เกี่ยวกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง

ใส่ข้อมูลสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงลงในโฆษณาโดยสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง ชิ้นงานสถานที่ตั้งช่วยให้โฆษณาแสดงข้อมูล เช่น ที่อยู่ร้านค้า แผนที่มายังสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริง หรือระยะการเดินทางโดยประมาณเพื่อช่วยให้ผู้ใช้พบร้านค้าของคุณได้

ตอนนี้ชิ้นงานสถานที่ตั้งครอบคลุมการใช้งาน 2 กรณีต่อไปนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้

  • เดิมคือส่วนขยายสถานที่ตั้ง: ใช้ หากคุณเป็นเจ้าของสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงโดยตรง
  • เดิมคือส่วนขยายสถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต: ใช้ในกรณีที่คุณขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง (ซึ่งรวมถึงการผลิตและการรวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการที่จำหน่ายผ่านร้านค้าดังกล่าว)

บทความนี้แสดงภาพรวมของชิ้นงานสถานที่ตั้ง วิธีสร้าง และวิธีนําออก นอกจากนี้ยังมีคําแนะนําโดยละเอียดเกี่ยวกับการลิงก์บัญชี Business Profile รวมถึงวิธีลิงก์ชิ้นงานสถานที่ตั้งกับ Business Profile

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ลงโฆษณาที่เป็นเจ้าของร้านค้าโดยตรงหรือเป็นผู้ผลิตที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ คุณสามารถใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้ ดูตัวอย่างวิธีใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ด้านล่าง

Getting started on Location Assets | Google Ads

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


หากคุณเป็นเจ้าของสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงโดยตรง

หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าโดยตรง โฆษณาที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมและเข้าเยี่ยมชมธุรกิจของคุณ

ตัวอย่างสำหรับเครือข่าย Search

ขมิ้นเป็นเจ้าของร้านขายขนมเบเกอรี่ เธอต้องการดึงดูดลูกค้ามาที่หน้าร้านจริง จึงเพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้งลงในแคมเปญ เมื่อมีผู้คนในบริเวณใกล้เคียงค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้คีย์เวิร์ดของขมิ้น ("ร้านเบเกอรี่อร่อยแถวนี้" หรือ "ขนมปังอบใหม่") ชิ้นงานก็จะมีสิทธิ์แสดงและอาจให้ข้อมูลต่อไปนี้แก่คนรักขนมปัง

  • ระยะทางมาถึงร้านและเมืองที่ตั้งอยู่ (อุปกรณ์เคลื่อนที่)
  • ที่อยู่ของร้าน (คอมพิวเตอร์)
  • ปุ่ม "โทร" ที่คลิกได้
  • ลิงก์ที่แตะหรือคลิกได้เพื่อเข้าถึงหน้ารายละเอียดของที่ตั้งร้าน ซึ่งมีข้อมูลต่างๆ เช่น เวลาทำการ หมายเลขโทรศัพท์ รูปภาพ และเส้นทาง

ชิ้นงานสถานที่ตั้งยังทํางานร่วมกับแคมเปญ Performance Max ได้ด้วย

ตัวอย่างสำหรับ YouTube

ร้านขายเสื้อผ้าปลีกขนาดใหญ่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมาย "แฟชั่นนิสต้า" ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ที่ดูเสื้อผ้าออนไลน์มาซื้อที่ร้าน ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าของร้านจึงสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งในโฆษณา YouTube ขึ้นมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้

  1. รูปแบบชิ้นงานสถานที่ตั้งจะแสดง "ทีเซอร์" ของข้อมูลทางธุรกิจไปพร้อมกับโฆษณา YouTube
  2. เมื่อผู้ใช้คลิกหรือแตะชิ้นงานสถานที่ตั้งในโฆษณาสุดท้าย ระบบจะแสดงหน้าสถานที่ตั้งซึ่งมีข้อมูลทางธุรกิจเพิ่มเติม เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และเวลาทําการ
  3. โดยจะเลือกร้านค้าที่แสดงในโฆษณาสุดท้ายตามตําแหน่งของผู้ใช้หรือสถานที่ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ

หากคุณขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง (ผู้ผลิตและผู้รวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการที่จำหน่ายผ่านร้านค้าดังกล่าว)

