือที่เรียกว่าใช้คําสั่ง ping กับตัวเชื่อม)
POST /pagead/conversion/app/1.0 ?dev_token=MY_DEVELOPER_TOKEN &link_id=MY_LINK_ID &app_event_type=session_start &rdid=MY_USER_IDFA &id_type=idfa &lat=LAT_STATUS &app_version=1.2.4 &os_version=10.0.2 &sdk_version=1.0.0 ×tamp=1432681913.123456 &gclid=GCLID_VALUE_FROM_REFERRER Host: googleadservices.com User-Agent: MyAnalyticsCompany/1.0.0 (iOS 10.0.2; en_US; iPhone9,1; Build/13D15; Proxy) X-Forwarded-For: 216.58.194.174 Content-Type: application/json; charset=utf-8 |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูรายการ (งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345"}} |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่เข้าถึงหน้าจอ Conversion (งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345", "value":99.99}} |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูผลิตภัณฑ์
POST /pagead/conversion/app/1.0 {"app_event_data":{"item_id":"id12345"}} |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสําหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์หลายรายการ
POST /pagead/conversion/app/1.0 ?dev_token=MY_DEVELOPER_TOKEN &link_id=MY_LINK_ID &app_event_type=ecommerce_purchase &rdid=MY_USER_IDFA &id_type=idfa &lat=0 &app_version=1.2.4| &os_version=10.0.2 &sdk_version=1.0.0 ×tamp=1432681913.123456 &value=99.99 ¤cy_code=USD Host: googleadservices.com User-Agent: MyAnalyticsCompany/1.0.0 (iOS 10.0.2; en_US; iPhone9,1; Build/13D15; Proxy) X-Forwarded-For: 216.58.194.174 Content-Type: application/json; charset=utf-8 {"app_event_data":{"item_id":["id12345","id54321"], "value":99.99}} |
API เดิม (ตัวอย่างเท่านั้น)
เราจะเลิกใช้งาน API เดิมในเร็วๆ นี้
ผู้ลงโฆษณารายใหม่ควรใช้การผสานรวมล่าสุด (โปรดดูข้อกำหนดเฉพาะของ API ใหม่ในส่วนด้านบน) เนื่องจาก Google จะเลิกใช้งาน API เดิมในเร็วๆ นี้
สำหรับเครื่องมือวัด Conversion ของแอปและการผสานรวมข้อมูลแบบเดิม โปรดอ่านข้อกำหนดเฉพาะของ Android และ iOS
ตัวอย่างของ Android
การแจ้งเตือน Session_start ไปยัง Google Ads (หรือที่เรียกว่าใช้คําสั่ง ping กับตัวเชื่อม)
https://googleadservices.com/pagead/conversion/app/connect/MY_APP_ID/ ? app_event_type=deep_link&idtype=advertisingid&lat=LAT_STATUS&rdid=MY_USER_ADID&sdkversion=1.0.0&gclid=GCLID_VALUE_FROM_REFERRER |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูรายการ (การศึกษา งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_ADID&idtype=advertisingid&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=view_item&data.item_id=id12345 |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่เข้าถึงหน้าจอ Conversion (การศึกษา งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเองเท่านั้น)
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_ADID&idtype=advertisingid&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=ecommernce_purchase&data.item_id=id12345&data.value=99.99 |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูผลิตภัณฑ์
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_ADID&idtype=advertisingid&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=view_item&data.item_id=id12345 |
ตัวอย่างของ Android
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสําหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์หลายรายการ
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_ADID&idtype=advertisingid&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=ecommernce_purchase&data.item_id=id12345&data.item_id=id54321&data.value=99.99 |
ตัวอย่างของ iOS
การแจ้งเตือน Session_start ไปยัง Google Ads (หรือที่เรียกว่าใช้คําสั่ง ping กับตัวเชื่อม)
https://googleadservices.com/pagead/conversion/app/connect/MY_APP_ID/ ? app_event_type=deep_link&idtype=idfa&lat=LAT_STATUS&rdid=MY_USER_IDFA&sdkversion=1.0.0&gclid=GCLID_VALUE_FROM_REFERRER |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสำหรับผู้ที่ดูผลิตภัณฑ์
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_IDFA&idtype=idfa&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=view_item&data.item_id=id12345 |
ตัวอย่างของ iOS
ตั้งค่าเหตุการณ์แอปสําหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์หลายรายการ
https://googleadservices.com/pagead/conversion/0123456789/? bundleid=MY_APP_ID&rdid=MY_USER_IDFA&idtype=idfa&lat=LAT_STATUS&appversion=1.2.3&osversion=6.0.1&usage_tracking_enabled=1&remarketing_only=1&data.app_event=ecommerce_purchase&data.item_id=id12345&data.item_id=id54321&data.value=99.99 |
สคีมเหตุการณ์
ธุรกิจประเภทต่างๆ ต้องการฟีดและเหตุการณ์แอปที่ต่างกัน การเลือกสคีมที่เหมาะกับธุรกิจช่วยให้ระบบนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างถูกต้อง ธุรกิจบางประเภทใช้สคีมเหตุการณ์ที่จำเป็น (หรือที่แนะนำ) ที่เหมือนกัน ลองค้นหาธุรกิจประเภทของคุณซึ่งแสดงอยู่ด้านล่างนี้
การเดินทาง เที่ยวบิน โรงแรมและบริการให้เช่า
สำคัญ
- สำหรับการใช้ประเภทธุรกิจเที่ยวบินและการเดินทาง คุณจะต้องส่งพารามิเตอร์และค่า "destination"
- สำหรับโรงแรมและบริการให้เช่า คุณจะต้องส่งพารามิเตอร์และค่า item_id
- ตรวจสอบว่าค่า item_id, origin และ destination ตรงกับค่า item_id, origin และ destination ตามลำดับในฟีดข้อมูลธุรกิจ ความสอดคล้องนี้จะช่วยให้ครีเอทีฟโฆษณาแสดงรายการที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้มากที่สุดได้
คำจำกัดความของสคีมเหตุการณ์
ชื่อเหตุการณ์ | ข้อกำหนด | คำจำกัดความของเหตุการณ์ |
session_start | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามการเริ่มต้นเซสชันในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อผู้ใช้เปิดแอปหรือกลับมาใช้แอปต่อ |
view_search_results | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมการค้นหาในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อมีการเติมข้อมูลผลการค้นหา |
view_item_list | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามรายการที่ผู้ใช้ดู เช่น รายการในหมวดหมู่ รายการโปรด และอื่นๆ เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสรายการเมื่อมีการเติมข้อมูลรายการ |
view_item | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามวิธีที่ผู้ใช้ดูข้อมูลรายการโดยละเอียด เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อผู้ใช้ดูมุมมองโดยละเอียดของรายการ |
add_to_cart | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมของรถเข็นช็อปปิ้ง เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสรายการเมื่อผู้ใช้เพิ่มรายการลงในรถเข็นช็อปปิ้ง |
ecommerce_purchase | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามธุรกรรมในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสสินค้าและมูลค่าเมื่อผู้ใช้ซื้อสินค้า |
สคีมการเดินทาง
ชื่อเหตุการณ์ | พารามิเตอร์ที่จำเป็น | พารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ |
app_event = session_start | ||
app_event = view_search_results | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: search_term: สตริงการค้นหา google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
|
app_event = view_item_list | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: search_term: สตริงการค้นหา google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = view_item | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: รหัสสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = add_to_cart | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: รหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสเมืองต้นทาง start_date: end_date: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = ecommerce_purchase | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: value: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
สคีมโรงแรมและบริการให้เช่า
ชื่อเหตุการณ์ | พารามิเตอร์ที่จำเป็น | พารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ |
app_event = session_start | ||
app_event = view_search_results |
destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: search_term: สตริงการค้นหา google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
|
