บางครั้ง คุณอาจพบว่า App Campaign ของคุณมีการแสดงผลได้ไม่มากอย่างที่คาดหวัง หรือไม่สามารถใช้งบประมาณรายวันที่กําหนดจํานวนมากได้ บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่พบบ่อยซึ่งทําให้โฆษณาของคุณไม่แสดง และวิธีแก้ปัญหาโดยใช้เครื่องมือใน Google Ads
ก่อนเริ่มต้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเปิดใช้แคมเปญ
App Campaign อาจใช้เวลาสักพักจึงจะเริ่มแสดงผลหากเพิ่งเปิดใช้ เนื่องจากเหตุผลต่อไปนี้
- หากคุณทําการเปลี่ยนแปลงครีเอทีฟโฆษณาหรือชิ้นงานในแคมเปญที่สร้างขึ้นใหม่หรือที่มีอยู่แล้ว ระบบจะใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงในการตรวจสอบโฆษณาเพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดด้านนโยบายทุกข้อ
- ระบบต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อเรียนรู้และเพิ่มประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับ App Campaign คุณอาจเห็นความผันผวนหรือการใช้จ่ายที่ลดลงในระหว่างช่วงเตรียมพร้อมในขั้นแรกนี้
- Google Ads อาจใช้เวลาสักระยะเพื่อปรับการแสดงโฆษณาหากคุณได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าแคมเปญ
คำแนะนำ
คําแนะนําช่วยไฮไลต์โอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อ App Campaign ไม่ทํางานหรือมีการเข้าชมต่ำ เช่น คุณสามารถดูตัวอย่างประเภทคําแนะนําต่อไปนี้เมื่อแก้ปัญหาด้านล่าง
ประเภทคําแนะนําทั่วไปสำหรับแก้ไขแคมเปญที่ไม่ทํางาน
- แคมเปญยังไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงแล้ว
- สร้างหรือยกเลิกการหยุดกลุ่มโฆษณาชั่วคราว
- งบประมาณบัญชีหมดแล้ว
- โฆษณาทั้งหมดไม่ได้รับอนุมัติ
ประเภทคําแนะนําทั่วไปสำหรับแก้ไขการเข้าชมต่ำ
- ปรับเป้าหมาย CPA
- เพิ่มงบประมาณของคุณ
- ปรับปรุงคุณภาพของโฆษณาแอป
- นําแคมเปญที่แย่งรายได้ออก
หากโฆษณาไม่ได้รับการแสดงผลหลังผ่านไป 3 วันทําการ ให้ตรวจสอบสาเหตุทั่วไปที่ระบุไว้ในบทความนี้
สาเหตุทั่วไป 10 ข้อที่อาจทําให้โฆษณาไม่ทํางานหรือได้รับการเข้าชมต่ำ
1. ปัญหาเกี่ยวกับบัญชี
หากบัญชีถูกระงับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินในบัญชี คุณจะแสดงโฆษณาไม่ได้จนกว่าจะแก้ไขปัญหา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องปัญหาเกี่ยวกับบัญชี
2. ช่วงวันที่ รวมถึงวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดแคมเปญ
Google Ads จะแสดงข้อมูลประสิทธิภาพของช่วงวันที่ที่คุณเลือก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงวันที่ รวมถึงวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดแคมเปญ
3. เป้าหมายราคาเสนอต่ำและเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพ
แม้ว่าระบบจะสามารถแสดงโฆษณาได้โดยใช้ราคาเสนอที่ต่ำมาก แต่แคมเปญของคุณก็มีแนวโน้มที่จะไม่ชนะหรือเข้าสู่การประมูลมากนัก และอาจทำให้โฆษณาไม่มีการแสดงผลเลย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายราคาเสนอต่ำและเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพ
4. การกําหนดเป้าหมายแคบเกินไป
แม้ว่าการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายจะช่วยให้คุณพบกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสมและสนใจธุรกิจของคุณมากที่สุด แต่ทุกครั้งที่เพิ่มการกําหนดเป้าหมายหรือมีปัญหาเกี่ยวกับรายการรีมาร์เก็ตติ้ง จะเป็นการจํากัดโอกาสในการเข้าถึงของโฆษณาให้แคบลงได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมายแคบเกินไป
5. การกําหนดเป้าหมายทับซ้อนกับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาอื่นๆ
คุณอาจมีแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาหลายรายการในบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าสู่การประมูลที่ทับซ้อนกัน เนื่องจากใช้คีย์เวิร์ดหรือการกําหนดเป้าหมายอื่นๆ ที่คล้ายกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมายทับซ้อนกับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาอื่นๆ
6. เครื่องมือวัด Conversion
หากแคมเปญใช้การเสนอราคาอัตโนมัติในการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion แต่ไม่ได้รับข้อมูล Conversion มากพอ หรือตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ไม่ถูกต้อง โฆษณาอาจแสดงแบบจำกัด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion
7. สถานะการตรวจสอบนโยบายโฆษณา
สถานะการตรวจสอบโฆษณา รายการรีมาร์เก็ตติ้ง หรือชิ้นงานอาจส่งผลต่อความสามารถในการแสดงโฆษณาของแคมเปญ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะการตรวจสอบนโยบายโฆษณา
8. ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณามีความครอบคลุมต่ำและไม่หลากหลาย (คุณภาพของโฆษณา)
App Campaign ที่มีชุดโฆษณาหรือชิ้นงานไม่มากอาจแสดงโฆษณาได้ยาก เนื่องจากมีสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลได้น้อยกว่าและเข้าถึงได้น้อยลง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณามีความครอบคลุมต่ำและไม่หลากหลาย (คุณภาพของโฆษณา)
9. สถานะแอป
สถานะของแอปใน Google Play หรือ Apple App Store อาจจํากัดหรือป้องกันไม่ให้ App Campaign แสดงโฆษณา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะแอป
10. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประมูล
ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ที่เข้าร่วมการประมูลเดียวกับคุณอาจส่งผลต่อการแสดงโฆษณาของแคมเปญ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประมูล