คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคอลัมน์ที่กําหนดเอง

คุณจะบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองได้ก็ต่อเมื่อคอลัมน์นั้นมีชื่อที่ถูกต้อง สูตรที่ถูกต้อง และรูปแบบข้อมูลที่ตรงกับสูตรเท่านั้น

หากบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองไม่ได้ ให้ตรวจสอบข้อความแสดงข้อผิดพลาดสีแดงที่อยู่ใต้พื้นที่สูตรหรือใต้ชื่อคอลัมน์ ซึ่งข้อความนี้จะบอกเหตุผลที่บันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองไม่ได้

หากสูตรไม่ถูกต้องเนื่องจากข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ เครื่องหมายขีดเส้นใต้สีแดงอย่างน้อย 1 เส้นจะปรากฏใต้ส่วนหนึ่งของสูตรนั้น เครื่องหมายขีดเส้นใต้เหล่านี้ระบุตําแหน่งโดยประมาณในสูตรที่ตรวจพบข้อผิดพลาด คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนส่วนของสูตรที่ไม่ได้อยู่เหนือเครื่องหมายขีดเส้นใต้เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด (เช่น เพิ่มวงเล็บไว้ด้านหน้าหรือท้ายสูตรเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดวงเล็บที่ไม่ตรงกัน)

สาเหตุทั่วไปที่ทําให้สูตรไม่ถูกต้องมีดังนี้

• ประเภทข้อมูลที่ไม่ตรงกัน: คอลัมน์ ค่าคงที่ และฟังก์ชันแต่ละรายการจะประกอบไปด้วยข้อมูลประเภทใดประเภทหนึ่ง (ตัวเลข ข้อความ จริง/เท็จ หรือวันที่) ให้ตรวจสอบว่าคุณได้รวมคอลัมน์ ค่าคงที่ และฟังก์ชันเข้าด้วยกันในรูปแบบที่เข้ากันได้ เช่น ฟังก์ชันความยาวจะยอมรับเฉพาะค่าข้อความเท่านั้น ดังนั้น length(Clicks) จึงไม่ถูกต้องเนื่องจาก Clicks เป็นตัวเลข คุณสามารถตรวจสอบประเภทข้อมูลได้ในส่วนรายการคอลัมน์ รายการฟังก์ชัน และรายการโอเปอเรเตอร์
• ไม่มีโอเปอเรเตอร์: คุณต้องวางโอเปอเรเตอร์ระหว่างคอลัมน์ ค่าคงที่ ฟังก์ชัน และนิพจน์ที่ใชัเครื่องหมายวงเล็บแต่ละรายการ ตัวอย่างเช่น 2(Impr + Clicks) ไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีโอเปอเรเตอร์ (เช่น *) อยู่หลังตัวเลข
• วงเล็บไม่ตรงกัน: ตรวจสอบว่าวงเล็บเปิดและปิดทุกวงเล็บมีคู่วงเล็บประเภทที่อยู่ตรงกันข้ามและสอดคล้องกันวางอยู่ในตําแหน่งอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น (56 * round(Clicks)) + Clicks) ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีวงเล็บเปิดที่สอดคล้องอย่างถูกต้องกับวงเล็บสุดท้ายหลังคอลัมน์คลิก
• การสะกดผิด: ตรวจสอบรายการคอลัมน์ ตัวกรอง และฟังก์ชันในคอลัมน์ที่กําหนดเองเพื่อดูการสะกดให้ถูกต้องในเนื้อหาคอลัมน์ที่กำหนดเองทั่วไป
• การใช้เครื่องหมายคำพูดคู่ผิด: ตรวจสอบว่ามีการใช้เครื่องหมายคำพูดคู่อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปแล้ว ตัวเลข คอลัมน์มาตรฐาน และค่าจริง/เท็จไม่ควรอยู่ในเครื่องหมายคําพูดคู่ เนื่องจากเครื่องหมายคำพูดคู่จะทําให้ค่าดังกล่าวกลายเป็นข้อความ ตัวอย่างเช่น ("Clicks" > 4) = "true" จะใช้ไม่ได้ สูตรนี้ควรเขียนเป็น (Clicks > 4) = true แทน เฉพาะการอ้างอิงคอลัมน์ที่กําหนดเอง ตัวกรองบางรายการ และค่าคงที่ของข้อความเท่านั้นที่จะใช้เครื่องหมายคำพูดคู่
• ไม่มีลําดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์: ตรวจสอบว่าคุณใส่วงเล็บเปิดและปิดให้การคํานวณที่ควรเกิดขึ้นเป็นลำดับแรก เช่น ระบบอาจไม่บันทึก Clicks * 2 > 10 เนื่องจากอาจพยายามคํานวณการเปรียบเทียบ > เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงทำการคูณเป็นลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้ใช้วิธีใส่ลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ลำดับแรกไว้ในวงเล็บแทนเพื่อบันทึกสูตร ดังนี้ (Clicks * 2) > 10
• ชื่อคอลัมน์ควรแสดงในวงรี (โหมดภาพเท่านั้น): เมื่อเพิ่มคอลัมน์ลงในสูตรขณะอยู่ในโหมดภาพ (ค่าเริ่มต้น) คุณต้องเลือกจากเมนูแบบเลื่อนลงที่ปรากฏขึ้นขณะพิมพ์ชื่อคอลัมน์เพื่อแปลงให้เป็นวงรี หากมีคอลัมน์ในสูตรที่ไม่แสดงด้วยวงรี ให้ลองแทรกคอลัมน์โดยใช้ปุ่ม + คอลัมน์

เมื่อแก้ไขคอลัมน์ที่กําหนดเองที่มีอยู่ จะมีอยู่ 2 กรณีที่ระบบอาจแจ้งให้คุณบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองเป็นคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเองแทนการอัปเดตคอลัมน์ที่กําหนดเองที่มีอยู่ ในกรณีเหล่านี้ คุณจะเห็นตัวเลือกให้ "บันทึกเป็นคอลัมน์ใหม่" ด้วย หากเลือกตัวเลือกนี้ ระบบจะคัดลอกสูตรที่แก้ไขแล้วไว้ในคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง และคุณจะบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองด้วยชื่อใหม่ได้

"คุณบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เนื่องจากสูตรไม่ตรงกับรูปแบบคอลัมน์แล้ว"

ข้อผิดพลาดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสูตรจนไม่ตรงกับรูปแบบข้อมูลที่เลือกไว้สําหรับสูตรอีกต่อไป หลังจากสร้างคอลัมน์ที่กําหนดเองแล้ว รูปแบบข้อมูลของคอลัมน์ที่กําหนดเองจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีก เช่น หากสูตรคือ Clicks / Impr และรูปแบบข้อมูลคือเปอร์เซ็นต์ จากนั้นหากคุณแก้ไขสูตรเป็น Clicks > Impr คุณจะไม่สามารถบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้ได้เนื่องจากจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบข้อมูลเป็นจริง/เท็จ

"คุณบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เนื่องจากอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในรายงานที่อาจใช้คอลัมน์ที่กำหนดเองนี้อยู่"

ข้อผิดพลาดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเพิ่มหรือนําบางคอลัมน์หรือคอลัมน์อื่นๆ ที่กําหนดเองออกจากสูตร ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีการแสดงคอลัมน์ที่กําหนดเองในแผนภูมิและในแถวสรุป ตัวอย่างเช่น หากสูตรมีเฉพาะคอลัมน์ Clicks และ Conversion แต่คุณแก้ไขสูตรให้รวมคอลัมน์ชื่อแคมเปญด้วย (ซึ่งแสดงในแผนภูมิไม่ได้) คุณจะเห็นข้อผิดพลาดนี้ คุณอาจเห็นข้อผิดพลาดนี้แม้ว่าจะไม่มีการใช้คอลัมน์ที่กําหนดเองในตาราง แผนภูมิ หรือรายงานใดๆ ก็ตามในปัจจุบัน

คุณคัดลอกสูตรได้เมื่ออยู่ในโหมดข้อความ แล้ววางสูตรลงในคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเองเมื่ออยู่ในโหมดข้อความ

1. เลือกไอคอนดินสอ ข้างคอลัมน์ที่กําหนดเองที่คุณต้องการคัดลอก/ทําซ้ำ
2. เปลี่ยนเป็นโหมดข้อความ
3. ไฮไลต์ข้อความของทั้งสูตร
4. คัดลอกสูตร (Ctrl+C หรือ Cmd+C)
5. เลือกยกเลิกเพื่อปิดเครื่องมือแก้ไขสูตร
6. เลือก + คอลัมน์ที่กําหนดเอง เพื่อสร้างคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง
7. เปลี่ยนเป็นโหมดข้อความ
8. วางสูตร (Ctrl+V หรือ Cmd+V) ลงในพื้นที่สูตร และทําการเปลี่ยนแปลงตามต้องการ
9. ระบุชื่อที่ไม่ซ้ำกันสําหรับคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง
10. เลือกรูปแบบข้อมูลที่ต้องการ
11. บันทึกคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง
12. (ไม่บังคับ) คุณนําคอลัมน์ที่กําหนดเองก่อนหน้านี้ออกได้ หากไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป

คอลัมน์ที่กําหนดเองจะแสดงเครื่องหมายขีดกลางในตารางเมื่อสูตรไม่มีค่าที่ถูกต้องสำหรับแสดงในแถว สาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้

• การขึ้นต่อกันยังว่างอยู่: หากคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่งที่อยู่ในสูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองแสดงเครื่องหมายขีดกลางในแถว คอลัมน์ที่กําหนดเองก็จะแสดงขีดกลางในแถวนั้นด้วย คุณตรวจสอบค่าของแต่ละคอลัมน์ที่รวมอยู่ในสูตรได้โดยการเพิ่มค่าลงในตาราง
• ตัวกรองไม่เข้ากัน: คอลัมน์และตัวกรองบางรายการเข้ากันไม่ได้ในบางตาราง แม้คุณจะสามารถบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองโดยการรวมทั้งคอลัมน์และตัวกรองเข้าด้วยกันได้ก็ตาม เช่น การเพิ่มตัวกรองแหล่งที่มาของ Conversion ในคอลัมน์ Clicks จะส่งผลให้คอลัมน์ที่กําหนดเองแสดงเครื่องหมายขีดกลาง เนื่องจากแหล่งที่มาของ Conversion จะกรองคลิกไม่ได้
• ข้อผิดพลาดในการคํานวณ: หากคํานวณสูตรไม่ได้เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดในการคํานวณ ระบบจะแสดงเครื่องหมายขีดกลาง เช่น การเขียนสูตรที่คูณตัวเลขจำนวนมหาศาล 2 จำนวนเข้าด้วยกัน อาจทำให้มีการแสดงผลว่าเกิดข้อผิดพลาดในการคํานวณได้
• แถวสรุป: ขีดกลางอาจปรากฏในแถวสรุปสําหรับคอลัมน์ที่กําหนดเองภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง

คุณไม่สามารถเพิ่มคอลัมน์ที่กําหนดเองลงในตารางได้ หากสูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองมีคอลัมน์หรือตัวกรองที่ใช้งานไม่ได้สำหรับตารางนั้น ในทํานองเดียวกัน หากในสูตรมีคอลัมน์อื่นที่กําหนดเองซึ่งไม่สามารถเพิ่มลงในตารางได้ ก็จะเพิ่มคอลัมน์ที่กําหนดเองนั้นลงในตารางไม่ได้เช่นกัน

คุณเพิ่มคอลัมน์ที่กําหนดเองลงในตารางอื่นที่มีคอลัมน์และตัวกรองทั้งหมดที่ใช้ในสูตรที่มีอยู่ได้ หรือคุณอาจแก้ไขสูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองเพื่อนําคอลัมน์หรือตัวกรองที่ใช้ไม่ได้ในตารางปัจจุบันออก

• ใน 1 บัญชีจะมีคอลัมน์ที่กําหนดเองได้ไม่เกิน 1,000 คอลัมน์
• สูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองต้องมีความยาวไม่เกิน 10,000 อักขระเมื่อดูในโหมดข้อความ
• คุณเพิ่มตัวกรองที่แตกต่างกันได้สูงสุด 2 ประเภท (เช่น อุปกรณ์ เครือข่าย) ลงในสูตรได้ทุกคอลัมน์ในสูตร ไม่มีการจํากัดจํานวนค่าที่อนุญาตในตัวกรองแต่ละรายการ
• คอลัมน์ที่กําหนดเองจะอ้างอิงโดยตรงถึงคอลัมน์อื่นๆ ที่กําหนดเองได้ไม่เกิน 5 คอลัมน์ในสูตรของคอลัมน์
• การอ้างอิงคอลัมน์ที่กําหนดเองไปยังคอลัมน์อื่นที่กําหนดเองจะไม่สามารถสร้างเชนการอ้างอิงที่ยาวกว่า 4 ได้ เช่น หากคอลัมน์ A อ้างอิงคอลัมน์ B ซึ่งอ้างอิงคอลัมน์ C ซึ่งอ้างอิงคอลัมน์ D แล้ว คอลัมน์ D จะไม่สามารถอ้างอิงคอลัมน์ที่กําหนดเองอื่นใดได้ เนื่องจากจะทําให้ความยาวของเชนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ในทํานองเดียวกัน ในสถานการณ์นี้ จะไม่มีคอลัมน์อื่นที่กําหนดเองสามารถอ้างอิงคอลัมน์ A ได้ เนื่องจากจะทําให้ความยาวของเชนเพิ่มขึ้นเป็น 5 เช่นกัน
• การอ้างอิงคอลัมน์ที่กําหนดเองไม่สามารถสร้างเชนแบบวนซ้ำได้ เช่น หากคอลัมน์ A อ้างอิงคอลัมน์ B ซึ่งอ้างอิงคอลัมน์ C แล้ว คอลัมน์ C จะไม่สามารถอ้างอิงคอลัมน์ A หรือคอลัมน์ B ได้

หากต้องการสร้างคอลัมน์ที่กําหนดเองที่แสดงค่าของการกระทําที่ถือเป็น Conversion หนึ่งๆ ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. สร้างคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง
   1. คลิกไอคอนคอลัมน์ ที่มุมขวาบนของตาราง แล้วเลือกแก้ไขคอลัมน์
   2. คลิก + คอลัมน์ที่กําหนดเอง ที่ด้านขวาบน
2. เริ่มต้นด้วยเมตริก Conversion พื้นฐาน (เช่น ใช้ "Conversion ทั้งหมด" หากคุณสนใจจํานวน Conversion)
   1. คลิกปุ่ม + คอลัมน์ และขยายส่วน Conversion
   2. เลือกเมตริก Conversion พื้นฐาน (เช่น "Conversion ทั้งหมด" สําหรับจํานวน Conversion)
3. เลือกตัวกรองเพื่อจํากัดเมตริกที่เลือกให้เป็นการกระทําที่ถือเป็น Conversion อย่างเจาะจง
   1. คลิกวงรีสีเทาในพื้นที่สูตรที่แสดงถึงคอลัมน์ซึ่งเพิ่งเพิ่มเข้ามา (หากไม่ใช่สีน้ำเงิน)
   2. ในแผงตัวกรองด้านข้าง ให้ขยายส่วนการกระทําที่ถือเป็น Conversion
   3. เลือกการกระทําที่ถือเป็น Conversion อย่างน้อย 1 รายการเพื่อจํากัดเมตริกพื้นฐานให้เป็นการกระทําที่เลือกเท่านั้น หากไม่ได้เลือกการกระทำ ระบบจะไม่กรองเมตริก
4. ตั้งชื่อคอลัมน์ที่กําหนดเอง แล้วคลิกบันทึก

เมื่อบันทึกคอลัมน์ที่กําหนดเองเป็นครั้งแรกแล้ว "รูปแบบข้อมูล" ของคอลัมน์นั้นจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้

หากคุณกําลังแก้ไขคอลัมน์ที่กําหนดเองที่มีอยู่และทําการเปลี่ยนแปลงสูตรที่จะเปลี่ยนเอาต์พุตของสูตรระหว่างค่าตัวเลข ค่าข้อความ ค่าจริง/เท็จ และค่าวันที่ คุณจะได้รับแจ้งจากระบบโดยอัตโนมัติให้บันทึกการเปลี่ยนแปลงเป็นคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง

หากต้องการเปลี่ยน "รูปแบบข้อมูล" ระหว่าง "ตัวเลข" "เปอร์เซ็นต์" และ "สกุลเงิน" ให้คัดลอกสูตรปัจจุบันไปยังคอลัมน์ใหม่ที่กําหนดเอง

เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้ข้อความในสูตร ข้อความจะอยู่ในเครื่องหมายคําพูดคู่ หากต้องการใส่เครื่องหมายคําพูดคู่ในข้อความ ให้ "กำหนดเป็นอักขระหลีก" โดยวางเครื่องหมายคําพูดคู่ 2 คู่ติดกัน วิธีนี้จะใช้ได้กับทุกที่ที่มีการใช้เครื่องหมายคำพูดคู่ในสูตร รวมถึงค่าคงที่ข้อความ การอ้างอิงไปยังคอลัมน์อื่นๆ ที่กําหนดเอง และค่าตัวกรอง

