เมื่อผู้ใช้โต้ตอบกับธุรกิจของคุณโดยตรงทางออนไลน์และออฟไลน์ จะเป็นโอกาสให้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวตนและวิธีตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
ข้อมูลนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นข้อมูลเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณและมาจากลูกค้าโดยตรง โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเปิดใช้รายชื่อลูกค้าที่อิงตาม Conversion ในการตั้งค่าบัญชี การจับคู่ข้อมูลลูกค้าเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลของคุณเอง
การจับคู่ข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าเหล่านี้ ดึงดูดให้ลูกค้าเหล่านี้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง และหาลูกค้าใหม่ในกลุ่มเดียวกันทั้งในเครือข่ายการค้นหา, Shopping, Gmail, YouTube และเครือข่ายดิสเพลย์
การจับคู่ข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิมที่กำหนดเอง และส่งข้อความที่ตรงตามความสนใจเมื่อข้อความนั้นเกี่ยวข้องกับลูกค้ามากที่สุด โดยการอัปโหลดข้อมูลลูกค้าบุคคลที่หนึ่งที่เราใช้เพื่อจับคู่กับผู้ใช้ Google
ทำไมจึงควรลงทุนกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
การจับคู่ข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเพื่อแชร์ข้อมูลเชิงลึกที่จำเพาะเจาะจงที่คุณมีเกี่ยวกับลูกค้านอกเหนือจากข้อมูลที่ Google มีอยู่ ทั้งยังช่วยให้คุณกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมหรือสร้างความสัมพันธ์ใหม่ในผลิตภัณฑ์และบริการของ Google ทั้งหมดด้วยวิธีที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว วิธีนี้มีความสําคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ Google เลิกใช้รีมาร์เก็ตติ้งตามคุกกี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นส่วนตัว เบราว์เซอร์ และกฎข้อบังคับ
การจับคู่ข้อมูลลูกค้าเป็นโซลูชันผลิตภัณฑ์อย่างหนึ่งที่ปรับขนาดได้มากที่สุด เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง และยังคงได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพที่คุณคาดหวังจาก Google
ประโยชน์ของการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2022 แคมเปญที่ใช้ Smart Bidding และการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะมีรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดอยู่ในบัญชีโดยอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น Conversion ก่อนหน้านี้ คุณจะได้รับประโยชน์ด้านประสิทธิภาพดังกล่าวต่อเมื่อใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดกับแคมเปญด้วยตนเองเท่านั้น หากไม่ต้องการให้ระบบใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญโดยอัตโนมัติ ให้ทําดังนี้
- เลือกไม่ใช้การรวมโดยอัตโนมัติสำหรับรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่ไม่ยังไม่ได้ใช้และบัญชีของคุณเข้าถึงได้ โดยทําตามขั้นตอนเหล่านี้
- นํารายการที่ไม่ต้องการใช้ใน Smart Bidding และการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพออกจากบัญชี
โปรดทราบว่า
- การอัปเดตนี้จะไม่ส่งผลต่อการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายของแคมเปญ เช่น หากแคมเปญใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจะแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทำ Conversion มากกว่า
- แม้ว่ารายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าจะไม่เกี่ยวข้องกับแคมเปญทั้งหมด แต่ Smart Bidding และการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะเรียนรู้โดยอัตโนมัติว่ารายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าใดมีประโยชน์กับประสิทธิภาพของแคมเปญ และจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รายการอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์
- ระบบจะไม่ใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าหากคุณใช้กลยุทธ์การเสนอราคาด้วยตนเอง
- การรวมรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้ไว้ใน Smart Bidding หรือการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติใช้ได้กับแคมเปญ YouTube, แคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำของ YouTube และจะใช้ได้กับโฆษณาในฟีดและโฆษณา Search ในเร็วๆ นี้
- สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นกับลูกค้าหรือหาลูกค้าใหม่
- เชื่อมโยงลูกค้าเดิมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นที่ลูกค้าอาจชอบ
- ค้นหาลูกค้าใหม่ที่ในกลุ่มเดียวกับลูกค้าที่ดีที่สุดของคุณ
- เข้าถึงลูกค้าเดิมด้วยข้อเสนอพิเศษและการรับส่งข้อความ
- กระตุ้นลูกค้าที่หยุดซื้อให้กลับมาซื้ออีกครั้ง
- กลยุทธ์กลุ่มเป้าหมายทางเลือกที่รองรับการปรับขนาดได้ง่าย
- ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่โลกที่ไม่มีการใช้คุกกี้ รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ใช้ที่มีคุณค่ามากที่สุดได้ต่อไป และเป็นเครื่องมือสําคัญในการจัดการกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ต้องอาศัยผู้เข้าชมเว็บไซต์ตามแท็กแบบเดิม
- สัญญาณสําคัญใน Smart Bidding และการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
- ระบบจะใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าใน Smart Bidding และการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
- หากคุณใช้ Smart Bidding หรือการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพและการจับคู่ข้อมูลลูกค้า ระบบอาจใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญ รายชื่อลูกค้าจะได้รับการรวมอยู่ใน Smart Bidding โดยอัตโนมัติเร็วๆ นี้ แคมเปญประเภทต่างๆ จะเริ่มการรวมรายชื่อลูกค้าในเวลาที่ต่างกัน
ลำดับเวลาสําหรับรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่ยังไม่กำหนดเป้าหมายที่จะรวมโดยอัตโนมัติมีดังนี้
ประเภทแคมเปญโฆษณา | ลำดับเวลา |
---|---|
VAC ของ YouTube | เปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 |
YouTube | เปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 |
โฆษณา Search | เปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2023 |
Shopping | จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 |
Demand Gen (ไม่ใช่โฆษณา YouTube) | เปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2023 |
โฆษณา Gmail | จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 |
หากไม่ต้องการให้ระบบรวมรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ Smart Bidding หรือการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ให้เลือกไม่ใช้รายชื่อลูกค้าที่มีอยู่ในบัญชีโดยอัตโนมัติ โดยทำดังนี้
- เลือกรหัสลูกค้าของบัญชีบุคคลธรรมดา
- หากคุณเป็นเอเจนซีหรือผู้ที่จัดการบัญชี Google Ads, Display & Video 360 หรือ Search Ads 360 หลายบัญชี การเลือกไม่ใช้นี้จะใช้กับบัญชีดูแลจัดการ Google Ads, บัญชี Display & Video 360 หรือบัญชี Search Ads 360 ไม่ได้ ดูวิธีค้นหารหัสลูกค้า Google Ads
- จากเมนูหน้าเว็บทางด้านซ้าย ให้คลิกไอคอนผู้ดูแลระบบ แล้วคลิกการตั้งค่าบัญชี
- ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย "ใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดใน Smart Bidding หรือการกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ" ในส่วน "การจับคู่ข้อมูลลูกค้า"
ดูวิธีการนํารายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงออกจากบัญชี
ข้อมูลเบื้องต้น | เริ่มต้นใช้งานการจับคู่ข้อมูลลูกค้าเรียนรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้าและวิธีใช้งานเพื่อการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ |
|
ตั้งค่า | ตั้งค่าการจับคู่ข้อมูลลูกค้าสร้างหรืออัปเดตแคมเปญให้กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายในการจับคู่ข้อมูลลูกค้า ซึ่งก็คือลูกค้าจากไฟล์ข้อมูลที่อัปโหลดซึ่งเป็นผู้ใช้ Google |
|
อัปโหลดข้อมูล | อัปโหลดข้อมูลการจับคู่ข้อมูลลูกค้าดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกที่คุณต้องเปิดใช้งาน และอัปเดตข้อมูล CRM ด้วยการจับคู่ข้อมูลลูกค้า |
|
แก้ปัญหา | แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรายชื่อลูกค้าแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรายชื่อลูกค้า |
|
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลของลูกค้าด้วยวิธีที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว |