ในระบบจัดการเนื้อหาของ Studio นโยบายคือชุดของกฎที่ระบุสิ่งที่ควรดำเนินการเมื่อวิดีโอได้รับการอ้างสิทธิ์จาก Content ID เมื่อวิดีโอได้รับการอ้างสิทธิ์ นโยบายจะกำหนดว่ากฎต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อจะมีผลบังคับใช้อย่างไร
สร้างรายได้: อนุญาตให้ผู้ใช้ดูวิดีโอได้โดยจะมีโฆษณาแสดงอยู่
ติดตาม: อนุญาตให้ผู้ใช้ดูวิดีโอได้โดยจะไม่มีโฆษณาแสดงอยู่และจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการดูวิดีโอ
บล็อก: ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ดูวิดีโอ
สร้างรายได้: อนุญาตให้ผู้ใช้ดูวิดีโอได้โดยจะมีโฆษณาแสดงอยู่
บล็อก: ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ดูวิดีโอหากต้องการสร้างนโยบาย ให้เลือกกฎเหล่านี้อย่างน้อย 1 ข้อ แล้วเพิ่มเงื่อนไขลงในกฎ เช่น จำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง เพื่อระบุวิธีและกรณีที่ควรใช้กฎ
เพิ่มนโยบายใหม่
- ลงชื่อเข้าใช้ระบบจัดการเนื้อหาของ Studio
- จากเมนูด้านซ้าย ให้เลือกนโยบาย
- เลือกวิธีการสร้างต่อไปนี้
- ใช้นโยบายที่มีอยู่เป็นเทมเพลต โดยค้นหานโยบายที่มีอยู่ แล้วคลิกเลือกการดำเนินการ
ทำซ้ำ จากนั้นเทมเพลตที่มีการกรอกข้อมูลล่วงหน้าจะโหลดเพื่อให้คุณแก้ไขแล้วสร้างนโยบายใหม่
- สร้างนโยบายใหม่ โดยคลิกเพิ่มนโยบายใหม่
- สร้างนโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน YouTube Shorts (พาร์ทเนอร์ค่ายเพลงและผู้จัดจำหน่ายเพลงเท่านั้น) โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ใช้นโยบายที่มีอยู่เป็นเทมเพลต โดยค้นหานโยบายที่มีอยู่ แล้วคลิกเลือกการดำเนินการ
- ป้อนชื่อนโยบายและคำอธิบายนโยบายสำหรับนโยบายใหม่
- ใช้ชื่อที่สรุปการดำเนินการของนโยบายและควรเป็นชื่อที่แตกต่างจากนโยบายอื่นๆ อย่างชัดเจน เช่น "สร้างรายได้ในฝรั่งเศสเท่านั้น"
- คลิกเพิ่มกฎ แล้วเลือกการดำเนินการของนโยบาย ซึ่งได้แก่ สร้างรายได้ ติดตาม บล็อก หรือกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ
- หากเลือกกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ คุณต้องระบุว่าจะใช้นโยบายนี้กับนโยบายสร้างรายได้ ติดตาม หรือบล็อกหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ
เคล็ดลับ: หากต้องการใช้นโยบายในภายหลัง ให้คลิกเพิ่มนโยบายตามกำหนดการ แล้วเลือกการดำเนินการของนโยบาย (สร้างรายได้ บล็อก ติดตาม หรือกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ) ป้อนวันที่และเวลาที่ต้องการให้นโยบายมีผลบังคับใช้เป็นเวลาแบบ UTC หรือเวลาท้องถิ่น จากนั้นทำตามขั้นตอนที่เหลือด้านล่าง
- หากเลือกกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ คุณต้องระบุว่าจะใช้นโยบายนี้กับนโยบายสร้างรายได้ ติดตาม หรือบล็อกหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกกำหนดเส้นทางสำหรับการตรวจสอบ
- คลิกเพิ่มเงื่อนไขเพื่อระบุเงื่อนไขนโยบาย เลือกระหว่างประเภทการจับคู่ที่ตรงกัน ตำแหน่งของผู้ชม จำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้ หรือจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อคุณเพิ่มเงื่อนไข ระบบจะไม่ดำเนินการตามที่คุณเลือกไว้ในขั้นตอนที่ 5 เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่คุณระบุ
- คุณเพิ่มได้หลายเงื่อนไข และเมื่อมีหลายเงื่อนไข ระบบจะใช้กฎก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขทั้งหมดเท่านั้น
- หากเลือกจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้หรือจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง ให้ป้อนจำนวนที่เหมาะสม ได้แก่ เปอร์เซ็นต์ % หรือนาที (นาที:วินาที), มากกว่า, น้อยกว่า หรือเท่ากับ ตามด้วยค่าของคุณ
- คลิกบันทึก นโยบายใหม่จะปรากฏในหน้านโยบาย
และจะสามารถนำไปใช้กับวิดีโอที่อ้างสิทธิ์
ทำซ้ำ จากนั้นเทมเพลตที่มีการกรอกข้อมูลล่วงหน้าจะโหลดเพื่อให้คุณแก้ไขแล้วสร้างนโยบายใหม่ตัวอย่าง
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างสถานการณ์ทั่วไปพร้อมกับวิธีพิจารณาใช้นโยบายตามสถานการณ์
กำหนดนโยบายการอัปโหลดที่แตกต่างกันในแต่ละเขตแดนสถานการณ์ตัวอย่าง
ฉันต้องการสร้างรายได้จากวิดีโอในสหรัฐอเมริกา บล็อกวิดีโอในออสเตรเลีย และติดตามวิดีโอในญี่ปุ่น แต่ฉันไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิ์ในวิดีโอของฉันในเขตแดนอื่นๆ นอกเหนือจากนี้
วิธีสร้างนโยบาย
- ตรวจสอบว่าคุณตั้งค่าการเป็นเจ้าของเนื้อหาเป็นสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นแล้ว
- ตั้งค่าบล็อกนอกเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของในการอ้างสิทธิ์ของวิดีโอที่คุณอัปโหลด
- สร้างนโยบายที่กำหนดเองและเพิ่มกฎ 3 ข้อ ซึ่งได้แก่ สร้างรายได้ บล็อก และติดตาม
- เพิ่มเงื่อนไขตำแหน่งของผู้ชมลงในกฎแต่ละข้อ
- สำหรับกฎสร้างรายได้ ให้คลิกแก้ไขประเทศ
- ตรวจสอบว่าได้เลือกตัวเลือกตามค่าเริ่มต้นเป็นเพิ่มเขตแดนที่เลือกแล้ว
- คลิกเพิ่มเขตแดน แล้วเลือกสหรัฐอเมริกา
- คลิกบันทึก
- สำหรับกฎบล็อก ให้คลิกแก้ไขประเทศ
- ตรวจสอบว่าได้เลือกตัวเลือกตามค่าเริ่มต้นเป็นเพิ่มเขตแดนที่เลือกแล้ว
- คลิกเพิ่มเขตแดน แล้วเลือกออสเตรเลีย
- คลิกบันทึก
- สำหรับกฎการติดตาม ให้คลิกแก้ไขประเทศ
- ตรวจสอบว่าได้เลือกตัวเลือกตามค่าเริ่มต้นเป็นเพิ่มเขตแดนที่เลือกแล้ว
- คลิกเพิ่มเขตแดน แล้วเลือกญี่ปุ่น
- คลิกบันทึก
จากนั้นนโยบายข้างต้นจะส่งผลให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้
| กฎ | เงื่อนไข |
|---|---|
| สร้างรายได้จากวิดีโอ | หากตำแหน่งของผู้ชมคือสหรัฐอเมริกา |
| บล็อกวิดีโอ | หากตำแหน่งของผู้ชมคือออสเตรเลีย |
| ติดตามวิดีโอ | หากตำแหน่งของผู้ชมคือญี่ปุ่น |
สถานการณ์ตัวอย่าง
ฉันกำลังอัปโหลดไฟล์อ้างอิงสำหรับ Content ID เพื่ออ้างสิทธิ์ในเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น แต่ฉันไม่ต้องการให้ผู้อื่นดูไฟล์ที่ฉันอัปโหลดได้
วิธีสร้างนโยบาย
ในสถานการณ์นี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีนโยบาย ให้ส่งวิดีโออ้างอิงโดยใช้เทมเพลตสเปรดชีตสำหรับการอ้างอิงเท่านั้น หรือจะตั้งค่าวิดีโอที่อัปโหลดเป็นแบบส่วนตัวก็ได้
สถานการณ์ตัวอย่าง
ฉันต้องการแสดงโฆษณาในวิดีโอที่แฟนๆ อัปโหลดซึ่งมีคลิปความยาวน้อยกว่า 5 นาทีและบล็อกวิดีโอที่มีคลิปยาวกว่านี้
วิธีสร้างนโยบาย
- สร้างนโยบายที่กำหนดเองและเพิ่มกฎ 2 ข้อ ซึ่งได้แก่ สร้างรายได้และบล็อก
- เพิ่มเงื่อนไขจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้ลงในกฎแต่ละรายการ
- สำหรับกฎสร้างรายได้ ให้เลือกนาที (นาที:วินาที) และน้อยกว่าข้างจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้ แล้วป้อน 5 นาทีในกล่องข้อความ
- สำหรับกฎบล็อก ให้เลือกนาที (นาที:วินาที) และมากกว่าข้างจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้ แล้วป้อน 5 นาทีในกล่องข้อความ
จากนั้นนโยบายข้างต้นจะส่งผลให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้
| กฎ | เงื่อนไข |
|---|---|
| สร้างรายได้จากวิดีโอ | หากจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้น้อยกว่า 5 นาที |
| บล็อกวิดีโอ | หากจำนวนการจับคู่วิดีโอของผู้ใช้มากกว่า 5 นาที |
สถานการณ์ตัวอย่าง
ฉันต้องการอ้างสิทธิ์เนื้อหาของฉันในเวอร์ชันที่มีเสียงพากย์
วิธีสร้างนโยบาย
โดยปกติแล้วคุณไม่จำเป็นต้องสร้างนโยบายแยกต่างหากเพื่ออ้างสิทธิ์เนื้อหาภาพและเสียงของคุณในเวอร์ชันที่มีเสียงพากย์ นโยบายการจับคู่จะรวมทั้งวิดีโอที่มีภาพและวิดีโอที่มีภาพและเสียงตรงกันทั้งหมดไว้อยู่แล้วตามค่าเริ่มต้น
คุณต้องมีนโยบายแยกต่างหากเฉพาะในกรณีที่ต้องการให้ระบบจัดการกับเนื้อหาที่มีเสียงพากย์แตกต่างจากการจับคู่เต็มรูปแบบ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการกำหนดเกณฑ์การจับคู่ที่แตกต่างกันหรือใช้การดำเนินการที่แตกต่างกันสำหรับเวอร์ชันที่มีเสียงพากย์ ในสถานการณ์นี้ ให้สร้างนโยบายที่มีกฎแยกต่างหากสำหรับการจับคู่ภาพและเสียงเต็มรูปแบบและการจับคู่ภาพที่มีเสียงพากย์
สำหรับพาร์ทเนอร์ค่ายเพลงและผู้จัดจำหน่ายเพลงเท่านั้น
เพิ่มนโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน YouTube Shorts
หากเป็นพาร์ทเนอร์ค่ายเพลงหรือผู้จัดจำหน่ายเพลง คุณจะต้องเพิ่มนโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน YouTube Shorts และใช้นโยบายดังกล่าวกับเนื้อหาการบันทึกเสียงที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุญาตให้ใช้ตัวอย่างเพลงใน Shorts โดยวิธีเพิ่มนโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน YouTube Shorts มีดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้ระบบจัดการเนื้อหาของ Studio
- จากเมนูด้านซ้าย ให้เลือกนโยบาย
- คลิกเพิ่มนโยบายใหม่
- ป้อนชื่อนโยบายและคำอธิบายนโยบาย
- คุณใช้ตัวอย่างด้านล่างเป็นแนวทางในการตั้งค่านโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน Shorts ได้
- ข้างจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง ให้ป้อนความยาวที่ต้องการเป็นวินาที
- ความยาวสูงสุดของ Shorts คือ 60 วินาที
- นโยบายการจับคู่ต้องมีเงื่อนไขจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิงที่อนุญาตสำหรับ Shorts ที่ใช้ไฟล์อ้างอิงไม่เกิน 16 วินาที เพื่อให้แทร็กเวอร์ชันเต็มพร้อมใช้งานใน Shorts ในวันที่เผยแพร่ กล่าวคือ ควรตั้งค่าการจับคู่ข้อมูลอ้างอิงมากกว่า 16 วินาที
- คลิกบันทึก
- เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มเงื่อนไข "จำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง" เพื่ออนุญาตการอัปโหลดที่เพิ่มตัวอย่างเพลงนอกเครื่องมือสร้าง Shorts ตัวอย่างเช่น หากให้ตัวอย่างเพลงในแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยและต้องการอนุญาตการโพสต์ข้ามผลิตภัณฑ์ไปยัง YouTube คุณควรใส่เงื่อนไขนี้เพื่ออนุญาตให้ใช้ตัวอย่างเพลงได้ตามความยาวสูงสุดที่กำหนดไว้ รวมถึงส่วนของเพลงในตัวอย่างที่ส่งให้แพลตฟอร์มอื่นด้วย มิฉะนั้นระบบอาจบล็อกการใช้ตัวอย่างเพลงดังกล่าว
