บทความนี้จะอธิบายวิธีการคำนวณส่วนแบ่งการแสดงผล รวมทั้งบอกข้อแตกต่างจากแคมเปญ Shopping
หากต้องการทราบวิธีดูส่วนแบ่งการแสดงผลของแคมเปญแต่ละประเภท ให้อ่านวิธีดูข้อมูลส่วนแบ่งการแสดงผล
หากต้องการทราบวิธีการเพิ่มส่วนแบ่งการแสดงผลสําหรับแคมเปญทุกประเภท โปรดดูวิธีการปรับปรุงส่วนแบ่งการแสดงผล
เมตริกการแสดงผล 2 แบบจะติดตามโฆษณาของคุณว่าโดดเด่นมากน้อยเพียงใด โดยดูจากส่วนแบ่งการแสดงผล (IS) และส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ (ATIS)
ส่วนแบ่งการแสดงผล
ส่วนแบ่งการแสดงผล (IS) คือเปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลที่โฆษณาของคุณได้รับ เทียบกับจำนวนการแสดงผลทั้งหมดที่โฆษณามีสิทธิ์ได้รับ
ส่วนแบ่งการแสดงผล = การแสดงผล / การแสดงผลทั้งหมดที่มีสิทธิ์ได้รับ
ระบบจะคำนวณการแสดงผลที่มีสิทธิ์ได้รับโดยประมาณจากหลายปัจจัย เช่น การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมาย สถานะการอนุมัติ และคุณภาพ ข้อมูลส่วนแบ่งการแสดงผลดูได้ทั้งในระดับแคมเปญ กลุ่มโฆษณา กลุ่มผลิตภัณฑ์ (สำหรับแคมเปญ Shopping) และคำหลัก
คุณสามารถใช้ส่วนแบ่งการแสดงผลเพื่อดูว่าโฆษณาจะเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้นหรือไม่หากเพิ่มราคาเสนอหรืองบประมาณ
ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์
ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ (ATIS) คือเปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลโฆษณา Shopping ที่แสดงในตำแหน่ง Shopping ที่โดดเด่นที่สุด มี "การแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์" เพียง 1 รายการเท่านั้นต่อการประมูล ดังนั้น ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์จึงเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญถึงความโดดเด่นโดยรวม
ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ = การแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ / การแสดงผลในตำแหน่งบนสุดทั้งหมดที่มีสิทธิ์ได้รับ
ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ (ATIS) ช่วยให้เข้าใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณอาจปรากฏโดดเด่นขึ้นในผลลัพธ์ของโฆษณา Shopping หรือไม่ หากคุณเพิ่มราคาเสนอหรืองบประมาณ ATIS สามารถใช้ได้กับแคมเปญ กลุ่มโฆษณา และกลุ่มผลิตภัณฑ์ (สำหรับแคมเปญ Shopping)
การทำงานในภาพรวม
ในการประมาณค่าส่วนแบ่งการแสดงผล Google จะพิจารณาจากการประมูลเพื่อแสดงโฆษณาในแต่ละช่วงเวลาของวัน และใช้ข้อมูลภายใน เช่น คุณภาพระหว่างโฆษณาของคุณกับผู้เข้าร่วมในการประมูลเดียวกัน
ส่วนแบ่งการแสดงผลจะรวมการประมูลทั้งหมดที่โฆษณาของคุณได้แสดง และการประมูลทั้งหมดที่โฆษณาของคุณมีศักยภาพการแข่งขันเพียงพอ ตัวอย่างเช่น ระบบอาจรวมการประมูลที่โฆษณาของคุณอาจได้แสดงหากเสนอราคาเป็น 2 เท่าของราคาเสนอปัจจุบัน แต่อาจยกเว้นการประมูลที่ประเมินว่าโฆษณาของคุณต้องเพิ่มราคาเสนอ 1,000% จึงจะได้แสดง
โปรดทราบว่าส่วนแบ่งการแสดงผลจะขึ้นอยู่กับค่าประมาณโอกาสที่โฆษณาของคุณจะแข่งขันในการประมูลได้ ความผันผวนเล็กน้อยในช่วงเวลาต่างๆ ไม่ได้หมายถึงว่ามีอะไรผิดปกติเสมอไป การเปลี่ยนแปลงราคาเสนอ คุณภาพ หรือระบบโฆษณาของ Google อาจทำให้ชุดของการประมูลที่ระบบประเมินว่าคุณมีโอกาสแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปด้วย
การทำงานกับแคมเปญ Shopping
ส่วนแบ่งการแสดงผลสำหรับแคมเปญ Shopping จะได้รับการคำนวณที่คล้ายกับโฆษณาแบบข้อความ อย่างไรก็ตาม เมตริกนี้จะถือว่าโฆษณา Shopping หลายรายการจากผู้ลงโฆษณาเดียวกันแสดงพร้อมกันได้
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นับซ้ำเมื่อโฆษณา Shopping หลายรายการจากผู้ลงโฆษณารายเดียวกันแข่งขันกันในการประมูลเดียวกัน Google Ads จึงกำหนดโอกาสในการแสดงผลให้กับโฆษณา Shopping ที่มีลำดับสูงสุดจากผู้ลงโฆษณารายดังกล่าว โฆษณา Shopping ทั้งหมดจะได้รับการแสดงผล อย่างไรก็ตาม การแสดงผลที่ได้รับในการประมูลเดียวกันหลังจากที่ได้แสดงโฆษณาชิ้นแรกของคุณแล้วจะไม่รวมไว้ด้วยเมื่อคำนวณส่วนแบ่งการแสดงผล กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการแสดงโฆษณาของคุณ ซึ่งหมายความว่าการแสดงผลครั้งแรกของคุณในแต่ละการค้นหาแต่ละครั้งเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์นับเป็นส่วนแบ่งการแสดงผล เมื่อการแสดงผลอยู่ในตำแหน่งที่อาจมีความโดดเด่นที่สุด ก็จะถูกนับอยู่ในส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์
ส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ ประกอบด้วยการประมูลทั้งหมดที่โฆษณาของคุณแสดงอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด หารด้วยการประมูลทั้งหมดที่โฆษณาของคุณน่าจะแสดงอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด
การทำงานกับแคมเปญโรงแรม
ส่วนแบ่งการแสดงผลสำหรับแคมเปญโรงแรมคำนวณจากตำแหน่งที่โฆษณาปรากฏในโมดูลการจองโฆษณาโรงแรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนแบ่งการแสดงผลของแคมเปญโรงแรม
การทำงานกับแคมเปญ Performance Max
ระบบจะคํานวณส่วนแบ่งการแสดงผลของแคมเปญ Performance Max โดยใช้ทั้งการแสดงผล Search และ Shopping
ส่วนแบ่งการแสดงผลของ Performance Max = การแสดงผลจาก Search + Shopping / การแสดงผลทั้งหมดที่มีสิทธิ์จาก Search + Shopping
คุณสามารถดูข้อมูลส่วนแบ่งการแสดงผล ซึ่งจะช่วยในการติดตามความคืบหน้าตามเป้าหมายการคลิกหรือส่วนแบ่งการแสดงผล นอกจากนี้ คุณยังใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแคมเปญกับผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ที่เข้าร่วมการประมูลเดียวกันได้ด้วย ดูวิธีใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