คุณสามารถสร้างแคมเปญวิดีโอที่ตรงใจผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion ได้ เมื่อสร้างแคมเปญวิดีโอที่มีเป้าหมายเป็น "ยอดขาย" "โอกาสในการขาย" หรือ "การเข้าชมเว็บไซต์" คุณสามารถเลือกให้ Google Ads เพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอเพื่อ Conversion ตามจํานวนเงินโดยเฉลี่ยที่ยินดีจ่าย (CPA เป้าหมาย) หรือจะเลือกให้ Google Ads กําหนดราคาเสนอโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ Conversion มากที่สุดภายในงบประมาณที่ตั้งไว้ก็ได้ (เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด)
บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอเพื่อ Conversion
สร้างและเปิดตัวแคมเปญวิดีโอ
เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญระหว่างที่สร้าง
ขณะสร้างแคมเปญ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนตามการตั้งค่าที่เลือก ซึ่งแจ้งให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจทําให้ประสิทธิภาพลดลงหรืออาจมีความร้ายแรงมากพอที่จะทําให้ไม่สามารถเผยแพร่แคมเปญได้
เมนูการนําทางสำหรับสร้างแคมเปญซึ่งปรากฏขึ้นขณะที่คุณสร้างแคมเปญแสดงภาพรวมของความคืบหน้าในการสร้าง และแสดงการแจ้งเตือนที่คุณอาจต้องจัดการ เลื่อนไปมาระหว่างขั้นตอนต่างๆ ในเมนูการนําทางเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมาย การเสนอราคา งบประมาณ หรือการตั้งค่าแคมเปญอื่นๆ อย่างง่ายดาย ดูวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ
จำเป็น
เครื่องมือวัด Conversion
ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์และตรวจสอบว่าแท็ก Google ทํางานอย่างถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพสําหรับเหตุการณ์ Conversion ขนาดเล็ก (เช่น "เพิ่มลงในรถเข็น" หรือ "การเข้าชมเว็บไซต์") แล้วเลือกตัวเลือกการนับ Conversion ที่เหมาะกับแคมเปญ หากวัดการเข้าชมร้านค้า คุณสามารถรวมการดำเนินการนี้เป็นเหตุการณ์ Conversion เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญวิดีโอสําหรับเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (Omnichannel) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่มีประโยชน์ให้กับระบบของเราเพื่อช่วยให้คุณบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการได้เร็วขึ้น
งบประมาณ
การตั้งค่างบประมาณส่งผลต่อความเร็วในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อ Conversion สําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย ขอแนะนําให้ตั้งงบประมาณมากกว่า CPA เป้าหมายอย่างน้อย 15 เท่า ใช้แผนภูมิด้านล่างเพื่อให้ทราบระยะเวลาที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยอิงตามงบประมาณปัจจุบัน
การกำหนดงบประมาณ | เวลาในการเพิ่มประสิทธิภาพ |
---|---|
มากกว่า CPA เป้าหมาย 15 เท่า | 7-8 วัน |
มากกว่า CPA เป้าหมาย 10-15 เท่า | 2 สัปดาห์ |
มากกว่า CPA เป้าหมาย 5-10 เท่า | 3 สัปดาห์ |
สำหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด งบประมาณรายวันควรมากกว่า CPA วิดีโอที่คาดไว้อย่างน้อย 10 เท่า
แนะนำ
การเสนอราคา
หากมี CPA ที่ตั้งใจจะใช้กับวิดีโอแล้ว ให้เริ่มต้นด้วยการเสนอราคา CPA เป้าหมาย (หากยังไม่ทราบ CPA ที่จะใช้กับวิดีโอ ให้ทําตามคําแนะนําด้านหลักเกณฑ์การเสนอราคาที่ปรากฏใน Google Ads ขณะสร้างแคมเปญ)
หากเป้าหมายหลักคือการเพิ่ม Conversion ให้มากที่สุดในแคมเปญตามเทศกาลหรือแคมเปญการโปรโมต ให้เริ่มต้นด้วยการเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
กลุ่มเป้าหมาย
เริ่มต้นด้วยกลุ่มที่กําหนดเอง (ตามคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search) การจับคู่ข้อมูลลูกค้า กลุ่มข้อมูล หรือกลุ่มที่คล้ายกัน นอกจากกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้แล้ว คุณควรเลือกใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้อื่นๆ เพิ่มเติมที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion
หากใช้กลุ่มที่กําหนดเอง (ตามคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search) ให้ใช้คีย์เวิร์ดที่แนะนําประมาณ 10-15 รายการโดยพิจารณาตามประสิทธิภาพ Conversion ที่ผ่านมา หรือใช้คีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search ที่ทําให้เกิด Conversion สูงสุด
การกำหนดเป้าหมายเนื้อหา
หลีกเลี่ยงการเพิ่มการกําหนดเป้าหมายเนื้อหา (ตามคีย์เวิร์ด หัวข้อ หรือตําแหน่ง) ให้แคมเปญ เนื่องจากอาจเป็นการจํากัดประสิทธิภาพของแคมเปญ โดยปกติแล้วแคมเปญวิดีโอที่เพิ่มจำนวน Conversion จะทำงานได้ดีกว่าเมื่อไม่มีคีย์เวิร์ด หัวข้อ หรือตำแหน่งโฆษณา
นําการกําหนดเป้าหมายเนื้อหาออกจากแคมเปญวิดีโอที่มีอยู่ทั้งหมดที่เพิ่มจำนวน Conversion
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกภาพรวม
- คลิก "ตัวกรองพื้นที่ทํางาน" ที่ด้านบน และเลือกแคมเปญวิดีโอ
- ที่แถบ "ตัวกรองพื้นที่ทํางาน" ใต้เมนูการนําทาง คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วคลิกประเภทกลยุทธ์การเสนอราคา
- จากรายการ "ประเภทกลยุทธ์การเสนอราคา" ให้ทําเครื่องหมายที่ช่องถัดจาก CPA เป้าหมาย, ROAS เป้าหมาย, เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด และเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด แล้วคลิกใช้
- คลิกเนื้อหาในเมนูหน้าเว็บทางซ้าย แล้วเลือกหัวข้อ ตําแหน่งโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณาวิดีโอ/Display
- ทําเครื่องหมายที่ช่องถัดจากหัวข้อ ตำแหน่งโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดแต่ละรายการที่ต้องการนําออก
- คลิกแก้ไข และคลิกไอคอนนําออก
- คลิกยืนยันในข้อความป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้น
ครีเอทีฟโฆษณา
เพิ่มส่วนขยายไซต์ลิงก์หรือใช้องค์ประกอบครีเอทีฟโฆษณาหลายๆ แบบ (อย่างน้อย 5 รายการหากเป็นไปได้ โดยใช้ปุ่มคํากระตุ้นการตัดสินใจ บรรทัดแรก หรือเนื้อหาวิดีโอให้แตกต่างกันในแต่ละครีเอทีฟโฆษณา)
มีคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน: ใช้วลีอย่างเช่น "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" "ลงชื่อสมัครใช้" หรือ "ซื้อเลย" |
ดึงดูดความสนใจของผู้ชม: ดึงดูดความสนใจของผู้ชมในช่วง 5-10 วินาทีแรกของโฆษณา โดยกล่าวถึงปัญหาและวิธีที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น |
ย้ำถึงสิ่งที่นำเสนอ: พากย์เสียงตามคํากระตุ้นการตัดสินใจหรือใส่ไว้ในกราฟิกแบบวางซ้อน |
หากพร้อมแล้ว
ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้น
หากแคมเปญกำลังบรรลุเป้าหมาย และคุณได้ Conversion อย่างน้อย 5 รายการต่อวันในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ให้ทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนำเหล่านี้เพื่อขยายผลกระทบของแคมเปญ
งบประมาณ
หากแคมเปญถูกจำกัดด้วยงบประมาณ ให้เพิ่มงบประมาณโดยรวม ทำตามคําแนะนําด้านหลักเกณฑ์งบประมาณที่ปรากฏทางด้านขวาใน Google Ads ขณะตั้งค่าแคมเปญ
กลุ่มเป้าหมาย
บัญชี Google Ads ของคุณต้องมีแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีแผนจะซื้ออย่างน้อย 1 แคมเปญ หากแคมเปญมีการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรซ้อนอยู่ ให้นำกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากรที่ซ้อนอยู่ในกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มต่อแคมเปญออก
เครือข่าย
เปิดใช้พาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google ในการตั้งค่าแคมเปญเพื่อให้ได้ Conversion เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ พาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google คือเว็บไซต์และแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้เผยแพร่โฆษณาคุณภาพสูงซึ่งใช้แสดงโฆษณาวิดีโอต่อผู้ชมนอก YouTube ได้
