CSS มีมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Google Shopping CSS แต่ละรายก็มีความเชี่ยวชาญ บริการ และรูปแบบการเรียกเก็บเงินที่ต่างกัน
คุณต้องทำงานกับ CSS อย่างน้อย 1 รายเพื่อแสดงโฆษณา Shopping หรือข้อมูลที่แสดงฟรี แต่จะร่วมมือกับ CSS หลายรายในเวลาเดียวกันก็ได้หากต้องการ บทความนี้จะแสดงภาพรวมของการตั้งค่าแบบต่างๆ ที่เราเห็นในข้อเสนอ CSS รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำงานร่วมกับ CSS ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฆษณาด้วยบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า
ในหน้านี้
- การค้นหา CSS
- รูปแบบบริการของ CSS
- การใช้การรายงาน Conversion และการเสนอราคาอัตโนมัติ
- การแสดงผลิตภัณฑ์ในแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากการค้นหาทั่วไป
- การใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรีในยุโรป
- การแสดงผลิตภัณฑ์นอกยุโรป
- การเปลี่ยนบัญชีจาก CSS หนึ่งไปเป็น CSS อื่น
การค้นหา CSS
คุณจะค้นหาพาร์ทเนอร์ CSS ที่มีสิทธิ์ได้ในพอร์ทัลพาร์ทเนอร์บริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้าของ Google โดยกรองตามประเทศ อุตสาหกรรม หรือภาษาที่รองรับอย่างน้อย 1 รายการเพื่อค้นหา CSS ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณ นอกจากนี้ คุณยังตั้งค่าตัวกรองเพื่อค้นหาพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการเทคโนโลยีฟีด API หรือพาร์ทเนอร์ระดับพรีเมียมที่มีการรับรองทางเทคนิคเพิ่มเติมและให้บริการเครื่องมือวัด Conversion แก่ผู้ขายได้อีกด้วย
รูปแบบบริการของ CSS
CSS และผู้ขายอาจตกลงทำงานร่วมกันได้หลายวิธี โดย CSS อาจมีรูปแบบบริการหลายแบบ หรือบริการที่ปรับแต่งเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของคุณ
บางรายมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (เช่น เครื่องแต่งกาย) บางรายจัดการฟีดและแคมเปญให้คุณ บ้างก็มีเครื่องมือให้คุณจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การเสนอราคาด้วยตนเอง นอกจากนี้ ก็มี CSS ที่ให้บริการหลากหลายในรูปแบบผสมด้วย CSS บางรายเก็บค่าธรรมเนียมตามการคลิก แต่บางรายใช้วิธีเก็บค่าคอมมิชชันเมื่อการคลิกโฆษณานำไปสู่การขาย การรวมจุดแข็งของ CSS หลายรายเข้าด้วยกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของโฆษณา Shopping ได้
บริการที่มีการจัดการ
ในกรณีนี้ CSS จะสร้างบัญชี Merchant Center และ Google Ads ในนามของคุณ เมื่อคุณให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์กับ CSS แล้ว CSS จะเพิ่มประสิทธิภาพฟีดและอัปโหลดฟีดนั้นไปยัง Google รวมทั้งจัดการแคมเปญของคุณ นอกจากนี้ CSS บางรายอาจใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างโอกาสในการขายจากช่องทางอื่นๆ ให้กับคุณอีกด้วย
Google จะออกใบแจ้งหนี้ให้ CSS สำหรับการคลิกบนโฆษณาที่แสดงในนามของคุณ ส่วนค่าใช้จ่ายที่ Google เรียกเก็บจาก CSS จะขึ้นอยู่กับผลการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา จากนั้น CSS จะเรียกเก็บเงินจากคุณ รูปแบบการกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคุณกับ CSS รายดังกล่าว เช่น CSS บางรายเรียกเก็บราคาคงที่ตามการคลิก บางรายเรียกเก็บราคาจากการคลิกตามหมวดหมู่ และบาง CSS เรียกเก็บค่าคอมมิชชันเมื่อมีการคลิกที่นำไปสู่การขายเท่านั้น
โดยทั่วไป CSS จะมีรายงานประสิทธิภาพของกิจกรรมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้คุณในช่องทางต่างๆ ที่ CSS รายดังกล่าวใช้ ในรูปแบบนี้ คุณจะเข้าถึงบัญชี Merchant Center และ Google Ads ที่ CSS จัดการในนามของคุณตามปกติไม่ได้ แต่อาจเข้าถึงเครื่องมือที่ CSS ให้ได้
การบริการตนเอง
ในกรณีนี้ CSS จะสร้างบัญชี Merchant Center และ Google Ads ในนามของคุณ แล้วจึงให้สิทธิ์คุณเข้าถึงบัญชีเหล่านี้ อีกทางเลือกคือการเปลี่ยนบัญชีที่มีอยู่จาก CSS รายหนึ่งไปเป็นอีกรายหนึ่ง โดยคุณจะเป็นผู้จัดการฟีดและแคมเปญด้วยตนเอง
