ได้ประโยชน์มากขึ้นในขณะที่ทำน้อยลง
เส้นทางของลูกค้ามีความซับซ้อนมากกว่าที่เคย มีการครอบคลุมหลายเว็บไซต์และหลายอุปกรณ์ สำหรับนักการตลาด สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจวิธีสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ในทุกช่วงเวลาเหล่านี้ แต่การลงมือทำด้วยตนเองนั้นถือเป็นความท้าทาย ซึ่งนี่คือที่มาของโซลูชันที่ทำงานด้วยระบบ AI
วิธีการทำงาน
โซลูชัน Smart Bidding และ Smart Creative ของ Google Ads ใช้ AI ที่วิเคราะห์สัญญาณนับล้านแบบเรียลไทม์เพื่อแสดงข้อความที่เกี่ยวข้องให้กับลูกค้าที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่สำคัญ
ดังนั้นแทนที่จะต้องเสียเวลากับการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาหรือการเสนอราคาด้วยตนเอง คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เร็วขึ้นด้วยความช่วยเหลือของโซลูชันจาก AI ของ Google
Smart Bidding
Smart Bidding สามารถเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอแบบเรียลไทม์สำหรับการประมูลแต่ละครั้ง วิธีนี้ช่วยลดเวลาในการจัดการราคาเสนอได้อย่างมาก ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นภายในงบประมาณที่กำหนด
Smart Creative
ผลลัพธ์ที่ได้จากการโฆษณานั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของโฆษณา เมื่อใช้ Smart Creative ระบบ AI ของ Google จะเลือกและสร้างชุดไฟล์ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาให้คุณได้ไปมุ่งเน้นที่งานเชิงกลยุทธ์ของแคมเปญการตลาดมากขึ้น
ประเภทของฟีเจอร์ Smart Creative
โฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา
อัปโหลดชิ้นงาน เช่น รูปภาพ บรรทัดแรก โลโก้ และคำอธิบาย แล้ว Google Ads จะสร้างโฆษณาโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงในเครือข่าย Display ของ Google
โฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาแบบไดนามิก
รูปแบบนี้จะใช้เว็บไซต์ในการกำหนดเป้าหมายโฆษณา นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มช่องว่างของแคมเปญที่อิงตามคีย์เวิร์ดได้
โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
สร้างโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทเพื่อแสดงข้อความมากขึ้น รวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องมากขึ้นให้กับลูกค้า
เอเจนซีการตลาดดิจิทัล HawkSEM ใช้ Smart Bidding และ Smart Creative ปรับปรุงผลตอบแทนจากการลงทุนของลูกค้า
สำหรับปริมาณ Conversion* |
"เราตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น – Sam Yadegar |
* ข้อมูลภายนอกของ Google, ทั่วโลก, 2018
ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญโดยประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเสนอราคา และทําการปรับเปลี่ยนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