คู่มือการเริ่มต้นใช้งาน Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวคือแคมเปญแบบหลายช่องทางที่อิงตามเป้าหมายซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มการจองโรงแรมโดยตรง แคมเปญนี้ใช้ประโยชน์จาก AI ของ Google อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้โรงแรมเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นแขกที่เหมาะสมในช่องทางและพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ Google ได้ด้วยการตั้งค่าง่ายๆ ครั้งเดียว

ฟีเจอร์หลัก

  • ใช้ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่สร้างไว้ล่วงหน้า (รูปภาพ บรรทัดแรก คําอธิบาย และ URL)
  • แสดงในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับที่พัก
  • วัดประสิทธิภาพด้วยการรายงานสำหรับที่พักแต่ละแห่ง
  • ใช้คำแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย "สร้างขึ้นเพื่อคุณ" สำหรับการท่องเที่ยวในการกำหนดเป้าหมาย

บทความนี้เป็นคู่มือเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานและใช้ Performance Max กับแคมเปญโฆษณาโรงแรม


ในบทความนี้


ข้อดี

  • ค้นพบแขกจํานวนมากขึ้นและเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าที่ทํา Conversion แคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวออกแบบมาเพื่อช่วยโรงแรมเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และดึงดูดแขกให้มาเข้าพักโดยเฉพาะ โดยจะขยายการเข้าถึงด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพรูปแบบโฆษณาและพื้นที่โฆษณาที่เพิ่มเข้ามาใหม่ รวมถึงใช้การกําหนดเป้าหมายอัตโนมัติเพื่อระบุผู้มีโอกาสเป็นแขกใหม่ที่กําลังมองหาที่พักคล้ายกับของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้พบกับผู้มีโอกาสเป็นแขกที่คุณนึกไม่ถึงมาก่อน
  • ตั้งค่าได้ง่าย AI ของ Google จะแนะนําข้อความ, รูปภาพ, URL และองค์ประกอบอื่นๆ สําหรับที่พักแต่ละแห่งที่คุณวางแผนจะโปรโมต แล้วรวบรวมไว้เป็นกลุ่มชิ้นงาน คุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าข้อความและชิ้นงานใดเหมาะกับที่พักหนึ่งๆ มากที่สุด รวมถึงเป็นผู้กําหนดเกณฑ์งบประมาณและเป้าหมายการจองของแต่ละแคมเปญ
  • บำรุงรักษาได้ง่าย แคมเปญนี้จะจัดการรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่การเสนอราคาอัตโนมัติ การสร้างความสมดุลระหว่างโฆษณากับพื้นที่โฆษณา ไปจนถึงการเลือกชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดเพื่อแสดงต่อผู้มีโอกาสเป็นแขก ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการจองด้วยงบประมาณที่มี
  • เข้าใจได้ง่าย Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวจะระบุเฉพาะเมตริกที่สําคัญต่อธุรกิจเท่านั้น คุณสามารถใช้การรายงานต่อที่พักแบบง่ายเพื่อติดตามและแชร์ประสิทธิภาพของแคมเปญสำหรับสถานที่แต่ละแห่งแยกกันได้

ตำแหน่งที่โฆษณาจะปรากฏ

แคมเปญ Performance Max จะปรากฏในทุกช่องทางของ Google เช่น YouTube, Display, Search, สำรวจ, Gmail, Maps และ Travel ส่วน Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว เราจะใช้การกําหนดเป้าหมายคำของที่พักแบบอัจฉริยะใน Search เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแคมเปญที่มีอยู่ด้วย


ขั้นตอนการสร้างแคมเปญ

ก่อนสร้างแคมเปญ: ในการกระตุ้นให้แคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนําให้ตั้งค่าการวัด Conversion ตามแนวทางต่อไปนี้

  • ตั้งค่าในเว็บไซต์ของคุณเอง
  • ทำงานร่วมกับ IBE (เครื่องมือการจองทางอินเทอร์เน็ต) ในการใช้การวัด Conversion ในหน้ายืนยันที่เกี่ยวข้องซึ่งธุรกรรมการจองเสร็จสมบูรณ์

ดูวิธีตั้งค่าการวัด Conversion สําหรับแคมเปญโรงแรมและแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกแคมเปญ
  4. คลิกปุ่มบวก Add แล้วเลือกแคมเปญใหม่
  5. เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญเป็น "ยอดขาย"
    • หมายเหตุ: ทั้งวัตถุประสงค์ "ยอดขาย" และวัตถุประสงค์ที่ "ไม่มีคำแนะนำของเป้าหมาย" จะแสดงโมดูลการเลือกโรงแรมสําหรับแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว แต่แนวทางปฏิบัติแนะนําคือให้ใช้วัตถุประสงค์ "ยอดขาย" ปัจจุบันเป้าหมายประเภทอื่นๆ ยังใช้ร่วมกันไม่ได้
  6. เลื่อนลง แล้วเลือกเป้าหมาย Conversion การซื้อ
    • แนวทางปฏิบัติแนะนํา: แคมเปญสามารถมีเป้าหมายอื่นๆ เช่น การโทรหรือโอกาสในการขาย แต่เราขอแนะนําให้ใช้เฉพาะเป้าหมายการซื้อในแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว
    • หมายเหตุ: เป้าหมายการเข้าชมร้านค้าใช้ร่วมกับแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวไม่ได้
  7. คลิกต่อไป
  8. เลือกประเภทแคมเปญเป็น Performance Max แล้วเลือกโรงแรมในส่วน "คุณกำลังโฆษณาอะไร"
  9. เลือกแหล่งที่มาของฟีดที่พักที่ต้องการ ตัวเลือกในการเลือกที่พักเมื่อสร้างแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวมีดังนี้
    • ตัวเลือก 1: เลือกฟีดข้อมูลที่มีอยู่หรือสร้างฟีดข้อมูลใหม่ในขั้นตอนการสร้างแคมเปญ Google Ads ซึ่งให้คุณเลือกโรงแรมจากเครื่องมือเลือกโรงแรมได้
      • หมายเหตุ: คุณกำลังสร้างแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวโดยไม่ใช้บัญชี Hotel Center ซึ่งหมายความว่าราคาห้องพักที่ใช้กับโฆษณาเป็นราคาที่ Google ได้จากบุคคลที่สามโดยมีข้อจำกัด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาที่ Google ได้จากบุคคลที่สามสำหรับโฆษณาโรงแรม
      • คุณเพิ่มโรงแรมได้สูงสุด 100 แห่งต่อแคมเปญ
        หน้าต่าง "สร้างฟีดข้อมูลใหม่" ให้คุณเลือกโรงแรมจากเครื่องมือเลือกที่พัก
    • ตัวเลือก 2: ลิงก์ Hotel Center (แนะนำหากคุณมีบัญชี Hotel Center ของตัวเอง)
      คุณลิงก์แคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวกับบัญชี Hotel Center ได้ ในบัญชี Hotel Center ให้เลือกที่พักที่ต้องการลิงก์ (สูงสุด 100 แห่ง) เพื่อใช้กับแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว สิ่งที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้
      • "ใช้โรงแรมในบัญชี Hotel Center" มีไว้สำหรับผู้ลงโฆษณาที่ลิงก์บัญชี Hotel Center กับบัญชี Google Ads เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีลิงก์บัญชี
      • หากบัญชี Hotel Center มีที่พักมากกว่า 100 แห่ง คุณต้องเลือกที่พักไม่เกิน 100 แห่งเมื่อลิงก์บัญชีกับ Google Ads ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้บัญชี Hotel Center ที่ลิงก์ในแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวได้
        • หากคุณมีที่พักมากกว่า 100 แห่งที่ต้องการลิงก์จากบัญชี Hotel Center ให้ใช้ Google Ads API
      • คุณเชื่อมต่อบัญชี Hotel Center หลายบัญชี (ที่ต่างกัน) กับบัญชี Google Ads ได้เพียงบัญชีเดียว
      • คุณเชื่อมต่อบัญชี Hotel Center เดียวกันกับบัญชี Google Ads เดียวกันได้เพียงครั้งเดียว
      • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการการเชื่อมต่อที่มีอยู่แล้วระหว่างบัญชี Google Ads กับบัญชี Hotel Center
    • ตัวเลือก 3: อัปโหลดโรงแรมหลายแห่งพร้อมกันโดยใช้ URL ของ Google Maps