Google จะออกใบแจ้งหนี้ให้ CSS สำหรับการคลิกบนโฆษณาที่แสดงในนามของคุณ ส่วนค่าใช้จ่ายที่ Google เรียกเก็บจาก CSS จะขึ้นอยู่กับผลการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา จากนั้น CSS จะเรียกเก็บเงินจากคุณ รูปแบบการกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคุณกับ CSS รายดังกล่าว ในรูปแบบนี้ ปกติแล้ว CSS จะเรียกเก็บกำไรส่วนต่างเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่ของ CPC ที่จ่ายในการประมูลของ Google แต่ก็อาจมีการกำหนดราคารูปแบบอื่นๆ ด้วย CSS บางรายให้ผู้ขายชำระใบแจ้งหนี้ Google Ads ได้โดยตรง และจะเรียกเก็บค่าบริการของ CSS แยกต่างหาก
โดยทั่วไป คุณจะเข้าถึงรายงานใน Merchant Center และ Google Ads ได้โดยตรง ทั้งนี้ CSS อาจมีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง CSS บางรายจะมีบริการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือคุณเกี่ยวกับกิจกรรมโฆษณา Shopping ด้วย
รูปแบบผสม
รูปแบบผสมคือการรวมลักษณะต่างๆ ของรูปแบบบริการที่มีการจัดการและแบบบริการตนเองเข้าด้วยกัน เช่น CSS อาจจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพฟีดข้อมูลผลิตภัณฑ์ แต่ให้คุณบริหารแคมเปญด้วยตนเอง หรือในทางกลับกัน คุณอาจจัดการฟีดด้วยตนเอง ขณะที่ CSS บริหารแคมเปญให้คุณ
รูปแบบต่างๆ ของการตั้งค่าแบบผสมเหล่านี้รวมไปถึงการที่ CSS สร้างบัญชี Merchant Center ใหม่ในนามของคุณ ซึ่งคุณจะใช้ลิงก์ไปยังบัญชี Google Ads ที่มีอยู่ในภายหลัง วิธีนี้จะช่วยให้คุณใช้บัญชี Google Ads ที่มีอยู่ในการจัดการลงโฆษณา Shopping ผ่าน CSS ได้
ส่วนรูปแบบอื่นๆ นั้นรวมถึงการออกใบแจ้งหนี้ของ Google ให้คุณโดยตรงสำหรับโฆษณาที่แสดงโดย CSS ซึ่งการตั้งค่านี้อาจเหมาะสมกว่าหากคุณจัดการแคมเปญ Shopping ด้วยตนเอง ในกรณีเหล่านี้ CSS มักส่งใบแจ้งหนี้ให้คุณแยกต่างหากสำหรับบริการต่างๆ
CSS บางรายอาจมีบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่อธิบายไว้ข้างต้น
การใช้การรายงาน Conversion และการเสนอราคาอัตโนมัติ
ไม่ว่า CSS จะเสนอรูปแบบใดให้คุณ CSS ทั้งหมดก็มีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์เดียวกันได้ รวมไปถึงการรายงาน Conversion และเครื่องมือเสนอราคาอัตโนมัติของ Google
หากต้องการใช้การรายงาน Conversion และการเสนอราคาอัตโนมัติด้วย CSS ก็ทำได้หลายวิธีดังนี้
เพิ่มแท็กเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads ลงในเว็บไซต์
คุณเพิ่มข้อมูลโค้ดหรือแท็กเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads ลงในเว็บไซต์สำหรับ CSS ที่ต้องการทำงานด้วย จากนั้น CSS จะเรียกใช้แคมเปญการเสนอราคาอัตโนมัติในนามของคุณได้โดยอิงตามข้อมูล Conversion นี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการเพิ่มเครื่องมือวัด Conversion ลงในเว็บไซต์
แชร์ Conversion ผ่านบัญชีดูแลจัดการ Google Ads
หากตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion กับ CSS รายหนึ่งแล้ว คุณจะแชร์ข้อมูล Conversion นี้กับ CSS รายอื่นได้ โดย CSS รายใหม่จะลิงก์บัญชี Google Ads ที่ใช้สำหรับแคมเปญใหม่ไปยังบัญชีดูแลจัดการ Google Ads (คุณสร้างบัญชีใหม่ได้หากยังไม่มี) จากนั้น CSS ใหม่จะเรียกใช้แคมเปญการเสนอราคาอัตโนมัติโดยอิงตามข้อมูล Conversion ที่แชร์นี้ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion ข้ามบัญชี
แชร์ Conversion ผ่าน Google Analytics
การใช้เครื่องมือการเสนอราคาของบุคคลที่สาม
การแสดงผลิตภัณฑ์ในแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากการค้นหาทั่วไป
โดยค่าเริ่มต้น CSS จะแสดงผลิตภัณฑ์ได้เฉพาะในหน่วย Shopping บนหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google ในประเทศที่ร่วมโปรแกรม CSS