เช่น หากต้องการแสดง My “Fast” Flowers เป็นค่าของคอลัมน์ที่กำหนดเอง คุณสามารถเขียน "My ""Fast"" Flowers" เป็นสูตรได้

ค่าของคอลัมน์ที่กําหนดเองในแถวสรุปจะคํานวณจากแถวในแนวนอน

ตัวอย่างเช่น หากคอลัมน์ A ที่กําหนดเองคือ Clicks > 10 และคอลัมน์ B ที่กําหนดเองคือ CTR * 2 ตารางอาจมีลักษณะตามตัวอย่างต่อไปนี้ โดยที่แถวที่ 3 คือแถวสรุป

คอลัมน์ที่กําหนดเองบางคอลัมน์อาจไม่มีค่าใดๆ ในแถวสรุป (หรืออาจมีเครื่องหมายขีดกลางแสดงอยู่) แม้ว่าอาจมีค่าในแถวอื่นๆ ก็ตาม สืบเนื่องจากเหตุผลต่อไปนี้

• "รูปแบบข้อมูล" ของคอลัมน์ที่กําหนดเองเป็น "ข้อความ" ค่า "จริง/เท็จ" หรือ "วันที่"
• สูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองประกอบด้วยคอลัมน์ที่ไม่มีค่าที่เพิ่มได้ (เช่น ชื่อแคมเปญ) หรือประกอบด้วยคอลัมน์ที่กําหนดเองอีกคอลัมน์หนึ่งซึ่งมีคอลัมน์ที่เพิ่มไม่ได้ในสูตรของคอลัมน์

คุณไม่สามารถใช้คอลัมน์ที่กําหนดเองบางคอลัมน์ในแผนภูมิได้ สืบเนื่องจากเหตุผลต่อไปนี้

• "รูปแบบข้อมูล" ของคอลัมน์ที่กําหนดเองเป็น "ข้อความ" ค่า "จริง/เท็จ" หรือ "วันที่"
• สูตรของคอลัมน์ที่กําหนดเองประกอบด้วยคอลัมน์ที่ไม่มีค่าที่เพิ่มได้ (เช่น ชื่อแคมเปญ) หรือประกอบด้วยคอลัมน์ที่กําหนดเองอีกคอลัมน์หนึ่งซึ่งมีคอลัมน์ที่เพิ่มไม่ได้ในสูตรของคอลัมน์

ในโหมดภาพ ชื่อคอลัมน์ ชื่อตัวกรอง และค่าของตัวกรองจะได้รับการแปลเป็นภาษาเดียวกับส่วนที่เหลือของ Google Ads อย่างไรก็ตาม ชื่อฟังก์ชันจะเหมือนกันไม่ว่าคุณจะใช้ภาษาใดก็ตาม โปรดดูรายชื่อฟังก์ชันต่างๆ ในรายการฟังก์ชัน

ในโหมดข้อความ ชื่อคอลัมน์ ชื่อตัวกรอง ค่าตัวกรอง และฟังก์ชันทั้งหมดจะเหมือนกันไม่ว่าค่ากําหนดภาษาของคุณจะเป็นภาษาใดก็ตาม ชื่อที่ใช้ในโหมดข้อความจะคล้ายกับชื่อในภาษาอังกฤษของแต่ละรายการ แต่จะมีการแก้ไขเพื่อไม่ให้รวมเว้นวรรคหรืออักขระพิเศษ โปรดดูรายการคอลัมน์ รายการตัวกรอง และรายการฟังก์ชันสําหรับรายการค่าที่อนุญาตทั้งหมด

ในทั้ง 2 โหมด ให้ใช้เครื่องหมายจุดเป็นตัวคั่นทศนิยม เช่น จำนวนห้าครึ่งก็จะเป็น 5.5 ไม่ใช่ 5,5 และไม่ใช้ตัวคั่นหลักพันในสูตร

นอกจากนี้ คอลัมน์ที่อาจเป็นชุดค่าข้อความคงที่ (เช่น คอลัมน์สถานะแคมเปญ) จะแสดงข้อความภาษาอังกฤษ (เช่น Enabled) เสมอเมื่อใช้ในสูตร ดูค่าที่อาจแสดงผลได้ในรายการคอลัมน์