      ผู้ลงโฆษณาโรงแรมที่ไม่มีบัญชี Hotel Center ให้ลิงก์หรือไม่ได้ใช้แหล่งที่มาของฟีดข้อมูลโรงแรมของ Google สามารถสร้าง "ฟีดที่พัก” โดยใช้ URL ของ Google Maps ได้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างฟีดที่พักโดยใช้ URL ของ Google Maps
      • หมายเหตุ: หลังจากเผยแพร่แคมเปญแล้ว คุณจะเปลี่ยนฟีดที่แคมเปญใช้อยู่ไม่ได้ แต่เพิ่มหรือนำที่พักในฟีดที่ใช้อยู่ออกได้
  10. ป้อนชื่อแคมเปญ แล้วคลิกดำเนินการต่อ
  11. ในหน้าต่างป๊อปอัป ให้เลือก "ฉบับร่างที่บันทึกไว้" หรือคลิกเริ่มใหม่เพื่อสร้างแคมเปญใหม่
  12. ป้อนข้อมูล "งบประมาณและการเสนอราคา" ของแคมเปญ แล้วคลิกถัดไป
  13. ในหน้า "การตั้งค่าแคมเปญ" ให้เลือก "สถานที่ตั้ง" ที่ต้องการเข้าถึง แล้วเลือกภาษาที่จะกําหนดเป้าหมาย
    • หมายเหตุ: เราขอแนะนําให้ใช้ภาษาปลายทางภาษาเดียวต่อแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว หากมีการกําหนดเป้าหมายหลายภาษา Google จะใช้ภาษาแรกที่ป้อนเพื่อสร้างชิ้นงานข้อความอัตโนมัติ
  14. ในส่วนชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ เราขอแนะนำให้ยกเลิกการเลือกช่อง URL สุดท้ายหากคุณมีที่พักมากกว่า 1 แห่งในโดเมน
    • หมายเหตุ: หากคุณมีที่พักแห่งเดียวในโดเมนหรือกำหนดเป้าหมายที่พักทั้งหมดในโดเมน เราขอแนะนำให้เลือกช่อง Final URL Expansion ไว้
  15. (ไม่บังคับ) ในส่วน "การตั้งค่าเพิ่มเติม" ให้ป้อน "วันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด" แล้วคลิกถัดไป
  16. ในหน้า "โลโก้เริ่มต้น" ให้คลิก + โลโก้ เพื่อเพิ่มโลโก้ที่จะใช้เป็นค่าเริ่มต้นของทุกโรงแรมในแคมเปญ
    หมายเหตุ: ข้ามการเพิ่มโลโก้ในแคมเปญที่ระดับนี้ได้ หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มหรือแก้ไขโลโก้ต่อกลุ่มชิ้นงานได้ภายหลังในการสร้างและหลังสร้างแคมเปญ
    อินเทอร์เฟซผู้ใช้สําหรับการตั้งค่าโลโก้เริ่มต้นในแคมเปญ Performance Max
  17. คลิกบันทึก แล้วคลิกถัดไป
  18. ในหน้า "กลุ่มชิ้นงาน" ให้คลิกแก้ไขเพื่อทําการเปลี่ยนแปลงกลุ่มชิ้นงานที่สร้างไว้
    • ในหน้าต่างป๊อปอัป คุณสามารถแก้ไขชื่อกลุ่มชิ้นงาน, URL ของหน้า Landing Page, วิดีโอ และชิ้นงานอื่นๆ ในแผงด้านซ้าย
    • หมายเหตุ: Google มีรูปภาพของโรงแรมหลายแห่งไว้ให้ และผู้ลงโฆษณาใส่รูปภาพของตนเองเพิ่มเติมได้เสมอ อาจมีกรณีที่ Google เรียกข้อมูลรูปภาพไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ ให้พาร์ทเนอร์อัปโหลดรูปภาพของตนเองหรือสแกนเว็บไซต์และเว็บไซต์โซเชียลมีเดียเพื่อดึงรูปภาพ
    • ตอนนี้ AI ของ Google จะรวมคำแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย "สร้างขึ้นเพื่อคุณ" สำหรับการท่องเที่ยวไว้ให้กลุ่มชิ้นงานแต่ละกลุ่ม ซึ่งคุณจะแก้ไขโดยสร้างลักษณะตัวตนใหม่และ/หรือเปลี่ยนไปใช้กลุ่มชิ้นงานที่สร้างไว้ก่อนหน้าก็ได้ เราจะใช้ข้อมูลโรงแรมที่มีอยู่ของ Google (สถานที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก การให้ดาว) เพื่อเพิ่มคำแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายสำหรับที่พักแต่ละแห่งที่คุณเลือกโดยอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
    • ดูวิธีเพิ่มกลุ่มชิ้นงานอื่นๆ
      อินเทอร์เฟซผู้ใช้สําหรับการเพิ่มกลุ่มชิ้นงานในแคมเปญ Performance Max
  19. คลิกบันทึก แล้วคลิกถัดไป
  20. เพิ่มชิ้นงานที่ต้องการในหน้า "ชิ้นงาน" ในส่วนชิ้นงานเพิ่มเติม คุณสามารถใส่ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ข้อมูลเพิ่มเติม ราคา โปรโมชัน และข้อความไฮไลต์ จากนั้นคลิกถัดไป
    อินเทอร์เฟซผู้ใช้สำหรับการเพิ่มชิ้นงานในแคมเปญ Performance Max
  21. ตรวจสอบแคมเปญ แล้วคลิกเผยแพร่แคมเปญ
    • หมายเหตุ: หากไม่ได้กรอกช่องใดในขั้นตอนนี้ คุณจะได้รับข้อผิดพลาดในหน้า "ตรวจสอบแคมเปญ"

