โปรโมชันแบบไดนามิกช่วยให้ผู้ค้าปลีกเลือกคูปองหรือโปรโมชันที่เหมาะสมที่สุดและนำไปใช้กับโฆษณา Shopping ใน Google โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มกำไรขั้นต้นให้ได้มากที่สุด ซึ่งโปรโมชันแบบไดนามิกนี้จะใช้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนสินค้าขาย (COGS) ที่คุณระบุไว้สำหรับสินค้าคงคลัง โปรโมชันส่วนลด และผลตอบรับเกี่ยวกับ Conversion เพื่อแสดงโปรโมชันที่เหมาะที่สุดแก่ลูกค้าโดยใช้รูปแบบการกำหนดราคาที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google
ผลิตภัณฑ์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันเบต้า หากสนใจ โปรดติดต่อ [email protected]
ในหน้านี้
- ประโยชน์
- เกณฑ์การมีสิทธิ์สำหรับโปรโมชันแบบไดนามิก
- วิธีการทำงานของโปรโมชันแบบไดนามิก
- การตั้งค่าโปรโมชันแบบไดนามิก
- การตรวจสอบโดย Google
- กำหนดการเปิดตัว
- แนวทางปฏิบัติแนะนำ
- คำถามที่พบบ่อย
ประโยชน์
รูปแบบการกำหนดราคาของ Google จะกำหนดส่วนลดโปรโมชันที่เหมาะที่สุดซึ่งให้กำไรขั้นต้นสูงสุดโดยอัตโนมัติ โปรโมชันแบบไดนามิกช่วยให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ทำให้โปรโมชันทำงานโดยอัตโนมัติพร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพส่วนลดแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยประหยัดแรงและเวลาได้
- ปรับปรุงผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) และผลกำไร
- อัปเดตโปรโมชันด้วยส่วนลดที่เหมาะที่สุดในโฆษณา Shopping และหน้า Landing Page ของเว็บไซต์ด้วยความช่วยเหลือจากรูปแบบการกำหนดราคาระดับสูงของ Google
เกณฑ์การมีสิทธิ์สำหรับโปรโมชันแบบไดนามิก
โปรดตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์ทั้งหมดก่อนจึงจะใช้โปรโมชันแบบไดนามิกได้ หากมีบัญชี (ย่อย) Merchant Center หลายบัญชี แต่ละบัญชีต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมดแยกกัน
- ประเทศที่สามารถใช้โปรโมชันแบบไดนามิกได้จะจำกัดไว้สำหรับประเทศที่ใช้เครื่องมือโปรโมชันปกติได้เท่านั้น โดยคุณจะดูรายชื่อประเทศทั้งหมดได้จากส่วน "ความพร้อมให้บริการ" ของเกณฑ์และนโยบายการเข้าร่วม
- มีจำนวนคลิกจากผู้บริโภคอย่างน้อย 1,000 ครั้งในสินค้าคงคลังทั้งหมดในบัญชี Merchant Center
- มีการเลือกใช้การแสดงผลของผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 20% โดยการป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์
[auto_pricing_min_price]
และ[cost_of_goods_sold]
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความครอบคลุมในการแสดงผลของผลิตภัณฑ์ โปรดดูรายงานประสิทธิภาพใน Merchant Center โดยคุณทำการตั้งค่าต่อไปนี้ได้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน- ตั้งค่าแอตทริบิวต์
[auto_pricing_min_price]
เป็น <= 95% ของ[price]
และ >=[cost_of_goods]
ดูรายละเอียดด้านล่าง[cost_of_goods]
<[auto_pricing_min_price]
และ >= 5%[price]
- เครื่องมือวัด Conversion ที่มีข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง ดูรายละเอียดการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ตั้งค่าแอตทริบิวต์
- การผสานรวมเว็บไซต์ของคุณต้องยอมรับและใช้คูปองที่ Google ให้มาจากโทเค็นเว็บ JSON ที่ Google สร้างขึ้นได้
