วิธีสร้างและใช้ฟีดสำหรับ App Campaign

บทความนี้จะอธิบายวิธีสร้างและใช้ฟีดข้อมูลธุรกิจหรือฟีด Google Merchant Center กับ App Campaign ดูข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ฟีดใน App Campaign

วิธีการสร้างฟีดข้อมูลธุรกิจ

เทมเพลตที่รองรับ

มีเทมเพลตฟีดข้อมูลธุรกิจบางประเภทที่ใช้กับ App Campaign ได้ ดังนี้
  • การศึกษา
  • เที่ยวบิน
  • โรงแรมและห้องเช่า
  • งาน
  • ดีลท้องถิ่น
  • ท่องเที่ยว
  • กำหนดเอง

การเข้ารหัส Unicode ที่รองรับ

ข้อมูลธุรกิจรองรับ UTF-8, UTF-16 และ UTF-32 (ควรใช้ UTF-8) การแปลงข้อมูลระหว่างรูปแบบเหล่านี้จะไม่ทำให้สูญเสียข้อมูล ข้อมูลธุรกิจไม่รองรับ UTF7, UTF1, UTF-EBCDIC, SCSU, BOCU, GB-18030, Latin 1 หรือ ISO-8859-1

แอตทริบิวต์ที่จำเป็น

ตารางนี้แสดงรายละเอียดแอตทริบิวต์ที่จำเป็นสำหรับเทมเพลตประเภทธุรกิจ 4 ประเภทที่รองรับโดย App Campaign

ชื่อแอตทริบิวต์ข้อมูล เนื้อหา/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เทมเพลตที่ต้องใช้ข้อมูลนี้ การนำไปใช้ใน App Campaign
URL รูปภาพ

รูปภาพที่โฮสต์บนเว็บและรูปภาพที่เข้าถึงได้ทางเว็บ

JPG, JPEG, GIF หรือ PNG หากเป็น JPG, JPEG หรือ GIF ต้องบันทึกรูปภาพในรหัสสี RGB ที่มีโปรไฟล์ ICC แนบอยู่

ขนาดขั้นต่ำที่แนะนำคือ 300 พิกเซล x 300 พิกเซล

รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยทำให้รูปแบบโฆษณาสอดคล้องกันและมีพื้นที่สีขาวน้อยที่สุด

ความละเอียด: 72 dpi

ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
URL สุดท้าย

ลิงก์แอป Android, ลิงก์ทั่วไปของ iOS

หรือหากคุณไม่ได้ใช้ Deep Link ให้ใช้ URL หน้าเว็บของ App Store สำหรับแอป หรือ URL ของหน้าในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ควรเข้าถึงเมื่อคลิกโฆษณา (ขึ้นต้นด้วย "http://" หรือ "https://")

ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การทำ Deep Link
Android App Link Deep Link สำหรับ Android ในรูปแบบของ *android-app://{package_id}/{scheme}/{host_path}* ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การทำ Deep Link
iOS App Link Deep Link สำหรับ iOS ในรูปแบบ *{scheme}://{host}/{path}* ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การทำ Deep Link
iOS App Store ID ต้องระบุหากใช้ช่อง iOS App Link (ลิงก์แอป iOS) ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การทำ Deep Link
รหัส ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ กำหนดเอง  
ชื่อสินค้า ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) กำหนดเอง
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย
รหัสปลายทาง ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ เที่ยวบิน การเดินทาง  
Flight Description ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) เที่ยวบิน
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย
รหัสพร็อพเพอร์ตี้ ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ โรงแรม  
ชื่อพร็อพเพอร์ตี้ ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) โรงแรม
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย
รหัสดีล ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ดีลท้องถิ่น  
ชื่อดีล ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) ดีลท้องถิ่น
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
ชื่อ ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) ท่องเที่ยว
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก

แอตทริบิวต์ที่แนะนำ

ตารางนี้แสดงรายละเอียดแอตทริบิวต์ที่แนะนำสำหรับเทมเพลตประเภทธุรกิจ 4 ประเภทที่รองรับโดย App Campaign ดังนี้
ชื่อแอตทริบิวต์ข้อมูล เนื้อหา/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ประเภทธุรกิจ การนำไปใช้ใน App Campaign
URL สุดท้ายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากนอกเหนือจากเว็บลิงก์ คุณมีลิงก์แอป Android/ลิงก์ทั่วไปของ iOS ขอแนะนำให้คุณป้อนลิงก์แอป Android/ลิงก์ทั่วไปของ iOS ที่นี่ จากนั้นให้เพิ่มลิงก์แบบเว็บเท่านั้นไปยังแอตทริบิวต์ Final URL เพื่อรองรับผู้ใช้เดสก์ท็อป ทั้งหมด
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การทำ Deep Link
ราคา ราคาที่แสดงในโฆษณา ซึ่งควรเป็นตัวเลขตามด้วยรหัสสกุลเงินมาตรฐาน ISO 4217 ใช้ "." เป็นเครื่องหมายทศนิยม ทั้งหมด (สำหรับเที่ยวบิน แอตทริบิวต์นี้จะเรียกว่า "Flight price")
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
ราคาลด ราคาลดที่แสดงในโฆษณา ซึ่งควรเป็นตัวเลขตามด้วยรหัสสกุลเงินมาตรฐาน ISO 4217 ใช้ "." เป็นเครื่องหมายทศนิยม ทั้งหมด (สำหรับเที่ยวบิน แอตทริบิวต์นี้จะเรียกว่า "Flight sale price")
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
ชื่อย่อยสินค้า ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) กำหนดเอง
  • การกำหนดเป้าหมาย
คำอธิบายสินค้า ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) กำหนดเอง
  • การกำหนดเป้าหมาย
ชื่อต้นทาง ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ เที่ยวบิน
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย
ชื่อปลายทาง ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ เที่ยวบิน โรงแรม
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย
คำอธิบาย ตัวอักษรและตัวเลขในลำดับใดก็ได้ ความยาวสูงสุดที่แนะนำคือ 25 อักขระ (12 อักขระสำหรับภาษาแบบ Double-width) โรงแรม
  • รูปแบบโฆษณาแบบไดนามิก
  • การกำหนดเป้าหมาย

อัปโหลดไฟล์ข้อมูล

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ ไอคอนเครื่องมือ
  2. คลิกข้อมูลธุรกิจ
  3. คลิกปุ่มบวก เพื่อเพิ่มฟีดข้อมูล
  4. เลือกฟีดโฆษณา Display แบบไดนามิก
  5. เลือกจากประเภทธุรกิจต่อไปนี้ที่มีเทมเพลตซึ่ง App Campaign รองรับ (ดาวน์โหลดเทมเพลตและรวมแอตทริบิวต์ข้อมูลที่จำเป็น รวมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณต้องการรวม)
    • การศึกษา: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Program ID (รหัสหลักสูตร), Location ID (รหัสสถานที่ตั้ง), Program name (ชื่อหลักสูตร), Final URL (URL สุดท้าย), Image URL (URL ของรูปภาพ) และ Area of study (ขอบเขตการเรียนรู้) ข้อมูลที่แนะนำ (ดูตารางด้านบน) ประกอบด้วย Program description (คำอธิบายหลักสูตร) และ School name (ชื่อโรงเรียน)
    • เที่ยวบิน: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Image URL (URL ของรูปภาพ), Final URL (URL สุดท้าย), Destination ID (รหัสปลายทาง) และ Flight description (รายละเอียดเที่ยวบิน) ข้อมูลที่แนะนำ (ดูตารางด้านบน) ประกอบด้วย Destination name (ชื่อปลายทาง) และ Description (คำอธิบาย)
    • โรงแรมและห้องเช่า: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Image URL (URL รูปภาพ), Final URL (URL สุดท้าย), Property ID (รหัสที่พัก) และ Property name (ชื่อที่พัก) ข้อมูลที่แนะนำ (ดูตารางด้านบน) ประกอบด้วย Destination name (ชื่อปลายทาง) และ Description (คำอธิบาย)
    • งาน: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Job ID (รหัสงาน), Location ID (รหัสสถานที่ตั้ง), Title (ตำแหน่ง), Final URL (URL สุดท้าย), Image URL (URL ของรูปภาพ) และ Subtitles (คำบรรยาย) ข้อมูลที่แนะนำ (ดูตารางด้านบน) Description (คําอธิบาย) และ Category (หมวดหมู่)
    • ดีลท้องถิ่น: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Image URL (URL ของรูปภาพ), Final URL (URL สุดท้าย), Deal ID (รหัสดีล) และ Deal name (ชื่อดีล)
    • อสังหาริมทรัพย์: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Listing ID (รหัสข้อมูล), Listing name (ชื่อข้อมูล), Final URL (URL สุดท้าย), Image URL (URL ของรูปภาพ), City name (ชื่อเมือง), Description (คำอธิบาย), Price (ราคา) ข้อมูลที่แนะนำ (ดูตารางด้านบน) Property type (ประเภทที่พัก) และ Listing type (ประเภทข้อมูล)
    • การเดินทาง: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Image URL (URL ของรูปภาพ), Final URL (URL สุดท้าย), Destination ID (รหัสปลายทาง) และ Title (ชื่อ)
    • กำหนดเอง: ข้อมูลเทมเพลตที่จำเป็นสำหรับการสร้างฟีดประกอบด้วย Image URL (URL รูปภาพ), Final URL (URL สุดท้าย), ID (รหัส) และ Item title (ชื่อรายการ)
  6. ตั้งชื่อแหล่งข้อมูลใหม่
    • เราแนะนำให้ใช้ชื่อสั้นๆ และไม่เว้นวรรค
    • ตรวจสอบว่าไม่ได้ใช้ชื่อซ้ำกับชื่อชุดข้อมูลหรือฟีดเดิมที่คุณนำออกไปแล้ว Google Ads จะจดจำเฉพาะชื่อใหม่เท่านั้น
  7. คลิกเลือกแหล่งที่มา แล้วเลือกไฟล์ของเทมเพลตฟีดที่บันทึกไว้เพื่ออัปโหลด โปรดทราบว่ามีการจำกัดขนาดไฟล์ .csv และ .tsv ไว้ไม่เกิน 500 MB และไฟล์ประเภทอื่นๆ ไว้ไม่เกิน 50 MB
  8. คลิกใช้

คลิกประวัติการอัปโหลดในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายเพื่อดูการอัปโหลดล่าสุด คุณอาจเลือกดาวน์โหลดผลลัพธ์ในคอลัมน์ "การดำเนินการ" หากอัปโหลดได้สำเร็จ หรือเลือกดาวน์โหลดข้อผิดพลาดเพื่อดูสิ่งที่แก้ไขได้

วิธีการสร้างฟีด Merchant Center

ฟีด Google Merchant Center ที่มีอยู่ใช้เป็นฟีดสำหรับ App Campaign ได้ หากคุณยังไม่ได้สร้างฟีด ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างทั้งหมด หากสร้างแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนที่ 2 ถึง 3

  1. สร้างฟีดใน Google Merchant Center (ลงชื่อสมัครใช้ Merchant Center หากยังไม่ได้ลงชื่อสมัครใช้)
  2. ลิงก์บัญชี Google Merchant Center กับบัญชี Google Ads
  3. เพิ่มฟีดข้อมูล Merchant Center ลงในแคมเปญที่ต้องการ โดยทำดังนี้
 
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกแคมเปญ
  4. คลิก "แคมเปญทั้งหมด" ในแถบตัวกรอง แล้วเลือกประเภทแคมเปญเป็น "App Campaign"
  5. ในหน้านี้ ให้คลิก "การตั้งค่า" เลื่อนลง แล้วคลิกฟีดข้อมูล
    1. เลือกตัวเลือก "แนบฟีดเพื่อปรับปรุงการกำหนดเป้าหมายและเปิดใช้โฆษณาที่แสดงรายการฟีดของคุณ"
    2. เลือกฟีด Google Merchant Center แล้วเลือกบัญชี Google Merchant Center ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่แสดงในแอปของคุณจากเมนูแบบเลื่อนลง
  6. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: หากบัญชี Merchant Center ของคุณจัดการผู้ขายหลายรายในมาร์เก็ตเพลส ให้ทำตาแนวทางปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับมาร์เก็ตเพลสในการจัดการผู้ขาย

ข้อกำหนด

หากใช้ฟีด Google Merchant Center คุณจะต้องดำเนินการ 2-3 ขั้นตอนใน Merchant Center เพื่อใช้ฟีดสำหรับ App Campaign

  1. กำหนดสถานะโฆษณา Shopping เป็น “ใช้งานอยู่” และ “เปิดใช้” รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกใน Merchant Center
    1. ลงชื่อเข้าใช้ Merchant Center
    2. คลิกการเติบโตที่ส่วนนำทางหลักด้านซ้าย จากนั้นคลิกจัดการโปรแกรม
    3. คุณจะเห็นการ์ดโปรแกรม "โฆษณา Shopping" และ "รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิก" หากโฆษณา Shopping ไม่ทํางาน ให้คลิกไอคอนการตั้งค่า Settings แล้วอัปเดตสถานะ "โฆษณา Shopping" โดยคลิกที่ลูกศรลง ลูกศรลง เพื่อเปิดเมนูสถานะ หากไม่ได้เปิดใช้รีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิก ให้คลิกเปิดใช้สีฟ้าที่ด้านล่างซ้าย
  2. ตรวจสอบฟีดเพื่อให้แน่ใจว่ามีโฆษณา Shopping อยู่ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการปลายทางหลายรายการสำหรับผลิตภัณฑ์ หากเห็นแอตทริบิวต์ปลายทางที่ยกเว้นสำหรับ "โฆษณา Shopping" ให้นำออก

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

  1. ตรวจสอบว่าฟีดที่แนบกับ App Campaign ของคุณมีอย่างน้อย 10 รายการ (แนะนำให้มีมากกว่านั้น)
    • หากคุณใช้ฟีด Merchant Center ให้ตรวจสอบว่ามีรายการฟีดเพียงพอที่จะแสดงในประเทศของ App Campaign โดยตรวจสอบว่าค่าคอลัมน์ประเทศในฟีด Merchant Center ตรงกับประเทศที่ App Campaign กำหนดเป้าหมาย
  2. ตรวจสอบว่าเนื้อหาในรายการฟีดมีคุณภาพสูง
    • ภาษาของชื่อรายการควรตรงกับภาษาที่ App Campaign กำหนดเป้าหมาย
    • ฟีดควรประกอบด้วยรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีคุณภาพสูง (300 x 300) เพื่อให้รูปแบบโฆษณาสอดคล้องกันและมีพื้นที่สีขาวน้อยที่สุด
    • รูปภาพควรแสดงรายการอย่างชัดเจน
    • รายการฟีดแต่ละรายการต้องไม่ซ้ำกัน อย่าใช้รูปภาพเดียวกันในรายการฟีดที่ต่างกัน
  3. หากคุณอัปเดตฟีดเพื่อปรับปรุงให้มีประโยชน์มากขึ้น ให้ลองเพิ่มรายการใหม่แทนการแทนที่รายการ (โปรดทราบว่า Merchant Center ต้องรีเฟรชฟีดทุก 30 วัน) การปรับปรุงที่มีประโยชน์มากขึ้นมีดังนี้
    • เพิ่มสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะตรงตามความต้องการของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากที่สุด
    • แทนที่รูปภาพคุณภาพต่ำด้วยรูปภาพที่คุณภาพดีกว่า
  4. ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการติดตามประสิทธิภาพสมาร์ทแท็กพิกเซลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพฟีด
  5. ตรวจสอบว่าใช้งาน Deep Link อย่างถูกต้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Deep Link และการสร้าง Deep Link
    1. Android App Link หรือ iOS Universal Link: เพิ่ม Deep Link เป็น URL ปกติ
      • ฟีด Merchant Center: ใช้ช่องลิงก์หรือmobile_link
      • ฟีดข้อมูลธุรกิจ: ใช้ช่อง URL สุดท้ายหรือ URL สุดท้ายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
    2. Deep Link ของสคีมที่กำหนดเอง: เพิ่ม Deep Link ของสคีมที่กำหนดเองในฟิลด์ที่กำหนด
      1. Android:
        • ฟีด Merchant Center: เพิ่ม mobile_android_app_link เป็นแอตทริบิวต์ในฟีด Merchant Center ป้อน Deep Link ของสคีมที่กำหนดเองของ Android ในรายการฟีดแต่ละรายการ
        • ฟีดข้อมูลธุรกิจ: ป้อน Deep Link ของสคีมที่กำหนดเองในช่องของลิงก์แอป Android
      2. iOS
        • ฟีด Merchant Center:
          • เพิ่ม mobile_ios_app_link เป็นแอตทริบิวต์ในฟีด Merchant Center แล้วใส่ Deep Link ของสคีมที่กำหนดเองของ iOS ในรายการฟีดทุกรายการ
          • เพิ่ม mobile_ios_app_store_id เป็นแอตทริบิวต์ในฟีด Merchant Center ป้อนรหัส App Store ของแอป iOS ซึ่งดูได้จาก URL เว็บ App Store ของแอปซึ่งจะแสดงเป็น “/id[store id]
        • ฟีดข้อมูลธุรกิจ:
          • ป้อน Deep Link ของสคีมที่กำหนดเองของ iOS ในช่องลิงก์แอป iOS
          • คุณจะต้องกรอกข้อมูลในฟิลด์รหัส App Store ของ iOS และในรายการฟีดแต่ละรายการ คุณดูรหัส App Store ของแอปได้ใน URL เว็บ App Store ของแอปซึ่งจะแสดงเป็น “/id[store id]

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
10883000341932822601
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false