เกี่ยวกับการโฆษณาด้วยบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า

จำเป็น เนื่องจากมีเพียง CSS เท่านั้นที่จะแสดงโฆษณา Shopping ได้ คุณอาจใช้ Google Shopping หรือ CSS อื่นๆ ที่ต้องการ หรือจะยังเข้าร่วมผ่าน CSS ได้พร้อมกันหลายรายก็ได้

ไม่ เนื่องจาก CSS (รวมถึง Google Shopping) จะจ่าย Google ก็ต่อเมื่อมีการคลิกบนโฆษณาที่ CSS แสดงเท่านั้น CSS จะเลือกวิธีออกใบแจ้งหนี้ให้กับผู้ขายได้ เช่น ในกรณีทั่วไป Google Shopping จะเรียกเก็บเงินจากผู้ขายตามรูปแบบ CPC

โปรดทราบว่าขณะนี้ CSS ไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับการคลิกลิงก์ "โดย CSS" ที่ด้านล่างของโฆษณา (ซึ่งนำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ของ CSS)

เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงข้อเสนอเดียวกันซ้ำกันหลายครั้ง (หมายถึง ผลิตภัณฑ์เดียวกันที่นำเสนอโดยผู้ขายรายเดียวกัน) หากเราพบว่า CSS หลายรายได้อัปโหลดผลิตภัณฑ์เดียวกันจากผู้ขายรายเดียวกัน เราจะแสดงผลิตภัณฑ์นั้นเพียงครั้งเดียวในหน่วยโฆษณา ในกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เมื่อเราตรวจไม่พบว่าข้อเสนอ 2 รายการเป็นข้อเสนอเดียวกัน ข้อเสนอทั้ง 2 อาจปรากฏในหน่วย Shopping เดียวกัน CPC ที่ชำระโดย CSS ที่ชนะการประมูลจะไม่เพิ่มขึ้นด้วยในกรณีนี้ เนื่องจากผู้ขายจะประมูลราคาเป็นอันดับ 2 รองจากตนเองไม่ได้ (ดูคำถามถัดไป)

ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากผู้ขายรายเดียวกันสามารถแสดงผ่าน CSS หลายรายในหน่วยเดียวกัน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ค้นหารองเท้าวิ่ง รองเท้าวิ่งรุ่นหนึ่งที่คุณขายอาจปรากฏในโฆษณาจาก CSS ก และอีกรุ่นหนึ่งปรากฏในโฆษณาจาก CSS ข CPC ที่ชำระโดย CSS ที่ชนะการประมูลจะไม่เพิ่มขึ้นด้วยในกรณีนี้ เนื่องจากผู้ขายจะประมูลราคาเป็นอันดับ 2 รองจากตนเองไม่ได้ (ดูคำถามถัดไป)

ผู้ขายจะประมูลราคาเป็นลำดับ 2 รองจากตนเองในการประมูลไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอใดก็ตาม โดยไม่คำนึงถึงหมายเลขหรือข้อมูลระบุตัวตนของ CSS ที่ใช้โดยผู้ขาย ดังนั้น หากมี CSS จำนวน 2 รายเสนอราคาในนามของผู้ขายรายเดียวกัน ข้อเสนอที่ชนะและราคาที่จ่ายโดย CSS ที่ชนะก็จะเป็นราคาเดียวกัน เหมือนกับว่า CSS ที่เสนอราคาดังกล่าวเป็นรายเดียวกัน

การที่ CSS หลายรายแสดงโฆษณาในนามของคุณไม่ได้หมายความว่าข้อเสนอของคุณจะแสดงซ้ำหลายครั้ง หรือ Google จะเรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นเมื่อมีการคลิกที่โฆษณา

ตัวอย่าง: CSS ก เสนอราคา 30 บาทต่อคลิกเพื่อแสดงข้อเสนอของคุณ หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือเราจะสมมติว่าโฆษณาทั้งหมดมีคุณภาพเท่ากันและมีความเกี่ยวข้องกัน

สถานการณ์ที่ 1: ราคาเสนอ CSS สูงสุดในลำดับถัดไปคือ 20 บาทในนามของผู้ขายรายอื่น ข้อเสนอของคุณจะชนะการประมูลในราคา 20 บาท ซึ่งมากเพียงพอสำหรับการรักษาตำแหน่งไว้

สถานการณ์ที่ 2: ตอนนี้ให้สมมติว่า CSS อื่นเริ่มโฆษณาในนามของคุณและเสนอราคา 25 บาท แต่คุณก็ยังชนะการประมูลด้วยราคาเสนอ 30 บาทซึ่ง CSS A ดำเนินการในนามของคุณ ขณะที่คู่แข่งที่สูสีที่สุดในลำดับถัดไปเสนอราคาที่ 25 บาท และคู่แข่งรายนี้คือ CSS ที่เสนอราคาในนามของคุณด้วยเช่นกัน เราจึงจะไม่ใช้ราคาเสนอลำดับที่ 2 ในการกำหนดราคาที่ CSS A ต้องจ่าย แต่จะค้นหาราคาเสนอสูงสุดในลำดับถัดไปที่ผู้ขายรายอื่นเสนอมา ซึ่งยังคงอยู่ที่ราคา 20 บาท CPC ซึ่งจ่ายเพื่อราคาเสนอที่ชนะจะไม่เปลี่ยนแปลงและยังคงอยู่ที่ 20 บาทเท่าเดิม

สถานการณ์ที่ 3: ตอนนี้ให้สมมติว่าราคาเสนอโดย CSS B ในนามของคุณสูงกว่าราคาเสนอโดย CSS A ในนามของคุณ ในกรณีนี้ CSS B จะชนะการประมูล ราคาเสนอสูงสุดในลำดับถัดไปคือ 30 บาทโดย CSS A ซึ่งดำเนินการในนามของคุณด้วยเช่นกัน เนื่องจากราคาเสนอทั้งสองดำเนินการในนามของผู้ขายรายเดียวกัน เราจึงจะไม่ใช้ราคาเสนอของ CSS A ในการกำหนดราคาสำหรับคลิกที่ CSS B ต้องจ่าย แต่จะใช้ราคาเสนอสูงสุดในลำดับถัดไปสำหรับผู้ขายรายอื่น ซึ่งยังคงเท่ากับ 20 บาท CPC ที่จ่ายโดย CSS B สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณจะเท่ากับ 20 บาท

โดยทั่วไป CSS จะรายงานจำนวนคลิกที่ส่งไปยังผู้ขายและจำนวนเงินต่อคลิก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการกำหนดราคา โดยอาจมีการรายงานข้อมูลเพิ่มเติมหรือแบ่งปันข้อมูลการเสนอราคาโดยละเอียด Google Shopping ยังรายงานจำนวนคลิกที่ส่งไปยังผู้ขายและจำนวนเงินที่เรียกเก็บต่อคลิกพร้อมกับเมตริกอื่นๆ ด้วย คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ Google Shopping ต้องทำกำไรในประเทศ EEA ที่โฆษณา Shopping พร้อมให้บริการอย่างเป็นอิสระ ปัจจุบัน Google Shopping ทำกำไรได้โดยการหักเปอร์เซ็นต์แบบคงที่จากการเสนอราคาของผู้ขายแต่ละรายก่อนเข้าสู่การประมูล กำไรจะรวมอยู่ใน CPC ที่ชำระโดยผู้ขายและจะเรียกเก็บเงินเมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณาของผู้ขายเท่านั้น โดยทั่วไป เราจะแนะนำให้ผู้ขายเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและอัตราผลตอบแทนของช่องทางการตลาดต่างๆ เพื่อประเมินว่าช่องทางใดเหมาะสมมากที่สุด

โฆษณา Shopping ที่ดำเนินการโดย CSS (รวมถึง Google Shopping) จะแสดงในหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google โฆษณาเหล่านี้ยังต้องแสดงบนเว็บไซต์ของ CSS ที่ส่งโฆษณาดังกล่าวด้วย (ในกรณีของ Google Shopping ต้องแสดงที่เว็บไซต์ google.com/shopping) เพื่อไม่ให้ผู้ใช้สับสน

ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Merchant Center ไปที่ธุรกิจของคุณ แล้วไปที่แท็บบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า คลิกเพื่อขยายส่วน CSS คุณจะเห็นรายชื่อ CSS ทั้งหมดที่มีผลิตภัณฑ์ที่อัปโหลดจากเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ ยังดูข้อมูลติดต่อสำหรับ CSS แต่ละรายได้อีกด้วย หากยังไม่มีบัญชี Merchant Center สำหรับโดเมนที่ต้องการดู คุณก็สร้างบัญชีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สิ่งที่เหมาะสำหรับคุณที่สุดขึ้นอยู่กับธุรกิจของคุณ เป้าหมาย และบริการที่ CSS เสนอ คุณจะโฆษณาด้วย CSS หลายรายพร้อมกันได้เพื่อกำหนดรูปแบบผสมผสานที่เหมาะกับคุณที่สุด CSS ทั้งหมด ซึ่งรวมถึง Google Shopping มีโอกาสเท่ากันที่จะแสดงโฆษณาในนามของคุณในหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google โดยจะไม่มีการล็อกพื้นที่โฆษณาให้กับ CSS รายใดรายหนึ่ง

CSS แต่ละรายอาจให้บริการเสริมแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าคุณอาจต้องการควบคุมลักษณะที่โฆษณาปรากฏ เราจึงขอแนะนำให้คุณติดต่อกับ CSS ที่เกี่ยวข้องเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อสงสัยที่มี (หน้าแดชบอร์ดของ Merchant Center มีเว็บไซต์ฝ่ายบริการลูกค้า หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลของ CSS แต่ละรายระบุไว้) CSS ทุกรายปรับปริมาณการเข้าชมที่ส่งให้คุณได้โดยใช้ราคาเสนอและงบประมาณ รวมถึงยังใช้วิธีหยุดชั่วคราวหรือเปิดใช้งานแคมเปญได้ด้วย CSS บางรายอนุญาตให้ผู้ขายควบคุมแคมเปญได้โดยตรงผ่านอินเทอร์เฟซที่มีให้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้แดชบอร์ดใน Merchant Center เพื่อเลือกว่าจะใช้หรือไม่ใช้ช่องทาง CSS ใด