- อนุญาตให้ Google แสดงผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ฟีเจอร์นี้ต่อผู้บริโภค โดยปรับเพิ่มตามประสิทธิภาพที่ 10% ในช่วง 3 วันแรกและที่ 90% หลังจากนั้น
วิธีการทำงานของโปรโมชันแบบไดนามิก
โปรโมชันแบบไดนามิกช่วยให้ผู้ขายเลือกและใช้ส่วนลดที่เหมาะสมที่สุดกับผลิตภัณฑ์ในโฆษณา Shopping โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มกำไรขั้นต้น
ผู้ขายต้องระบุเปอร์เซ็นต์ส่วนลดเป้าหมาย ต้นทุนสินค้าขายสำหรับสินค้าคงคลัง และข้อมูล Conversion รูปแบบการกำหนดราคาที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google จะใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อทำการตัดสินใจเกี่ยวกับโปรโมชันและเลือกโปรโมชันที่ดีที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เลือกใช้โดยอัตโนมัติ โปรโมชันแบบไดนามิกจะทำงานตามลำดับต่อไปนี้
- ผู้ขายอัปโหลดโปรโมชันและคูปองไปยัง Merchant Center พร้อมกับข้อมูลที่จำเป็น
- โปรโมชันแสดงต่อผู้บริโภคในแพลตฟอร์ม Shopping เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- ผู้เลือกซื้อใช้โปรโมชันเหล่านั้นในร้านค้าออนไลน์ของผู้ขายเมื่อชำระเงิน
Google ใช้อัลกอริทึม AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคูปองอย่างต่อเนื่องตามสัญญาณของตลาด เช่น
- ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
- ความยืดหยุ่นของราคา
- แนวโน้มตามช่วงเวลา
- วันที่นำส่งโดยประมาณ
- มูลค่าของแบรนด์
- ค่าจัดส่ง
ราคาลดที่ได้รับการปรับแล้วจะแสดงในโฆษณา Shopping (ส่วนลดตามช่องทาง) และจะได้รับการส่งต่ออย่างปลอดภัยเพื่อแสดงราคาเดียวกันนี้ในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ระบบจะแสดงผลิตภัณฑ์ของคุณเป็น "ลดราคา" โดยมีราคาที่ขีดทับ
การส่งผ่านคูปองใน URL
เมื่อผู้เลือกซื้อคลิกข้อมูลโปรโมชันแบบไดนามิก ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางผู้เลือกซื้อไปยังหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ เว็บไซต์ของคุณต้องแสดงคูปองในหน้า Landing Page ให้ตรงกับราคาที่ขีดทับที่แสดงใน Google โดยควรอยู่ข้างราคาผลิตภัณฑ์
URL การคลิกผ่านที่สร้างขึ้นจากโปรโมชันแบบไดนามิกจะส่งผ่านข้อมูลคูปองเป็นพารามิเตอร์เพื่อแสดงคูปองในหน้า Landing Page โดย URL จะมีการเข้ารหัสไว้ในโทเค็นเว็บ JSON ที่สามารถถอดรหัสได้ด้วยตัวถอดรหัส base64 และใช้เป็นเว็บโทเค็นได้
ตัวอย่าง URL การคลิกผ่านด้านล่างนี้มีการใช้พารามิเตอร์ pv2 เพื่อส่งผ่านข้อมูลคูปอง
https://yourwebsite.html?pv2=eyJhbGciOiJIUzI1NiIsInR5cCI6IkpXVCJ9.eyJjIjoiRVVSIiwiZXhwIjoxNjg0NDE2ODk5LCJtIjoiMTIzNDU2IiwibyI6IjY1NDMyMSIsInAiOjE0LjA2LCJkcCI6MTIsImRjIjoiTktMRVdBT0kifQ.D0dYYxnqki8aUnlPKFM-sFcHxSzu1HJ9v9wOGXGk2Lw
โทเค็นที่เข้ารหัสจะมีฟิลด์ที่เกี่ยวข้อง 2 ฟิลด์สำหรับส่งผ่านราคา ดังนี้
- dp – แสดงเปอร์เซ็นต์ส่วนลด
- dc – แสดงรหัสคูปอง
ตัวอย่าง
"dp": 10, "dc": "RHNKLNEQ" |
// ส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์ // รหัสคูปอง = RHNKLNEQ |
ตัวอย่างรหัสส่งผ่านคูปอง
// Example code validating and decoding Google Automated Discounts pv2 token.
// Displays the coupon on the top of the website after running the script.
// To run:
// 1. Open website with pv2 token in Chrome e.g. https://yourwebsite.html?pv2=eyJhbGciOiJIUzI1NiIsInR5cCI6IkpXVCJ9.eyJjIjoiRVVSIiwiZXhwIjoxNjg0NDE2ODk5LCJtIjoiMTIzNDU2IiwibyI6IjY1NDMyMSIsInAiOjE0LjA2LCJkcCI6MTIsImRjIjoiTktMRVdBT0kifQ.D0dYYxnqki8aUnlPKFM-sFcHxSzu1HJ9v9wOGXGk2Lw
// 2. Right click on site -> inspect element
// 3. Go to "Console" tab
// 4. Paste the whole script to the console and click enter
// Google public key used for signing Automated Discounts pv2 tokens
const google_public_key = `-----BEGIN PUBLIC KEY-----
MFkwEwYHKoZIzj0CAQYIKoZIzj0DAQcDQgAERUlUpxshr67EO66ZTX0Fpog0LEHc
nUnlSsIrOfroxTLu2XnigBK/lfYRxzQWq9K6nqsSjjYeea0T12r+y3nvqg==
-----END PUBLIC KEY-----`
// const verify_signature = true // use to verify the token signature
verify_signature = false // use for non-google tokens
function verifyAutomatedDiscountTokenCorrectness(jwt) {
console.log("verifyAutomatedDiscountTokenCorrectness")
if (jwt == null) {
console.log("error: no JWT")
return false
}
const current_page_offer = "654321" // TODO: get offer_id of the current page
const expected_merchant_id = "123456" // TODO: use real Merchant Center ID
const jwt_offer = jwt.o
const jwt_merchant = jwt.m
const jwt_expiry_date = Date(jwt.exp)
if (jwt_offer != current_page_offer) {
console.log("error: incorrect offer id:", jwt_offer, " vs", current_page_offer)
return false
}
if (jwt_merchant != expected_merchant_id) {
console.log("error: incorrect merchant id", jwt_merchant, " vs", expected_merchant_id)
return false
}
if (Date() < jwt_expiry_date) {
console.log("error: expired token")
}
return true
}
function displayAutomatedDiscountLitePricePassingCoupon(jwt) {
if (!verifyAutomatedDiscountTokenCorrectness(jwt)){
return
}
const discount_percent = jwt.dp
const coupon_code = jwt.dc
if (discount_percent == undefined) {
console.log("error: missing discount percentage")
return
}
if (coupon_code == undefined) {
console.log("error: missing coupon code")
return
}
// TODO: set a proper place in which the coupon should be displayed
let target_element = document.getElementsByTagName("body")[0]
target_element.innerHTML = `<div><h1><font color="red">-${discount_percent}% with coupon: ${coupon_code}</font></h1></div>` + target_element.innerHTML
}
function parseJwtAndDisplayCoupon()
{
const urlParams = new URLSearchParams(window.location.search)
const jwt = urlParams.get('pv2')
if (jwt == undefined){
console.log("error: pv2 parameter is not in the URL")
return
}
// Use Jose (https://github.com/panva/jose) library to validate and decode JWT token.
fetch('https://cdnjs.cloudflare.com/ajax/libs/jose/4.14.0/index.umd.min.js')
.then(response => response.text())
.then(text => eval(text))
.then(() => {
jose.importSPKI(google_public_key, 'ES256').then(publicKey => {
if (verify_signature) {
jose.jwtVerify(jwt, publicKey).then(
(decoded_jwt, _) => {
displayAutomatedDiscountLitePricePassingCoupon(decoded_jwt.payload)
})
}
else {
displayAutomatedDiscountLitePricePassingCoupon(jose.decodeJwt(jwt))
}
})
})
}
parseJwtAndDisplayCoupon()
วิธีตั้งค่าโปรโมชันแบบไดนามิก
คุณตั้งค่าโปรโมชันแบบไดนามิกให้กับผลิตภัณฑ์ได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามลำดับหรือทำไปพร้อมๆ กัน
ขั้นตอนที่ 1 จาก 4: ระบุราคาต่ำสุดในการกำหนดราคาอัตโนมัติ [auto_pricing_min_price]
- แอตทริบิวต์ราคาต่ำสุดในการกำหนดราคา
[auto_pricing_min_price]
ใช้ในการกำหนดราคาต่ำสุดที่ราคาของผลิตภัณฑ์จะลดได้ตามกฎการกำหนดราคาที่คุณสร้างไว้ในบัญชี Merchant Center - ดูวิธีตั้งค่าราคาต่ำสุดในการกำหนดราคาอัตโนมัติ
[auto_pricing_min_price]
- คุณระบุแอตทริบิวต์นี้ผ่านฟีดเสริมหรือกฎฟีดใน Merchant Center หรือผ่าน API ก็ได้
- โปรดทราบว่าราคาสูงสุดคือ
[price]
ปกติหรือ[sale_price]
ที่ระบุไว้ในฟีดผลิตภัณฑ์ และราคาต่ำสุดคือค่าที่ระบุไว้ในแอตทริบิวต์[auto_pricing_min_price]
Google จะเพิ่มประสิทธิภาพมูลค่าของคูปองโดยอิงตามขีดจำกัดราคา 2 รายการดังกล่าว นอกจากนี้ Google จะสร้างคูปองในเวลาที่ระบุเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในสินค้าคงคลัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายโดยรวมของการเพิ่มผลกำไรสูงสุดของสินค้าคงคลังทั้งหมด โดยพิจารณาถึงผลจากการขายครอสเซลและการกินส่วนแบ่งการตลาดกันเอง
ขั้นตอนที่ 2 จาก 4: ระบุต้นทุนสินค้าขาย (COGS) [cost_of_goods_sold]
ข้อมูลต้นทุนสินค้าขายจะใช้ในการคำนวณกำไรขั้นต้นโดยประมาณของผลิตภัณฑ์ หากไม่มี COGS เราจะไม่สามารถคำนวณส่วนลดคูปองและกำไรขั้นต้นที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าที่ขาย ให้ข้อมูล COGS สำหรับสินค้าคงคลังมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยให้ Google มอบความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้นให้กับการขายผลิตภัณฑ์ของคุณ
ดูวิธีตั้งค่าต้นทุนสินค้าขาย (COGS) [cost_of_goods_sold]
หมายเหตุ: หากไม่ต้องการระบุ COGS ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับสินค้าแต่ละรายการ ให้ระบุเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างกำไรสำหรับ COGS โดยใช้ฟีดเสริมใน Merchant Center ซึ่งสามารถใช้กับสินค้าแต่ละรายการหรือหมวดหมู่ต่างๆ ของสินค้าได้
คุณระบุแอตทริบิวต์นี้ผ่านฟีดเสริมหรือกฎฟีดใน Merchant Center หรือผ่าน API ก็ได้ขั้นตอนที่ 3 จาก 4: ตั้งค่าการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง
การรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งจะใช้ในการคำนวณผลกระทบของโปรโมชันแบบไดนามิกและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตั้งค่าการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งเพื่อส่งข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง ซึ่งจะช่วยให้คุณติดตามจำนวนธุรกรรม รายได้ และกำไรที่เกิดจากโปรโมชันแบบไดนามิกได้
ตั้งค่าการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้งเพื่อดำเนินการต่อไปนี้
- วัดรายได้และกำไรที่เกิดจากโปรโมชันแบบไดนามิกของคุณอย่างชัดเจน
- ดูการรายงานขนาดรถเข็นและมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยโดยละเอียด
- ดูรายงานเกี่ยวกับสินค้าที่ขายอย่างละเอียด
ดูวิธีตั้งค่าและทดสอบการรายงาน Conversion จากข้อมูลรถเข็นช็อปปิ้ง
ขั้นตอนที่ 4 จาก 4: ตั้งค่าคูปอง
คูปองที่โปรโมชันแบบไดนามิกใช้จะต้องมีการกำหนดค่าและตั้งค่าเช่นเดียวกับโปรโมชันอื่นๆ ใน Merchant Center หรือฟีดโปรโมชัน ตั้งค่าโปรโมชันจากผู้ขายในโฆษณา Shopping
โปรโมชันแบบไดนามิกมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นโปรโมชัน "ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์" หรือ "ส่วนลดเป็นเงิน" สำหรับข้อเสนอออนไลน์ จึงควรกำหนดค่าแอตทริบิวต์บางรายการสำหรับโปรโมชันแบบไดนามิกดังนี้
แอตทริบิวต์ |
ต้องระบุ |
|
ต้องขึ้นต้นด้วย " |
|
ต้องตั้งค่าเป็น " |
|
ต้องตั้งค่าเป็น " |
|
ต้องตั้งค่าเป็น " |
|
ต้องระบุ |
|
ต้องระบุ |
นอกจากฟิลด์ที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว คุณยังต้องกรอกฟิลด์อื่นๆ ที่ทำเครื่องหมายว่าจำเป็นด้วย
การตรวจสอบโดย Google
หลังจากทำตามขั้นตอนการติดตั้งใช้งานเสร็จสมบูรณ์แล้ว โปรดขอให้ Google ดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบโดยคลิกขอรับการยืนยัน การตรวจสอบจะเป็นการทดสอบแบบปลายทางถึงปลายทางที่ครอบคลุมหลายสถานการณ์ และทำในเครือข่ายของ Google เพื่อให้มั่นใจว่าการผสานรวมทำงานได้อย่างถูกต้อง ระบบจะแสดงปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในหน้าการตั้งค่าสุดท้าย คุณอาจต้องรอถึง 24 ชั่วโมงเพื่อให้ระบบอัปเดตข้อมูลหลังจากที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว
หากพบปัญหา ให้แก้ไขปัญหาแล้วส่งคำขอรับการตรวจสอบเพื่อติดตามผลโดยคลิกปุ่มอีกครั้ง คุณจะต้องส่งคำขอรับการตรวจสอบอีกครั้งจนกว่าปัญหาทั้งหมดจะได้รับการแก้ไข
หลังจาก Google ตรวจสอบและอนุมัติบัญชีแล้ว คุณจะตรวจสอบประสิทธิภาพได้ในแท็บ "ส่วนลดอัตโนมัติ" รวมถึงหยุดชั่วคราวและเปิดใช้งานการสร้างราคาลดที่เพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียว
กำหนดการเปิดตัว
การเพิ่มจำนวน
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการเพิ่มจำนวนจะเริ่มขึ้นตามกำหนดการด้านล่าง
กำหนดการเพิ่มจำนวน
- ช่วงที่ 1: ระบบแสดงคูปองที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพต่อลูกค้า 10%
- ช่วงที่ 2: ระบบแสดงคูปองที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพต่อลูกค้า 90%
คุณจะตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การเพิ่มจำนวนได้ทุกเมื่อใน Merchant Center โดยไปที่แท็บ "ส่วนลดอัตโนมัติ" ในส่วน "การตลาด"
แนวทางปฏิบัติแนะนำ
- ระบุค่าส่วนลดให้ได้มากที่สุด
โปรโมชันแบบไดนามิกจะเลือกส่วนลดที่เหมาะสมที่สุดจากค่าส่วนลดที่คุณระบุไว้ ดังนั้นการมีค่าส่วนลดที่เป็นไปได้ตั้งแต่ 1 ถึง 10 ค่าขึ้นไปจะช่วยให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นได้ดีที่สุด เช่น คุณระบุค่าส่วนลดไว้เป็น 5%, 10% และ 20% หากส่วนลดที่เหมาะสมที่สุดที่คำนวณได้คือ 8% ระบบจะเลือกคูปอง 5% ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพถูกจำกัด ในกรณีนี้ การให้ส่วนลดเป็น 5%, 7%, 9%, 11%, 13% และสูงสุดที่ 20% จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงการใช้รหัสคูปองที่คาดเดาได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการใช้รหัสคูปองที่นิยมใช้กันทั่วไป เช่น "5OFF", "10OFF" และอื่นๆ ผู้เลือกซื้ออาจคาดเดารหัสคูปองที่พบเห็นได้ทั่วไปและใช้รหัสเพื่อรับส่วนลดสูงสุด ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ
- จำกัดกรอบเวลาและความเกี่ยวข้องของผลิตภัณฑ์
