หากการสตรีมวิดีโอบน YouTube TV ไม่ทำงาน ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่าการตั้งค่าตำแหน่งปัจจุบันของคุณถูกต้องหรือไม่ หากไม่ได้ผล ให้ทำตามเคล็ดลับการแก้ปัญหาที่เหลือในบทความนี้
บนสมาร์ททีวี
- เปิดแอป YouTube TV บนอุปกรณ์
- เลือก ตำแหน่ง
- ตรวจสอบข้อมูลที่ระบุไว้ในส่วน "พื้นที่บ้าน" และ "ตำแหน่งที่เล่นปัจจุบัน" เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง
หากพื้นที่บ้านหรือตำแหน่งที่เล่นปัจจุบันไม่ถูกต้อง ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อแก้ไข โดยข้อควรทราบมีดังนี้
- พื้นที่บ้านคือรหัสไปรษณีย์ของที่พักอาศัย และพื้นที่การเล่นปัจจุบันคือสถานที่จริงในปัจจุบันของคุณ
- พื้นที่การเล่นปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเดินทาง แต่พื้นที่บ้านจะไม่เปลี่ยนแปลง
อัปเดตพื้นที่บ้าน
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่ออัปเดตพื้นที่บ้านบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่
อัปเดตตำแหน่งที่เล่นปัจจุบัน
ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่ออัปเดตตำแหน่งที่เล่นปัจจุบันบนสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- เปิดแอป YouTube TV บนสมาร์ททีวี
- เลือก ตำแหน่ง
- เลือกพื้นที่การเล่นปัจจุบัน
- หากใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ให้ไปที่ tv.youtube.com/verify อนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงตำแหน่งของอุปกรณ์เพื่ออัปเดตพื้นที่การเล่นปัจจุบัน
ปิดอุปกรณ์แล้วเปิดใหม่
ตรวจหาการอัปเดตแอปหรืออุปกรณ์
- ตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งการอัปเดตระบบล่าสุดสำหรับอุปกรณ์แล้ว
- อัปเดตแอป YouTube TV เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่มีให้ใช้งาน
ถอนการติดตั้งและติดตั้งแอป YouTube TV อีกครั้ง
- ถอนการติดตั้งแอป YouTube TV บนอุปกรณ์
- ติดตั้งแอป YouTube TV อีกครั้งแล้วลงชื่อเข้าใช้ใหม่
- ลองดูวิดีโอของคุณอีกครั้ง
ตรวจสอบปัญหาจากผู้ผลิต
ลดการเลื่อนเวลาออกอากาศบนทีวีสำหรับ YouTube TV
อัปเดตการเลื่อนเวลาออกอากาศในแอป YouTube TV บนทีวี
- เลือกเมนู 3 จุด "เพิ่มเติม"
- เลือกการเลื่อนเวลาออกอากาศ
- เลือกช้าลงหรือค่าเริ่มต้น
"ค่าเริ่มต้น" เหมาะที่สุดในการลดการหยุดชะงักของการเล่น "ช้าลง" เหมาะที่สุดในการลดการรบกวนการถ่ายทอดสด เลือกตัวเลือก "ช้าลง" หากต้องการการเลื่อนเวลาออกอากาศต่ำเพื่อให้การเล่นหยุดชะงักน้อยที่สุด
ข้อผิดพลาด HDCP ในเพลเยอร์ของ Roku
- หากพบข้อผิดพลาด HDCP ในเพลเยอร์ของ Roku ให้เปิดการตั้งค่า HDMI Ultra HD Color บนทีวี
- หากพบปัญหาว่าเพลเยอร์ของ Roku เล่นแบบสะดุด ให้ปิด HDR ในการตั้งค่า "Display type" ของ Roku โดยเลือก Settings Display type เลือก 4K 30 Hz TV, 4K 60 Hz TV หรือ 4K HDR 60 Hz
ในอุปกรณ์เคลื่อนที่
รีสตาร์ทอุปกรณ์
กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้เพื่อปิดอุปกรณ์ รอ 30 วินาที แล้วเปิดอุปกรณ์ใหม่
ปิดและเปิดแอป YouTube TV อีกครั้ง
- ออกจากแอป YouTube TV แล้วเปิดอีกครั้ง
- ลองดูวิดีโออีกครั้งหลังจากเปิดแอปขึ้นมาใหม่
ตรวจหาการอัปเดตแอปหรืออุปกรณ์
- ตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งการอัปเดตระบบล่าสุดสำหรับอุปกรณ์แล้ว
- อัปเดตแอป YouTube TV เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่มีให้ใช้งาน
- ถอนการติดตั้งและติดตั้งแอป YouTube TV อีกครั้ง
ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- ตรวจสอบว่าคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่