หากคุณเป็นผู้ผลิตที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ คุณสามารถใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อช่วยให้ผู้คนพบร้านค้าใกล้เคียงที่ขายผลิตภัณฑ์ของคุณ

ตัวอย่างสำหรับเครือข่าย Search

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ในเครือข่าย Search

  1. ผู้ใช้ค้นหาผลิตภัณฑ์ใน Google
  2. โฆษณาแสดงพร้อมกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง
  3. ผู้ใช้เห็นร้านค้าที่ใกล้ที่สุดที่ขายผลิตภัณฑ์ของคุณ ซึ่งอาจแสดงเป็นที่อยู่หรืออยู่ในแผนที่
  4. หากใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้ใช้จะแตะเพื่อขอเส้นทางไปร้านค้าได้
  5. ผู้ใช้เดินทางไปที่ร้านค้าและซื้อผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างสำหรับ YouTube และเครือข่าย Display

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ในเครือข่าย Display หรือใน YouTube

  1. ผู้ใช้จากกลุ่มประชากรที่กำหนดเป้าหมายเรียกดูเว็บไซต์หรือแอปในเครือข่าย Display หรือดูวิดีโอใน YouTube
  2. ผู้ใช้อยู่ใกล้หรือแสดงความสนใจพื้นที่ที่ขายผลิตภัณฑ์
  3. โฆษณา Display หรือโฆษณาวิดีโอแสดงพร้อมกับชิ้นงานสถานที่ตั้งซึ่งระบุระยะทาง เวลาทำการ และสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริง
  4. ผู้ใช้เห็นโฆษณา คลิก "เส้นทาง" และไปที่ร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์

ตำแหน่งที่แสดง

ชิ้นงานสถานที่ตั้งแสดงข้อมูลทางธุรกิจของคุณในรูปแบบต่างๆ ได้ในเครือข่าย Search, เครือข่าย Display, YouTube และ Google Maps ทั้งในอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์

เครือข่าย Search ของ Google: โฆษณาที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งจะปรากฏเป็นโฆษณาแบบข้อความมาตรฐานพร้อมสถานที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณในเครือข่าย Search สำหรับบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ปุ่ม "โทร" ที่คลิกได้อาจแสดงแทนที่หมายเลขโทรศัพท์

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง 2 รายการ ตัวอย่างหนึ่งสำหรับผู้ลงโฆษณาที่มีสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงเป็นของตนเอง และอีกตัวอย่างสำหรับผู้ผลิตที่มีสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงของแอฟฟิลิเอต

หากคุณเป็นเจ้าของสถานที่ตั้งของหน้าร้านจริงโดยตรง

This illustration shows the location extensions of your Google Search Ad.

หากคุณขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง (ผู้ผลิตและผู้รวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการที่จำหน่ายผ่านร้านค้าดังกล่าว)

This animation shows the affiliate store location extension of your Google Search Ad.

  • เว็บไซต์การค้นหาของ Google เช่น Google Maps: สถานที่ตั้งจะปรากฏที่ด้านข้าง ด้านบน หรือด้านล่างของผลการค้นหาใน Google Maps รวมถึงในแอป Maps
  • เครือข่ายพาร์ทเนอร์ Search: สถานที่ตั้งอาจแสดงในเว็บไซต์และแอปในเครือข่ายพาร์ทเนอร์ Search เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
  • เครือข่าย Display ของ Google: สถานที่ตั้งอาจแสดงในเว็บไซต์และแอปในเครือข่าย Display เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
    หมายเหตุ: ชิ้นงานสถานที่ตั้งในพื้นที่โฆษณา Display มีให้ใช้ผ่านแคมเปญในพื้นที่หรือ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้าเท่านั้น
  • โฆษณาวิดีโอบน YouTube: สถานที่ตั้งอาจแสดงในโฆษณา TrueView ในสตรีมและโฆษณาบัมเปอร์ใน YouTube เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
    สถานที่ตั้งจะเริ่มแสดงในโฆษณาวิดีโอ โดยที่โฆษณาวิดีโอจะแสดงข้อมูลสถานที่ตั้งธุรกิจจนกว่าคุณจะเลือกไม่แสดงข้อมูลดังกล่าว

วิธีสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง

คุณเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้งได้เพียง 1 ประเภทในแต่ละบัญชี หลังจากเลือกประเภทชิ้นงานสถานที่ตั้งแล้ว ระบบจะแจ้งให้คุณลิงก์แหล่งข้อมูลสถานที่ตั้งที่เกี่ยวข้องในบัญชี