นอกจากนี้ CSS บางรายยังเลือกแสดงผลิตภัณฑ์บนเครือข่าย Display และแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google (เช่น แท็บ Shopping, YouTube และอีกมากมาย) ในประเทศที่ร่วมโปรแกรม CSS หากคุณทำงานร่วมกับ CSS เหล่านี้ CSS จะแสดงผลิตภัณฑ์บนหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google และแพลตฟอร์มอื่นๆ ในนามของคุณสำหรับฟีเจอร์ที่พร้อมให้บริการในแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้
การใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรีในยุโรป
หากต้องการแสดงผลิตภัณฑ์ในข้อมูลที่แสดงฟรี คุณก็ดำเนินการได้ผ่าน CSS ทุกรายในยุโรป คุณเลือก CSS ที่จะใช้สำหรับข้อมูลที่แสดงฟรีในยุโรปได้เพียงรายเดียวเท่านั้นในหน้าแดชบอร์ดของ CSS
การแสดงผลิตภัณฑ์นอกยุโรป
คุณเลือก CSS ที่จะแสดงผลิตภัณฑ์ให้คุณในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีนอกยุโรปได้เพียงรายเดียวเท่านั้น คุณจะเปลี่ยนการเลือกนี้ได้ในหน้าแดชบอร์ดของ CSS
การเปลี่ยนบัญชีจาก CSS หนึ่งไปเป็น CSS อื่น
หากต้องการเก็บบัญชี Merchant Center ที่มีอยู่ไว้ แต่ต้องการทำงานร่วมกับ CSS อื่น คุณจะขอเปลี่ยนบัญชีจาก CSS หนึ่งไปเป็น CSS อื่นได้ โดยขอให้ CSS ใหม่ดำเนินการเปลี่ยน เมื่อ CSS เริ่มดำเนินการแล้ว ผู้ดูแลบัญชี Merchant Center จะอนุมัติหรือปฏิเสธก็ได้ โปรดทราบว่าบัญชี Merchant Center จะเชื่อมโยงกับ CSS ได้ครั้งละ 1 รายเท่านั้น
คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบัญชี Google Ads ส่วนบัญชี Merchant Center จะเป็นตัวกำหนดว่าโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีเชื่อมโยงกับ CSS ใด หากใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากบัญชี Merchant Center ที่เชื่อมโยงกับ CSS เฉพาะสำหรับแคมเปญในบัญชี Google Ads ระบบจะถือว่า CSS ที่เชื่อมโยงนั้นเป็นเจ้าของแคมเปญดังกล่าว
หากเปลี่ยนบัญชี Merchant Center จาก CSS หนึ่งไปเป็น CSS อื่น โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
ผลิตภัณฑ์ที่แสดงบนรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกและแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากการค้นหาทั่วไป: หาก CSS ที่คุณเปลี่ยนไปใช้ไม่มีการเลือกแสดงโฆษณาบนรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกและแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากการค้นหาทั่วไป ผลิตภัณฑ์จะปรากฏเฉพาะบนหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google และจะหยุดแสดงบนแพลตฟอร์มอื่นๆ
การแสดงผลิตภัณฑ์นอกประเทศที่ร่วมโปรแกรม CSS: หากบัญชี Merchant Center ที่เปลี่ยนไปใช้มีข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับประเทศที่โปรแกรม CSS ไม่พร้อมให้บริการ โฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีเหล่านี้จะหยุดแสดงในกรณีที่ CSS ใหม่ไม่ได้เลือกแสดงโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีในประเทศดังกล่าว หากต้องการแสดงโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีต่อไปทั้งในประเทศที่มีและไม่มีโปรแกรม CSS ให้บริการ คุณมี 2 ทางเลือกดังนี้
- สร้างบัญชี Merchant Center ใหม่ด้วย CSS เดิมสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ของประเทศที่โปรแกรม CSS ไม่พร้อมให้บริการ เปลี่ยนบัญชี Merchant Center ที่มีอยู่ไปใช้ CSS ใหม่เพื่อแสดงโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีในประเทศที่ร่วมโปรแกรม CSS
- ขอให้ CSS ใหม่สร้างบัญชี Merchant Center ใหม่สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ของประเทศที่ร่วมโปรแกรม CSS และคงบัญชี Merchant Center ที่มีอยู่ไว้พร้อม CSS เดิมเพื่อแสดงโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีในประเทศที่โปรแกรม CSS ไม่พร้อมให้บริการ
ผู้ดูแลระบบจะตรวจสอบการตั้งค่าการเข้าถึงบัญชี Merchant Center สำหรับ CSS ได้ในหน้า "สิทธิ์เข้าถึงบัญชี" ใน Merchant Center เพื่อให้มั่นใจว่าการตั้งค่าเป็นไปตามความต้องการของคุณและ CSS