หากต้องการจำกัดการนำคูปองมาใช้ซ้ำ คุณสามารถจำกัดระยะเวลาที่ใช้ได้ของคูปองแต่ละใบ ใช้แอตทริบิวต์วันที่เริ่มต้นโปรโมชัน
[promotion_effective_dates]
เพื่อกำหนดกรอบเวลาของโปรโมชัน แม้ว่าโปรโมชันแบบไดนามิกจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเชื่อมโยงกับสินค้าคงคลังส่วนใหญ่ แต่คุณก็พิจารณาสร้างคูปองเฉพาะหมวดหมู่ได้
คำถามที่พบบ่อย
- โปรโมชันแบบไดนามิกทำงานร่วมกับการตั้งค่า tROAS ใน Google Ads อย่างไร
โปรโมชันแบบไดนามิกจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเปิดใช้การเสนอราคา tROAS แต่โปรโมชันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ tROAS
- ผู้ขายใช้โปรโมชันส่วนลดเป็นเงินกับส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ร่วมกันได้ไหม
ได้ แม้ว่าแถวฟีดที่เฉพาะเจาะจงจะตั้งค่าแอตทริบิวต์
[percent_off]
และ[money_off_amount]
พร้อมกันไม่ได้ แต่ก็สามารถกำหนดค่าโปรโมชันส่วนลดเป็นเงินกับส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์แยกกันสำหรับผลิตภัณฑ์เดียวกันได้ - ปัจจัยใดที่ใช้พิจารณาในการเลือกแสดงโปรโมชันจากช่วงที่กำหนดไว้
AI ของ Google พิจารณาปัจจัยและชุดข้อมูลจำนวนมากเพื่อตัดสินใจเลือกส่วนลดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หนึ่งในข้อมูลหลักที่เราใช้ทำความเข้าใจส่วนลดที่เหมาะสมคือเส้นความต้องการและความยืดหยุ่นของราคา
- มีข้อกำหนดขั้นต่ำและ/หรือสูงสุดสำหรับค่าส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือส่วนลดเป็นเงินที่ต้องปฏิบัติตามไหม
ไม่มีข้อกำหนดสำหรับส่วนลดขั้นต่ำหรือสูงสุดของโปรโมชัน
- ตั้งค่าปลายทางโปรโมชันให้กับทั้งโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีได้ไหม
ปัจจุบันมีเพียงโฆษณา Shopping เท่านั้นที่รองรับปลายทางโปรโมชัน เรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการขยายความพร้อมใช้งานของโปรโมชันแบบไดนามิกเพื่อขยายผลกระทบสำหรับผู้ขายและผู้เลือกซื้อให้กว้างขึ้น
- จะเกิดอะไรขึ้นหากคูปองของฉันมีมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ
โปรโมชันแบบไดนามิกรองรับคูปองที่มีมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ
- ผู้ขายสามารถระบุเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างกำไรสำหรับต้นทุนสินค้าขาย (COGS) แทนการระบุค่าที่เจาะจงสำหรับทุกข้อเสนอได้ไหม
ได้ ผู้ขายสามารถระบุเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างกำไรสำหรับ COGS โดยใช้ฟีดเสริมใน Merchant Center ได้
- โปรโมชันแบบไดนามิกใช้กับแคมเปญ Performance Max ได้ไหม
ขณะนี้โปรโมชันแบบไดนามิกใช้ได้กับโฆษณา Shopping เท่านั้น แต่ก็ใช้ร่วมกับ Performance Max ได้ ซึ่งหมายความว่าโปรโมชันนี้ใช้งานกับแคมเปญ Performance Max ได้ แต่โปรโมชันจะแสดงในโฆษณา Shopping ที่ทำงานผ่านแคมเปญ Performance Max เท่านั้น
- โปรโมชันแบบไดนามิกแตกต่างจากโปรแกรมส่วนลดอัตโนมัติอย่างไร
ทั้ง 2 โปรแกรมนี้ทำงานโดยใช้โมเดลที่คล้ายกัน โดยโปรโมชันแบบไดนามิกมีข้อกำหนดในการผสานรวมที่น้อยกว่ามากสำหรับการส่งผ่านราคาหรือหน้า Landing Page
-
ฉันมีบัญชี MCID บัญชีเดียวแต่มีฟีดผลิตภัณฑ์หลายรายการสำหรับประเทศต่างๆ ฉันจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากประเทศอื่นได้ไหม
คุณจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้โดยเพิ่มแอตทริบิวต์
[auto_pricing_min_pricing]
สำหรับประเทศที่ต้องการ การรายงานประสิทธิภาพจะแสดงข้อมูลแบบรวมจากทุกประเทศ แต่ขณะนี้คุณจะกรองตามประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ได้