คำถามที่พบบ่อย

Performance Max เทียบกับ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

  1. ผู้ลงโฆษณาจะใช้งานแคมเปญ Performance Max และแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวร่วมกันได้ไหม

ในทางเทคนิค คุณอาจใช้งานทั้งแคมเปญ Performance Max และแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวที่กําหนดเป้าหมายเป็นสถานที่ตั้งและภาษาเดียวกันได้ แต่เราไม่แนะนําอย่างยิ่ง เนื่องจากแคมเปญจะแข่งขันกันเองและมีลักษณะการทํางานที่ไม่คาดคิด ผู้ลงโฆษณาเพิ่มกลุ่มชิ้นงานลงในแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ไม่เจาะจงที่พักได้ ซึ่งจะทำงานเหมือนกับแคมเปญ Performance Max ทุกประการ

ทั้งนี้ คุณสามารถใช้งานแคมเปญ Performance Max และแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวร่วมกันโดยกําหนดเป้าหมายสถานที่ตั้งหรือภาษาที่แตกต่างกัน

แนวทางปฏิบัติแนะนำในการสร้างแคมเปญ

  1. ผู้ลงโฆษณาควรสร้างแคมเปญกี่รายการ

จํานวนแคมเปญควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

  • ที่พักมีงบประมาณที่กําหนดเองแบบแยกกัน หรือมีเป้าหมาย ROI แยกกันหรือไม่
  • แคมเปญแสดงในภาษาที่แตกต่างกันหรือไม่
  • จํานวนกลุ่มชิ้นงานที่ต้องใช้ ปัจจุบันมีการจำกัดกลุ่มชิ้นงาน (ที่พัก) ไว้ที่ 100 กลุ่มต่อแคมเปญ
  1. ฉันควรใช้งานแคมเปญในตลาดหลักที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างไร

คุณต้องมีแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวจำนวนมากพอจึงจะได้ผลลัพธ์ที่มีความหมาย เราขอแนะนําให้รวมตลาดและที่พักซึ่งมีการเข้าชมและประสิทธิภาพในปัจจุบันใกล้เคียงกับความคาดหวังของผู้ลงโฆษณา

  1. ฉันต้องตั้งค่าการวัด Conversion สําหรับ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวไหม

ใช่ เราขอแนะนำให้ตั้งค่าเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

ไม่ว่าจะมีฟีดโรงแรมของตนเองหรือใช้ฟีดข้อมูลธุรกิจที่ Google มีให้ ผู้ลงโฆษณาควรใช้การวัด Conversion ใน URL ของตนเอง และทํางานร่วมกับ IBE (เครื่องมือการจองทางอินเทอร์เน็ต) เพื่อใช้การวัด Conversion ในหน้ายืนยันการจองของ IBE เพื่อบันทึก Conversion ทั้งหมดจากรหัสลูกค้าหนึ่งๆ อย่างถูกต้อง