app_event = view_item_list | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: search_term: สตริงการค้นหา google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = view_item | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: รหัสสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = add_to_cart | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: รหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสเมืองต้นทาง start_date: end_date: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
app_event = ecommerce_purchase | destination: รหัสเมืองปลายทาง และ item_id: อาร์เรย์ของรหัสจากสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป (เช่น โรงแรม รถยนต์) |
origin: รหัสจากเมืองต้นทาง start_date: end_date: value: google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
การศึกษา งาน ดีลท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และที่กำหนดเอง
สำคัญ
ตรวจสอบว่าค่า item_id ตรงกับค่าคีย์หลักในฟีดข้อมูลธุรกิจ หากใช้ item_location_id ค่าต้องตรงกับค่ารหัสสถานที่ตั้งในฟีดของคุณเช่นกัน การจับคู่โค้ดกับฟีดจะช่วยให้ครีเอทีฟโฆษณาแสดงรายการที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้มากที่สุดได้
คำจำกัดความของสคีมเหตุการณ์
ชื่อเหตุการณ์ | ข้อกำหนด | คำจำกัดความของเหตุการณ์ |
session_start | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามการเริ่มต้นเซสชันในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อผู้ใช้เปิดแอปหรือกลับมาใช้แอปต่อ |
view_search_results | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมการค้นหาในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อมีการเติมข้อมูลผลการค้นหา |
view_item_list | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามรายการที่ผู้ใช้ดู เช่น รายการในหมวดหมู่ รายการโปรด และอื่นๆ เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์เมื่อมีการเติมข้อมูลรายการ |
view_item | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามการดูข้อมูลรายการโดยละเอียดของผู้ใช้ เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสรายการที่เกี่ยวข้องเมื่อผู้ใช้ดูมุมมองโดยละเอียดของรายการ |
add_to_cart | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมในรถเข็นช็อปปิ้ง/ตะกร้า/จุดชำระเงิน เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสสินค้าเมื่อผู้ใช้ตั้งใจที่จะซื้อ |
ecommerce_purchase | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามธุรกรรมในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสสินค้าและมูลค่าเมื่อผู้ใช้ทำการซื้อ (เช่น หน้า "ขอบคุณ") |
สคีมที่กำหนดเอง
ชื่อเหตุการณ์ | พารามิเตอร์ที่จำเป็น | พารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ |
session_start | ||
view_search_results | item_id: อาร์เรย์ของรหัสสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป search_term: สตริงการค้นหา item_location_id: อาร์เรย์ของรหัสสถานที่ตั้งสินค้า (ประเภทธุรกิจด้านงานหรือการศึกษา) google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
|
view_item_list | item_id: รหัสสินค้าของสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป | app_event: view_item_list item_id: อาร์เรย์ของรหัสสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป item_location_id: อาร์เรย์ของรหัสสถานที่ตั้งสินค้า (ประเภทธุรกิจด้านงานหรือการศึกษา) google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
view_item | item_id: รหัสสินค้าของสินค้าที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป | item_location_id: อาร์เรย์ของรหัสสถานที่ตั้งสินค้า (ประเภทธุรกิจด้านงานหรือการศึกษา) google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
add_to_cart | item_id: อาร์เรย์ของรหัสสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น | item_location_id: อาร์เรย์ของรหัสสถานที่ตั้งสินค้า (ประเภทธุรกิจด้านงานหรือการศึกษา) google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
ecommerce_purchase | item_id: อาร์เรย์ของรหัสสินค้าที่ซื้อ | item_location_id: อาร์เรย์ของรหัสสถานที่ตั้งสินค้า (ประเภทธุรกิจด้านงานหรือการศึกษา) value: มูลค่ารวมของสินค้าที่ซื้อ google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
ค้าปลีก
สิ่งที่สำคัญ
- สำหรับผู้ค้าปลีก ให้อัปโหลดฟีดผลิตภัณฑ์ไปที่ Google Merchant Center
- ตรวจสอบว่าค่า item_id ตรงกับค่ารหัสในฟีด Google Merchant Center การจับคู่ค่าเหล่านี้จะช่วยให้ครีเอทีฟโฆษณาแสดงรายการที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้มากที่สุดได้
คำจำกัดความของสคีมเหตุการณ์
ชื่อเหตุการณ์ | ข้อกำหนด | คำจำกัดความของเหตุการณ์ |
session_start | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามการเริ่มต้นเซสชันในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อผู้ใช้เปิดแอปหรือกลับมาใช้แอปต่อ |
view_search_results | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมการค้นหาในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้เมื่อมีการเติมข้อมูลผลการค้นหา |
view_item_list | ไม่บังคับ | เหตุการณ์นี้จะติดตามรายการที่ผู้ใช้ดู เช่น รายการในหมวดหมู่ รายการโปรด และอื่นๆ เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์เมื่อมีการเติมข้อมูลรายการ |
view_item | จำเป็น | เหตุการณ์นี้จะติดตามการดูข้อมูลรายการโดยละเอียดของผู้ใช้ เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อผู้ใช้ดูมุมมองโดยละเอียดของรายการ |
add_to_cart | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามกิจกรรมของรถเข็นช็อปปิ้ง เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์เมื่อผู้ใช้เพิ่มรายการลงในรถเข็นช็อปปิ้ง |
ecommerce_purchase | ขอแนะนำ | เหตุการณ์นี้จะติดตามธุรกรรมในแอป เรียกใช้เหตุการณ์นี้ด้วยรหัสผลิตภัณฑ์และมูลค่าเมื่อผู้ใช้ซื้อสินค้า |
สคีมมาตรฐาน
ชื่อเหตุการณ์ | พารามิเตอร์ที่จำเป็น | พารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ |
session_start | ||
view_search_results | app_event: view_search_results item_id: อาร์เรย์ของรหัสผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป search_term: สตริงการค้นหา google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
|
view_item_list | item_id: อาร์เรย์ของรหัสผลิตภัณฑ์ที่แสดง | app_event: view_item_list item_id: อาร์เรย์ของรหัสผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เห็นในหน้าจอแอป google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
view_item | item_id: รหัสผลิตภัณฑ์ของรายการที่ผู้ใช้เห็นบนหน้าจอแอป | google_business_vertical: สตริงที่ใช้เพื่อแยกแยะกรณีการใช้งาน |
add_to_cart | item_id: อาร์เรย์ของรหัสผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มลงในรถเข็นช็อปปิ้ง | google_business_vertical: สตริงที่ใช้เพื่อแยกแยะกรณีการใช้งาน |
ecommerce_purchase | item_id: อาร์เรย์ของรหัสผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ | value: มูลค่ารวมของสินค้าที่ซื้อ google_business_vertical: สตริงที่ใช้ในการแยกแยะกรณีการใช้งาน |
ผู้ลงโฆษณาแอปที่ใช้กรณีการใช้งานหลายรายการ
วิธีตั้งค่าพารามิเตอร์ “google_business_vertical”
ผู้ลงโฆษณาที่ทำงานในหลายสายธุรกิจควรเปิดใช้พารามิเตอร์ "google_business_vertical" เพิ่มเติมเมื่อผู้ใช้ดูผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสร้างกลุ่มข้อมูลที่กำหนดเป้าหมายผู้ใช้ในแต่ละประเภทธุรกิจได้ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะเห็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละแคมเปญ ในกรณีตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ ผู้ใช้อาจเห็นเที่ยวบิน โรงแรม และแพ็กเกจท่องเที่ยว พารามิเตอร์ "google_business_vertical" จะช่วยให้ผู้ใช้ที่กำลังดูโรงแรมในเว็บไซต์เห็นโรงแรมในโฆษณาแบบไดนามิก แทนที่จะเห็นแพ็กเกจท่องเที่ยว
เช่น
- ใช้ google_business_vertical = “retail” สำหรับการค้าปลีก
- ใช้ google_business_vertical = “travel” สำหรับการท่องเที่ยว
- ใช้ google_business_vertical = “flights” สำหรับเที่ยวบิน
- ใช้ google_business_vertical = “hotel_rental” สำหรับโรงแรมและบริการให้เช่า
- ใช้ google_business_vertical = “real_estate” สำหรับอสังหาริมทรัพย์
- ใช้ google_business_vertical = “education” สำหรับการศึกษา
- ใช้ google_business_vertical = “local” สำหรับข้อเสนอในท้องถิ่น
- ใช้ google_business_vertical = “jobs” สำหรับงาน
- ใช้ google_business_vertical = “custom” สำหรับที่กำหนดเอง