การวัดผล
ใช้รายงานการระบุแหล่งที่มาเพื่อให้ทราบเส้นทางการทำ Conversion ของลูกค้าในเครือข่ายต่างๆ
ครีเอทีฟโฆษณา
ใช้การทดสอบวิดีโอเพื่อระบุกลยุทธ์ครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพที่สุดสําหรับครีเอทีฟโฆษณาใหม่ และพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เสียงบรรยายเพื่อใส่เสียงบรรยายคุณภาพสูงจากการอ่านเสียงข้อความให้เหมือนเสียงคนจริงจากไลบรารีชิ้นงาน Google Ads ลงในวิดีโอที่มีอยู่
ประเภทแคมเปญ
ได้รับ Conversion เพิ่มยิ่งขึ้นด้วยการลงแคมเปญ Discovery นอกเหนือจากแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ
แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย
ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญเป็นเวลาอย่างน้อย 7-14 วันก่อนทําการเปลี่ยนแปลง หากแคมเปญมีปัญหาด้านประสิทธิภาพเกี่ยวกับ CPA เป้าหมาย (tCPA) ให้ดูคําแนะนําในการปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญต่อไปนี้
สถานการณ์ | คำแนะนำ | ราคาเสนอ |
---|---|---|
แคมเปญมีการใช้จ่ายน้อยแต่ได้ tCPA ตามที่ระบุ | ขยายกลุ่มเป้าหมาย สร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อหาผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion ด้วยตนเอง หรือเพิ่มกลุ่มโฆษณาที่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายเพื่อระบบใช้ tCPA กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างที่สุดเพื่อให้ได้รับ Conversion | ค่อยๆ เพิ่มราคาเสนอ tCPA ทีละ 10-15% เพื่อปรับปรุงการแสดงโฆษณา |
แคมเปญมีการใช้จ่ายน้อยแต่ไม่ได้ tCPA ตามที่ระบุ | เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย สร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างออกไปเพื่อค้นหาผู้ใช้มีแนวโน้มจะทำ Conversion มากขึ้น หากคุณพยายามสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ ให้ใช้การตั้งค่า Conversion ระดับแคมเปญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้น | รักษาราคาเสนอ tCPA ไว้เท่าเดิม |
แคมเปญมีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ได้ tCPA ตามที่ระบุ | จำกัดกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง หากกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันกว้าง ให้พิจารณาแบ่งกลุ่มเป้าหมายที่คุณคิดว่ามีแนวโน้มจะทำ Conversion มากกว่าออกเป็นชั้นๆ | ค่อยๆ ลดราคาเสนอ tCPA ทีละ 10-15% และคอยติดตามดูจำนวน Conversion ไปด้วย |
แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
หากกลยุทธ์การเสนอราคาของคุณคือเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด ให้รออย่างน้อย 1 สัปดาห์ (3-7 วัน) ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงแคมเปญ หากแคมเปญมีปัญหาเกี่ยวกับ Conversion, งบประมาณ หรือ CPA ให้ดูคําแนะนําในการปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญต่อไปนี้
สถานการณ์ | คำแนะนำ |
---|---|
แคมเปญไม่ได้รับ Conversion เลย |
|
แคมเปญไม่ใช้จ่ายงบประมาณ |
เพิ่มกลุ่มโฆษณาใหม่สําหรับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า กลุ่มที่คล้ายกัน หรือกลุ่มที่มีแผนจะซื้อเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย |
CPA สูงเกินไป |
อย่าลืมว่าการเสนอราคาอัตโนมัติเพื่อให้มีประสิทธิภาพตามต้องการอาจใช้เวลา 7-14 วัน หาก CPA ยังสูงเกินไปหลังจากผ่านไป 7-14 วัน ให้ทําดังนี้
|
ขั้นตอนถัดไป
ทำตามเช็กลิสต์นี้เพื่อเพิ่ม Conversion ออนไลน์ด้วยโฆษณา YouTube
เข้าเรียนหลักสูตร Skillshop เกี่ยวกับการจัดการแคมเปญวิดีโอ