- อาจมีการจำกัดจำนวนเพลงที่ผู้ใช้เพิ่มได้ หากต้องการยืนยันระยะเวลาการใช้เพลงที่ได้รับอนุญาตตามข้อตกลงของคุณกับ YouTube โปรดดูการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shorts หรือติดต่อทีมสนับสนุนของ YouTube
ตัวอย่าง
สถานการณ์ตัวอย่าง
ฉันต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถนำตัวอย่างเพลง 30 วินาทีไปใช้ใน Shorts สำหรับเพลงที่มีวันที่เผยแพร่ในอนาคต
วิธีสร้างนโยบาย
- ลงชื่อเข้าใช้ระบบจัดการเนื้อหาของ Studio
- จากเมนูด้านซ้าย ให้เลือกนโยบาย
- คลิกเพิ่มนโยบายใหม่
- ป้อนชื่อนโยบายและคำอธิบายนโยบาย
- ตัวอย่างชื่อนโยบาย: "การแสดงตัวอย่างเพลงใน Shorts - 30 วินาที"
- ตัวอย่างคำอธิบายนโยบาย: "อนุญาตให้ใช้ตัวอย่างเพลงใน Shorts ได้สูงสุด 30 วินาที"
- ป้อน 00:30 ข้างจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิง
- คลิกบันทึก
- เลือกเนื้อหา
จากเมนูด้านซ้าย
- ค้นหาเนื้อหาการบันทึกเสียงที่เกี่ยวข้อง และคลิกชื่อเนื้อหาเพื่อเปิดหน้ารายละเอียดเนื้อหา
- จากเมนูด้านซ้าย ให้เลือกการเป็นเจ้าของและนโยบาย
- คลิกแท็บนโยบายการจับคู่
- ค้นหานโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน Shorts ที่สร้างไว้ในขั้นตอนที่ 1-6 ด้านบน แล้วเลือกนโยบายในรายการ
- คลิกตั้งนโยบายที่กำหนดเอง
- คลิกเพิ่มนโยบายตามกำหนดการ แล้วเลือกนโยบายการจับคู่ที่ต้องการ
- ป้อนวันที่เผยแพร่ของแทร็กเวอร์ชันเต็ม
- คลิกเพิ่มเงื่อนไข
- หากคุณไม่เพิ่มเงื่อนไขตำแหน่งของผู้ชม อาจมีการใช้นโยบายตามกำหนดการอย่างไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากต้องการสร้างรายได้จากวิดีโอของผู้ใช้ที่ใช้เนื้อหาจากแทร็กเวอร์ชันเต็มในทุกเขตแดน คุณจะต้องตั้งค่าเงื่อนไขตำแหน่งของผู้ชมเป็น "ทั่วโลก" และนโยบายการจับคู่เป็น "สร้างรายได้"
- คลิกบันทึกเพื่อบันทึกนโยบาย
- คลิกใช้เพื่อใช้นโยบายการจับคู่ที่อัปเดตแล้วในเนื้อหา
จากเมนูด้านซ้ายหลังจากทำตามขั้นตอนที่ 6 ข้างต้นแล้ว คุณจะกำหนดเวลานโยบายได้ด้วยโดยใช้ DDEX ตามขั้นตอนที่นี่
หากนโยบายมีเงื่อนไขจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิงและผู้ใช้สามารถเข้าถึงบางส่วนของเพลงจากแพลตฟอร์มอื่นๆ นโยบายนี้อาจอนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดโดยใช้บางส่วนของเพลงจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นด้วยเมื่อใช้นโยบายตัวอย่างด้านบน
- ค่ายเพลงส่งท่อนฮุคความยาว 30 วินาทีของเพลงเป็นตัวอย่างเพลงใน Shorts ให้ YouTube แต่แสดงตัวอย่างท่อนธรรมดาจากเพลงเดียวกันนั้นในที่อื่น
- ผู้ใช้อัปโหลดวิดีโอที่สร้างนอกเครื่องมือสร้าง Shorts โดยใช้ท่อนธรรมดาของเพลงดังกล่าว
- ผู้ชมอาจดูวิดีโอได้หากความยาวของเพลงที่ใช้ไม่เกิน 30 วินาที
หากต้องการจำกัดไม่ให้ใช้เพลงจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้นำเงื่อนไขจำนวนการจับคู่ข้อมูลอ้างอิงออกเมื่อสร้างนโยบายการแสดงตัวอย่างเพลงใน Shorts