- หมายเหตุ: YouTube TV ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วอย่างน้อย 3 Mbps เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเร็วในการดาวน์โหลดของอินเทอร์เน็ต รวมถึงวิธีทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ที่ด้านล่าง
- เปิดและปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือ
- เปลี่ยนคุณภาพวิดีโอเป็นการตั้งค่าที่ต่ำลง เลือกเมนูรายการเพิ่มเติม ในวิดีโอเพลเยอร์ คุณภาพ
- ปิดวิดีโอเพลเยอร์โดยการเลื่อนลงเพื่อย่อขนาดและปัดไปทางขวา แล้วเปิดเพลเยอร์ขึ้นมาใหม่และลองดูวิดีโออีกครั้ง
ตรวจสอบสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง
ตรวจสอบว่า YouTube TV มีสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสถานที่ตั้งและสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง
ในคอมพิวเตอร์
รีสตาร์ทเบราว์เซอร์และอุปกรณ์
- ปิดและเปิดเว็บเบราว์เซอร์อีกครั้ง
- รีสตาร์ทเราเตอร์
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
ตรวจหาการอัปเดตเบราว์เซอร์
- อัปเดตเว็บเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ลองใช้ Chrome เพื่อประสบการณ์การใช้งาน YouTube TV ที่ดีที่สุด
ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- ตรวจสอบว่าคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่
- หมายเหตุ: YouTube TV ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วอย่างน้อย 3 Mbps เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเร็วในการดาวน์โหลดของอินเทอร์เน็ต รวมถึงวิธีทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ที่ด้านล่าง
- ปิดและเปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- เปลี่ยนคุณภาพวิดีโอเป็นการตั้งค่าที่ต่ำลง เลือกการตั้งค่า ในวิดีโอเพลเยอร์ คุณภาพ
- ปิดวิดีโอเพลเยอร์ เปิดขึ้นมาใหม่ แล้วลองดูวิดีโออีกครั้ง
ตรวจสอบสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง
ตรวจสอบว่า YouTube TV มีสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสถานที่ตั้งและสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง
ปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเล่น YouTube TV
- ในจอภาพที่เชื่อมต่อภายนอกซึ่งเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรง คุณอาจพบว่าการเล่นมีคุณภาพต่ำลง (480p) บน Mac และ Linux คุณภาพที่ต่ำลงนี้เป็นผลมาจากวิธีการที่แพลตฟอร์มเหล่านี้จัดการกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
- เสียงในรายการแบบออนดีมานด์บางรายการอาจเบากว่ารายการสด
- หากเห็นข้อความ "YouTube TV ต้องการให้ Google ยืนยันตัวตนของอุปกรณ์เพื่อพิจารณาการมีสิทธิ์สำหรับการเล่นที่เพิ่มประสิทธิภาพของสื่อที่มีการคุ้มครอง" ให้เลือกอนุญาต หากไม่อนุญาต การเล่นอาจมีคุณภาพต่ำลง
ความเร็วในการดาวน์โหลดของอินเทอร์เน็ต
ความเร็วในการดาวน์โหลด | สิ่งที่คุณทำได้บน YouTube TV |
---|---|
25 Mbps ขึ้นไป | สมาชิก 4K Plus: ดูรายการที่พร้อมให้รับชมด้วยคุณภาพระดับ 4K |
13 Mbps ขึ้นไป | สตรีมวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างเสถียร แม้จะมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้เครือข่ายเดียวกันอยู่ |
7 Mbps ขึ้นไป |
สตรีมวิดีโอความละเอียดสูงได้ 1 รายการ หากมีอุปกรณ์หลายเครื่องกำลังสตรีมวิดีโอหรือใช้เครือข่ายเดียวกันพร้อมกัน คุณอาจพบปัญหาบางอย่างในการบัฟเฟอร์ |
3 Mbps ขึ้นไป | สตรีมวิดีโอความละเอียดมาตรฐาน |
ต่ำกว่า 3 Mbps | YouTube TV อาจโหลดได้ช้าหรือบัฟเฟอร์ใหม่บ่อยครั้ง |