ผู้ลงโฆษณาสามารถไปที่แท็บโรงแรมใน Google Ads เพื่อตรวจสอบว่าโฆษณาแสดงใน URL ของลิงก์การจองที่ไม่ได้อยู่ในเว็บไซต์ของตนเองหรือไม่ หาก URL ของลิงก์การจองเป็นเว็บไซต์การจองของบุคคลที่สาม (IBE) คุณต้องวางแท็กการวัด Conversion ในหน้ายืนยันการจองของ IBE

สําหรับการวัด Conversion ออฟไลน์ โปรดดูวิธีตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์โดยใช้ Google Click ID (GCLID)

  1. หากไม่มีบัญชี Hotel Center เป็นของตัวเอง ฉันจะยืนยันได้อย่างไรว่าโฆษณาใช้ URL ของลิงก์การจองใด และการตั้งค่าการวัด Conversion ถูกต้องและทริกเกอร์สำหรับที่พักที่โปรโมตหรือไม่

Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวจะแสดงโฆษณาโรงแรม และโฆษณาโรงแรมที่แสดงจะใช้ URL ของลิงก์การจองจากฟีด Hotel Center ไม่ใช่ URL ที่ระบุไว้ในกลุ่มชิ้นงาน Google Ads คุณดู URL ของลิงก์การจองที่ใช้ได้จากแท็บโรงแรมใน Google Ads

ผู้ลงโฆษณาสามารถไปที่แท็บโรงแรมใน Google Ads เพื่อตรวจสอบว่าโฆษณาแสดงใน URL ของลิงก์การจองที่ไม่ได้อยู่ในเว็บไซต์ของตนเองหรือไม่ หาก URL ของลิงก์การจองเป็นเว็บไซต์การจองของบุคคลที่สาม (IBE) คุณควรตรวจสอบว่าได้วางแท็กการวัด Conversion ในหน้ายืนยันการจองของ IBE หรือขอให้ IBE เปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้ายืนยันหรือหน้า "ขอบคุณ" ในเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา แล้ววางแท็กการวัด Conversion ในหน้าที่สร้างขึ้นใหม่

ผู้ลงโฆษณาควรตรวจสอบสถานะการกระทำที่ถือเป็น Conversion อีกครั้งเพื่อดูว่าตั้งค่าการวัด Conversion ถูกต้องหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสถานะการวัด Conversion

  1. เมื่อสร้างแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวใหม่หรือแก้ไขแคมเปญที่มีอยู่ ฉันจะคัดลอกกลุ่มชิ้นงานจากแคมเปญอื่นที่เป็นประเภทเดียวกันนี้มาได้ไหมหากวางแผนจะใช้ที่พักเดียวกัน

ไม่ได้ แต่คุณสามารถทำอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 2 สถานการณ์ต่อไปนี้

สถานการณ์ที่ 1: หากผู้ลงโฆษณากําลังสร้างแคมเปญใหม่ ให้ใช้ฟีดที่พักที่มีอยู่หรือสร้างฟีดใหม่เพื่อสร้างกลุ่มชิ้นงาน

สถานการณ์ที่ 2: หากผู้ลงโฆษณากำลังแก้ไขแคมเปญที่มีอยู่ ให้ดูวิธีเพิ่มกลุ่มชิ้นงาน (โรงแรม) อีกในแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

การตรวจสอบประสิทธิภาพ

  1. ฉันควรเริ่มตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวเมื่อใด

เราขอแนะนําให้รออย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนประเมินประสิทธิภาพ เพื่อให้ระบบมีข้อมูลเพียงพอที่จะกําหนดเป้าหมายและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญสําหรับ Performance Max

  1. ฉันสังเกตเห็นว่า ROAS (ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา) ของแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวลดลงหลังจากระยะเวลาเรียนรู้ 6 สัปดาห์ และฉันได้เพิ่มประสิทธิภาพทุกจุดตามคําแนะนําของ Google Ads แล้ว

โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Google เนื่องจากปัญหานี้อาจเกิดจากการใช้การวัด Conversion ไม่ถูกต้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
12356633765531235164
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false