วิธีที่ข้อมูลการนำทางช่วยให้ Maps ทํางานได้ดีขึ้นสําหรับทุกคน

การนำทางขับเคลื่อนโดยข้อมูลการนำทาง ซึ่งทำให้ Google Maps มีประโยชน์มากขึ้นสำหรับทุกคน โดยระบบจะเก็บรวบรวมข้อมูลนี้เมื่อคุณใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น

  • การนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
  • ข้อมูลเส้นทางโดยย่อ ซึ่งจะแสดงข้อมูลในหน้าภาพรวมเส้นทางหรือหน้าจอล็อก เพื่อบอกเวลาถึงโดยประมาณที่อัปเดตตลอดและเลี้ยวถัดไปโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเคลื่อนที่ไปตามเส้นทาง คุณสามารถปิดข้อมูลเส้นทางโดยย่อได้โดยไปที่การตั้งค่า การตั้งค่า หรือแตะจุดสีน้ำเงิน

ข้อมูลการนำทางมีประโยชน์เสมอมาในแง่ที่ช่วยให้ Google Maps มอบฟีเจอร์ที่ทำงานแบบเรียลไทม์ เช่น สภาพการจราจร เหตุขัดข้อง และความสามารถในการค้นหาเส้นทางที่เร็วที่สุด

วิธีการทํางานของข้อมูลการนําทาง

ขณะที่คุณนำทางโดยใช้ Google Maps เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อแสดงสภาพของโลกในแบบเรียลไทม์ให้ทุกคนได้เห็น โดยมีข้อมูลอย่างเช่น

  • ตำแหน่ง GPS
  • รายละเอียดการนําทาง เช่น เส้นทางที่ใช้
  • ข้อมูลเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ของคุณ เช่น บารอมิเตอร์

Google จะใช้เฉพาะข้อมูลของคุณ หรือใช้ร่วมกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วยให้ Maps ทำงานได้ดีขึ้น เช่น

  • การปรับปรุงการนําทาง
  • การแนะนําเส้นทางอื่นที่เร็วกว่าเพื่อประหยัดเวลา
  • การแสดงข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ เช่น การจราจร เหตุขัดข้อง และสภาพอากาศ

Google จะเริ่มรวบรวมข้อมูลการนำทางในกรณีต่างๆ ดังนี้

  • สำหรับการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว: ไม่นานหลังจากที่คุณแตะ "เริ่ม" เริ่ม
  • สำหรับข้อมูลเส้นทางโดยย่อ: ไม่นานหลังจากที่คุณเริ่มเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางโดยเปิด Maps ไว้ด้วย

Google จะหยุดรวบรวมข้อมูลการนำทางในกรณีต่างๆ ดังนี้ 

  • สำหรับการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว: หลังจากที่คุณไปถึงจุดหมาย นอกจากนี้ คุณยังหยุดการนำทางได้โดยแตะออกหรือปิด ปิด
  • สำหรับข้อมูลเส้นทางโดยย่อ: หลังจากที่คุณไปถึงจุดหมาย คุณยังสามารถแตะกลับ กลับ ได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของคุณตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

วิธีที่ Google ปกป้องข้อมูลการนําทาง

  • ข้อมูลการนําทาง เช่น เส้นทางที่ใช้ จะไม่เชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ แต่เชื่อมโยงกับตัวระบุที่สร้างขึ้นอย่างปลอดภัยและรีเซ็ตเป็นประจํา ซึ่งหมายความว่า Google จะดูข้อมูลการนำทางจากบัญชี Google ของคุณไม่ได้
  • ข้อมูลอื่นๆ ที่เก็บรวบรวมขณะคุณออกเดินทาง เช่น เมื่อค้นหาเส้นทางไปยังสถานที่หนึ่ง อาจเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนแปลงการควบคุมและจัดการกิจกรรม เช่น ประวัติตําแหน่งหรือกิจกรรมบนเว็บและแอปได้โดยไปที่ข้อมูลของคุณใน Maps
  • เราเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลการนําทางที่จะทำให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน Maps เท่านั้น โดยระบบจะลบข้อมูลออกหลังจากประมวลผลแล้ว
  • เราจะไม่เชื่อมโยงการอัปเดตแผนที่กับบัญชี Google หรืออุปกรณ์ของคุณ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google รักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย

คุณควบคุมได้

คุณเปลี่ยนสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งของ Google Maps ได้ โปรดทราบว่าหากคุณปฏิเสธสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่ง จะเป็นการปิดใช้ฟีเจอร์ที่ใช้ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ เช่น การนําทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว แต่คุณจะยังดูรายการคำแนะนำและตัวอย่างเส้นทางได้
  1. ไปที่การตั้งค่าใน iPhone หรือ iPad 
  2. แตะความเป็นส่วนตัว จากนั้น บริการตำแหน่ง
    • ​​​​ตรวจสอบว่าบริการตำแหน่งเปิดอยู่
  3. แตะแอป Google Maps Google Maps
  4. แตะตัวเลือกต่อไปนี้
    • ไม่เลย: ป้องกันไม่ให้เข้าถึงข้อมูลบริการตําแหน่ง
    • ถามครั้งถัดไป: ให้คุณเลือกได้ว่าจะเป็นทุกครั้งขณะใช้แอป อนุญาตครั้งเดียว หรือไม่อนุญาต
    • ขณะใช้แอป: เข้าถึงตําแหน่งได้ขณะใช้ Google Maps หรือฟีเจอร์ของ Google Maps 
    • ทุกครั้ง: อนุญาตให้เข้าถึงตําแหน่งของคุณได้แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน Google Maps อยู่

นอกจากนี้ คุณยังสามารถปิดข้อมูลเส้นทางโดยย่อได้ทุกเมื่อโดยทำดังนี้

  1. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ Account circle จากนั้นการตั้งค่า จากนั้น การตั้งค่าการนำทาง
    • และยังแตะจุดสีน้ำเงินในหน้าจอภาพรวมเส้นทางได้ด้วย 
  2. แตะข้อมูลเส้นทางโดยย่อ
เคล็ดลับ: หากกำหนดให้แอปมีค่าเป็นขณะใช้แอป คุณอาจเห็นว่าแถบสถานะเปลี่ยนเป็นสีน้ําเงิน พร้อมแสดงข้อความว่าแอปกำลังใช้ตําแหน่งที่ตั้งของคุณ

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
iPhone และ iPad Android

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
10958742746535233628
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
76697
false
false