- วิธีการอ้างสิทธิ์ (โดยคุณหรือโดย Content ID)
- มีพาร์ทเนอร์รายอื่นอ้างสิทธิ์ในวิดีโอเดียวกันหรือไม่
การอ้างสิทธิ์ที่ดำเนินการโดยคุณ
เมื่อคุณอ้างสิทธิ์วิดีโอที่เคยอัปโหลดไปยังช่องของคุณ ระบบจะใช้นโยบายที่กำหนดให้เป็นนโยบายการอัปโหลดเริ่มต้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายเริ่มต้น
เมื่อคุณอ้างสิทธิ์วิดีโอโดยใช้การค้นหาด้วยคำอธิบาย คุณจะเลือกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์นั้นได้ด้วยตนเอง
การอ้างสิทธิ์ที่ดำเนินการโดย Content ID
เมื่อ Content ID อ้างสิทธิ์วิดีโอที่ผู้ใช้อัปโหลด ระบบจะใช้นโยบายการจับคู่ข้อมูลอ้างอิงของเนื้อหาที่ใช้อ้างสิทธิ์โดยอัตโนมัติ
หากเนื้อหาไม่มีนโยบายการจับคู่ที่เกี่ยวข้อง ระบบจะใช้นโยบายที่กำหนดให้เป็นนโยบายการจับคู่เริ่มต้น
คุณเปลี่ยนนโยบายที่บังคับใช้กับวิดีโอที่อ้างสิทธิ์ได้จากหน้าวิดีโอที่อ้างสิทธิ์ 
การอ้างสิทธิ์ที่ดำเนินการโดยพาร์ทเนอร์หลายราย
ในวิดีโอเดียวกัน
พาร์ทเนอร์มากกว่า 1 รายสามารถมีการอ้างสิทธิ์ที่ถูกต้องในวิดีโอเดียวกันในเขตแดนเดียวกันได้ เช่น พาร์ทเนอร์รายหนึ่งอาจอ้างสิทธิ์ในส่วนที่เป็นภาพ และอีกรายหนึ่งอ้างสิทธิ์ในส่วนที่เป็นเสียง
เมื่อพาร์ทเนอร์หลายรายอ้างสิทธิ์อย่างถูกต้องในวิดีโอหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้มีหลายนโยบายที่นำมาบังคับใช้ได้ ระบบจะเลือกใช้นโยบายที่มีการดำเนินการเข้มงวดที่สุด
| เข้มงวดน้อยที่สุด | เข้มงวดมากที่สุด | |||
|---|---|---|---|---|
| ไม่มีการใช้นโยบาย | สร้างรายได้ | ติดตาม | บล็อก | ลบออก |
หมายเหตุ: หากเนื้อหาใดเนื้อหาหนึ่งที่อ้างสิทธิ์วิดีโอไม่มีข้อมูลการเป็นเจ้าของ การดำเนินการตามนโยบายเริ่มต้นจะเป็นติดตาม (ไม่ทราบเจ้าของ)
- ตัวอย่างเช่น หากเนื้อหาดังกล่าวไม่มีข้อมูลการเป็นเจ้าของสำหรับแคนาดา YouTube จะใช้นโยบายติดตาม (ไม่ทราบเจ้าของ) ในแคนาดากับวิดีโอที่มีการอ้างสิทธิ์ในเนื้อหานั้น
- เนื่องจากระบบจะใช้นโยบายที่เข้มงวดที่สุด นโยบายการติดตามนี้จะมีผลเหนือนโยบายการสร้างรายได้จากการอ้างสิทธิ์อื่นๆ ในวิดีโอ
ในเนื้อหาเดียวกัน
หากมีพาร์ทเนอร์หลายรายเป็นเจ้าของสิทธิ์ในเนื้อหาเดียวกันในเขตแดนที่แตกต่างกัน ระบบจะใช้นโยบายของพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าของเนื้อหาในประเทศนั้น