ประเภทชิ้นงานสถานที่ตั้ง แหล่งข้อมูลสถานที่ตั้ง
คุณเป็นเจ้าของสถานที่ตั้งโดยตรง Google Business Profile หรือร้านค้าสาขา
คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ตั้ง แต่สถานที่ตั้งขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ร้านค้าสาขา (ผู้ค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์) หรือกลุ่มร้านค้าแบบแบ่งหมวดหมู่ (เช่น ร้านขายยาในฝรั่งเศส)

แต่ไม่ว่าจะเลือกประเภทใด สถานที่ตั้งที่เพิ่มก็มีสิทธิ์แสดงในโฆษณา Search, โฆษณา Display หรือโฆษณาวิดีโอในบัญชี หากได้รับอนุมัติผ่านกระบวนการยืนยันความสมบูรณ์แล้ว

หากทำเครื่องหมายธุรกิจหรือสถานที่ตั้งใน Business Profile เป็นปิดชั่วคราวหรือปิดถาวร ลูกค้าจะไม่เห็นชิ้นงานสถานที่ตั้ง Google Ads ของสถานที่ตั้งนั้นในโฆษณาสุดท้าย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทําเครื่องหมายสถานที่เป็นปิดแล้วใน Business Profile

หากต้องการกําหนดสถานที่ตั้งให้กับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง ให้สร้างกลุ่มสถานที่ตั้งเมื่อคุณสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง


การตั้งค่าที่ไม่บังคับ

คุณสามารถเลือกเปิดใช้การรายงานจํานวนการโทรเข้าได้ (เราขอแนะนําให้ใช้การตั้งค่านี้) แต่จะต้องเปิดการรายงานระดับบัญชีเพื่อดูการรายงานจำนวนการโทรเข้าจากชิ้นงานสถานที่ตั้ง ดูวิธีจัดการการรายงานจำนวนการโทรเข้าของแคมเปญ

ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์

จะมีการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อให้แน่ใจว่าหมายเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขของธุรกิจที่โปรโมต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์สำหรับชิ้นงานการโทรและชิ้นงานสถานที่ตั้ง


วิธีการ

เพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้ง

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. หากต้องการเพิ่มสถานที่ตั้งของเครือธุรกิจในบัญชี Google Ads โดยตรง หรือลิงก์ Business Profile ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

ใช้สถานที่ตั้งของเครือธุรกิจใน Google Ads

ข้อควรทราบ: สถานที่ตั้งของเครือธุรกิจจะอัปเดตอัตโนมัติเมื่อเปิด ย้าย หรือปิดร้านค้า ในขณะที่การอัปเดตสถานที่ตั้งในตัวจัดการ Business Profile อาจใช้เวลาถึง 1 วันจึงจะแสดงผลในบัญชี Google Ads

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. เลือกประเภทสถานที่ตั้งที่คุณต้องการโฆษณาจากตัวเลือกที่ระบุไว้ด้านล่าง
    1. สถานที่ตั้งของเรา
    2. สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
  6. คลิกต่อไป
  7. ในหน้าต่าง "เลือกสถานที่ตั้งสําหรับบัญชี" ให้เลือกร้านค้าสาขา
  8. เลือกประเทศของสถานที่ตั้ง
  9. คุณเลือกจำนวนสาขาจากรายการสำหรับประเทศนั้นๆ ได้ 1 สาขาหรือหลายสาขา
  10. คลิกต่อไป

คุณจะปรับแต่งสถานที่ตั้งเพิ่มเติมได้ที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา และยังเลือกได้ว่าจะเพิ่มสถานที่ตั้งระดับบัญชีทั้งหมด ใช้เพียงส่วนย่อยของสถานที่ตั้งระดับบัญชีโดยใช้กลุ่มสถานที่ตั้ง หรือเลือก "ไม่มีเครือร้านค้าปลีกของแอฟฟิลิเอต" เพื่อไม่ให้ชิ้นงานแสดงกับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง

ค้นหาและลิงก์กับ Business Profile

คุณยังสามารถลิงก์บัญชี Google Ads กับ Business Profile แล้วแสดงสถานที่ตั้งของ Business Profile เป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งใน Google Ads เพื่อเป็นทางเลือกให้กับร้านค้าแบบมีสาขา หรือหากสถานที่ตั้งของเครือธุรกิจไม่ได้อยู่ในรายการของ Google หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ คุณจะต้องเข้าถึงตัวจัดการ Business Profile ที่แสดงสถานที่ตั้งของคุณ

หมายเหตุ: การสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง (เดิมคือส่วนขยายสถานที่ตั้ง) โดยใช้ Business Profile หมายความว่าคุณอนุญาตให้ Google Ads ใช้ข้อมูลจาก Business Profile เพื่อจัดรูปแบบโฆษณาให้กับแคมเปญในบัญชี Google Ads ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เวลาทําการ รวมถึงรูปภาพและวิดีโอของผู้ขาย

ตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณอยู่ใน Business Profile แล้วหรือยัง (มีธุรกิจหลายแห่งที่อยู่แล้ว) หากมี Business Profile อยู่แล้ว อย่าสร้างใหม่ เนื่องจากการยืนยัน Business Profile จะใช้เวลานาน

หากธุรกิจยังไม่ได้มี Business Profile ให้เริ่มด้วยการสร้างบัญชี โปรดดูวิธีการในเริ่มต้นใช้งาน Business Profile

ลิงก์กับ Business Profile ที่คุณจัดการ

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. เลือกประเภทสถานที่ตั้งที่คุณต้องการโฆษณาจากตัวเลือกที่ระบุไว้ด้านล่าง
    1. สถานที่ตั้งของเรา
    2. สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
  6. คลิกต่อไป
  7. ในหน้าต่าง "เลือกสถานที่ตั้งสําหรับบัญชี" ให้เลือก Google Business Profile
  8. เลือกเลือกบัญชีตัวจัดการ Business Profile จากนั้นเลือกบัญชีจากเมนูแบบเลื่อนลง
  9. คลิกต่อไป
  10. ใช้ชื่อธุรกิจหรือตัวกรองป้ายกำกับ หากจำเป็น คลิกบันทึก

ลิงก์กับ Business Profile โดยใช้อีเมล

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. เลือกประเภทสถานที่ตั้งที่คุณต้องการโฆษณาจากตัวเลือกที่ระบุไว้ด้านล่าง
    1. สถานที่ตั้งของเรา
    2. สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
  6. คลิกต่อไป
  7. ในหน้าต่าง "เลือกสถานที่ตั้งสําหรับบัญชี" ให้เลือก Google Business Profile
  8. เลือกขอสิทธิ์เข้าถึงบัญชีตัวจัดการ Business Profile บัญชีอื่น. ป้อนอีเมลของบัญชี
  9. คลิกต่อไป คําขอจะส่งไปยังอีเมลของ Business Profile เมื่อคำขอได้รับอนุมัติ สถานที่ตั้งจากบัญชีนี้จะมีสิทธิ์แสดงเป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งพร้อมกับโฆษณา

ลิงก์ไปยัง Business Profile

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. เลือกประเภทสถานที่ตั้งที่คุณต้องการโฆษณาจากตัวเลือกที่ระบุไว้ด้านล่าง
    1. สถานที่ตั้งของเรา
    2. สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
  6. คลิกต่อไป
  7. ในหน้าต่าง "เลือกสถานที่ตั้งสําหรับบัญชี" ให้เลือก Google Business Profile
  8. เลือกป้อนโดเมนเพื่อขอสิทธิ์เข้าถึง
  9. โดเมนของคุณควรแสดงโดยอัตโนมัติ ไม่เช่นนั้น ให้กรอกโดเมนเพื่อหา Business Profile ที่เป็นไปได้
  10. เลือกประเทศโดยคลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ คลิกเสร็จสิ้น
  11. ค้นหา Business Profile ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุดในรายการด้านล่าง คลิกเลือก
  12. ตรวจสอบว่า Business Profile ที่ถูกต้องแสดงในตัวอย่าง แล้วคลิกต่อไป

คําขอจะส่งไปยังอีเมลของ Business Profile ที่คุณเลือก เมื่อคำขอได้รับอนุมัติ สถานที่ตั้งสำหรับบัญชีดังกล่าวจะมีสิทธิ์แสดงเป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งพร้อมกับโฆษณา

แก้ไขสถานที่ตั้งหรือป้ายกํากับสถานที่ตั้งใน Business Profile

  1. ระบุผู้ที่จัดการ Business Profile ของธุรกิจคุณ แล้วขอให้บุคคลนั้นเพิ่มอีเมล Google Ads ของคุณในฐานะเจ้าของหรือผู้จัดการ คุณอาจต้องส่งวิธีเพิ่มและนําเจ้าของและผู้จัดการกลุ่มสถานที่ตั้งออกใน Business Profile ให้ผู้ที่จัดการดังกล่าว
  2. หลังจากที่ผู้จัดการ Business Profile ส่งคําเชิญให้คุณไปยัง Business Profile ระบบจะส่งคําเชิญมายังอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google Ads คุณต้องรับคำเชิญ
  3. หลังจากรับคําเชิญจาก Business Profile แล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้ Business Profile เพื่อแก้ไขที่อยู่ ดูคำแนะนำได้ที่แก้ไข Business Profile ใน Google

เมื่อเป็นผู้จัดการ Business Profile แล้ว คุณจะลิงก์กับ Google Ads ได้โดยใช้วิธีการด้านบนกับตัวเลือก "หาและลิงก์กับ Business Profile ที่คุณจัดการ"

เลือกไม่ใช้รูปภาพของผู้ขายในโฆษณาในพื้นที่

ใช้ตัวจัดการสถานที่ตั้งเพื่อเลือกไม่ใช้รูปภาพของผู้ขายในโฆษณาในพื้นที่ ดูวิธีเลือกไม่ใช้ภาพสถานที่ที่ Google เป็นเจ้าของในตัวจัดการสถานที่ตั้ง

สร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญและกลุ่มโฆษณา

ก่อนที่จะทําตามขั้นตอนด้านล่าง โปรดตรวจสอบว่าคุณได้ตั้งค่าชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ระดับบัญชีแล้ว

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วคลิกสถานที่ตั้ง
  5. คุณสามารถเลือกเพิ่มแคมเปญได้ หากต้องการเพิ่มกลุ่มโฆษณา ให้คลิก "เพิ่มไปยัง" จากเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นเลือกแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่ต้องการเพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้งเข้าไป
  6. คุณจะเลือกสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาได้โดยใช้ 1 ใน 4 ตัวเลือกใต้เมนู "แสดงโฆษณาของฉันกับ"
    • สถานที่ตั้งที่ซิงค์ทั้งหมด: ใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งทั้งหมดที่ซิงค์ในระดับบัญชี
    • กลุ่มสถานที่ตั้ง: เลือกสถานที่ตั้งแต่ละแห่งที่จะใช้ในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา โดยคุณเลือกสถานที่ตั้งได้ไม่เกิน 20 แห่ง
    • ไม่มีชิ้นงานสถานที่ตั้ง: ปิดใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา หากคุณเลือกตัวเลือกนี้ ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะไม่แสดงในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เลือก
  7. คลิกบันทึก คุณดูการตั้งค่าชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาได้ในมุมมอง "การเชื่อมโยง" ของหน้าชิ้นงาน

นําชิ้นงานสถานที่ตั้งออก

วิธีปิดชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกสถานที่ตั้งจากเมนูแบบเลื่อนลง
  5. เลือกนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาโดยใช้เมนูแบบเลื่อนลง
  6. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไข จากนั้นเลือกช่องข้างแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่ต้องการนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออก
  7. เลือกไม่มีชิ้นงานสถานที่ตั้ง
  8. คลิกบันทึก

วิธีนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกจากทั้งบัญชี

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. ในหมวดหมู่เมนู คลิกชิ้นงานในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. ตอนนี้คุณจะเห็นตารางที่มีชิ้นงานทั้งหมด เลือกการเชื่อมโยง
  5. เลือกสถานที่ตั้งจากรายการเหนือแถบเครื่องมือตาราง
  6. เลือกช่องข้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับบัญชี
  7. คลิกนําออกในแถบสีน้ำเงินที่ด้านบน

สำคัญ: หากนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกจากบัญชี คุณจะใช้ที่ตั้งธุรกิจในการกำหนดเป้าหมายหรือเสนอราคาไม่ได้ และจะติดตาม Conversion การเข้าชมร้านค้าไม่ได้ เราจึงไม่แนะนำให้นำชิ้นงานสถานที่ตั้งออก

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
11564422006685844381
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false