หากมีพาร์ทเนอร์หลายรายเป็นเจ้าของสิทธิ์ในเนื้อหาเดียวกันในเขตแดนเดียวกัน ระบบจะใช้นโยบายของพาร์ทเนอร์ที่มีการดำเนินการเข้มงวดมากที่สุด หากพาร์ทเนอร์ทั้ง 2 รายมีนโยบายเดียวกัน นโยบายที่ระบบใช้จะขึ้นอยู่กับว่าเนื้อหานั้นเป็นเนื้อหาเพลงหรือเนื้อหาที่ไม่ใช่เพลง ดังนี้
- สำหรับเนื้อหาเพลง: ระบบจะแยกรายได้ไว้ต่างหาก และจะจ่ายรายได้ส่วนนั้นให้แก่ฝ่ายที่มีสิทธิ์เมื่อการโต้แย้งได้รับการตัดสินแล้ว
- สำหรับเนื้อหาที่ไม่ใช่เพลง: ระบบจะใช้นโยบายการติดตามสำหรับพาร์ทเนอร์ทั้ง 2 ราย นโยบายการสร้างรายได้จะใช้ไม่ได้จนกว่าจะมีการแก้ไขความขัดแย้งในการเป็นเจ้าของ
ตารางด้านล่างแสดงสถานการณ์ตัวอย่างและวิธีใช้นโยบายกับวิดีโอที่ผู้ใช้อัปโหลดซึ่งตรงกับเนื้อหาที่มีการเป็นเจ้าของร่วมกัน
มีการเป็นเจ้าของในเขตแดนที่แตกต่างกัน และใช้นโยบายต่างกัน
| พาร์ทเนอร์ ก | พาร์ทเนอร์ ข | |
|---|---|---|
| เขตแดนที่มีการเป็นเจ้าของ | สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก | สหราชอาณาจักร |
| นโยบายการจับคู่ที่กำหนด | บล็อกเนื้อหา | สร้างรายได้จากเนื้อหา |
| นโยบายที่บังคับใช้ |
|
|
มีการเป็นเจ้าของในเขตแดนที่แตกต่างกัน แต่ใช้นโยบายเดียวกัน
| พาร์ทเนอร์ ก | พาร์ทเนอร์ ข | |
|---|---|---|
| เขตแดนที่มีการเป็นเจ้าของ | สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก | สหราชอาณาจักร |
| นโยบายการจับคู่ที่กำหนด | บล็อกเนื้อหาในสหรัฐอเมริกา แต่สร้างรายได้จากเนื้อหาในแคนาดาและเม็กซิโก | สร้างรายได้จากเนื้อหา |
| นโยบายที่บังคับใช้ |
|
|
มีการเป็นเจ้าของในเขตแดนเดียวกัน แต่ใช้โยบายต่างกัน
| พาร์ทเนอร์ ก | พาร์ทเนอร์ ข | |
|---|---|---|
| เขตแดนที่มีการเป็นเจ้าของ | สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก | สหรัฐอเมริกา |
| นโยบายการจับคู่ที่กำหนด | บล็อกเนื้อหาในสหรัฐอเมริกา แต่สร้างรายได้จากเนื้อหาในแคนาดาและเม็กซิโก | ติดตามเนื้อหา |
| นโยบายที่บังคับใช้ |
|
|
มีการเป็นเจ้าของในเขตแดนเดียวกัน และใช้นโยบายเดียวกัน
| พาร์ทเนอร์ ก | พาร์ทเนอร์ ข | |
|---|---|---|
| เขตแดนที่มีการเป็นเจ้าของ | สหรัฐอเมริกา | สหรัฐอเมริกา |
| นโยบายการจับคู่ที่กำหนด | สร้างรายได้จากเนื้อหา | สร้างรายได้จากเนื้อหา |
| นโยบายที่บังคับใช้ |
|
|