เกี่ยวกับการวัดผลการค้นหาที่เกิดขึ้นเองและแบบเสียค่าใช้จ่าย

คุณทราบแล้วว่าสามารถใช้เครื่องมือการรายงานของ Google Ads เพื่อทำความเข้าใจความถี่ที่โฆษณาแสดงต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า และคีย์เวิร์ดที่ทำให้เกิดการแสดงผลเหล่านั้นได้ นอกจากนี้คุณยังใช้รายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ดูได้ในบัญชี Google Ads เพื่อดูความถี่ที่หน้าเว็บต่างๆ ในเว็บไซต์แสดงในผลการค้นหาทั่วไปแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายของ Google และดูข้อความค้นหาที่เรียกให้ผลลัพธ์เหล่านั้นแสดงในหน้าผลการค้นหาได้ด้วย

ข้อมูลนี้จะช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีการทำงานร่วมกันระหว่างโฆษณาแบบข้อความที่เสียค่าใช้จ่ายกับผลการค้นหาที่เกิดขึ้นเอง เพื่อช่วยให้เข้าถึงผู้ที่กำลังค้นหาสิ่งต่างๆ ทางออนไลน์ ใช้ผลการค้นหาที่เกิดขึ้นเองในการระบุคีย์เวิร์ดใหม่ที่อาจมีคุณค่า และเห็นมุมมองภาพรวมที่เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของตัวตนในโลกออนไลน์ในการดึงดูดการเข้าชมและคลิกต่างๆ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าคุณจะหาข้อมูลเชิงลึกที่เฉพาะเจาะจงใดได้บ้างจากรายงานการค้นหาทั่วไปและเสียค่าใช้จ่าย และเหตุใดข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จึงมีความสำคัญ

ลิงก์กับ Search Console เพื่อเปิดใช้รายงานการค้นหาที่เกิดขึ้นเองและแบบเสียค่าใช้จ่าย

หากต้องการใช้รายงานการค้นหาที่เกิดขึ้นเองและแบบเสียค่าใช้จ่าย คุณควรมีบัญชี Search Console สำหรับเว็บไซต์ และจะควรลิงก์บัญชี Search Console ดังกล่าวกับบัญชี Google Ads Search Console คือเครื่องมือฟรีของ Google ที่ให้ข้อมูลและนำเสนอเคล็ดลับเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและปรับปรุงปริมาณการค้นหาได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีลิงก์ Search Console กับ Google Ads

วิธีใช้รายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่าย

เมื่อลิงก์บัญชี Google Ads กับ Search Console แล้ว คุณจะดูผลการค้นหาทั่วไปได้พร้อมกับสถิติประสิทธิภาพของโฆษณาแบบข้อความในแคมเปญ Search ของ Google Ads ได้ โปรดทราบว่ารายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่ายจะนับประสิทธิภาพของโฆษณาแบบข้อความเท่านั้น และไม่นับสถิติจากโฆษณา Shopping หรือโฆษณาคลิกเพื่อดาวน์โหลด

ลองดูกรณีการใช้งานอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ 3 กรณีด้านล่างสำหรับรายงานนี้

ค้นหาคีย์เวิร์ดเพิ่มเติม

ใช้รายงานเพื่อค้นหาคำที่อาจเป็นคีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มลงในบัญชี Google Ads โดยมองหาข้อความค้นหาที่จะทำให้คุณปรากฏในการค้นหาทั่วไปเท่านั้นโดยไม่มีโฆษณาแบบข้อความที่เกี่ยวข้อง

  • คุณระบุข้อความค้นหาที่มีการแสดงผลที่เสียค่าใช้จ่ายจำนวนน้อยได้โดยเพิ่มตัวกรองสำหรับ "การแสดงโฆษณา = 0" หรือ "การแสดงโฆษณา < X" หากมีบัญชีหลายบัญชี ข้อมูลการค้นหาที่เกิดขึ้นเองทั้งหมดจะนำเข้าไปไว้ในแต่ละบัญชี

  • เราขอแนะนำให้ดาวน์โหลดรายงานการค้นหาที่เกิดขึ้นเองและแบบเสียค่าใช้จ่ายในบัญชีดูแลจัดการ (สำหรับบัญชี Google Ads ที่มีการตั้งค่าภาษาและภูมิศาสตร์เดียวกัน) เพื่อช่วยให้พบข้อความค้นหาทั่วไปที่ซ้ำกัน และระบุข้อความค้นหาที่ไม่มีการแสดงโฆษณาแบบข้อความที่เสียค่าใช้จ่ายในทุกๆ บัญชีได้
  • นอกจากนี้ คุณยังเพิ่มตัวกรองเพิ่มเติมเพื่อระบุข้อความค้นหาที่มีข้อความที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์และบริการที่สำคัญที่สุดของตนเองได้ด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลให้กับข้อความค้นหาที่มีคุณค่าสูง

ใช้รายงานเพื่อปรับปรุงการแสดงผลในผลการค้นหาโฆษณาแบบข้อความที่เสียค่าใช้จ่าย และตรวจสอบข้อความค้นหาที่มีคุณค่าสูงสำหรับผลการค้นหาทั่วไป

  • ระบุคำค้นหาที่เกี่ยวข้องสำหรับธุรกิจซึ่งมีปริมาณการเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปต่ำ และกำหนดเป้าหมายคำค้นหาเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการแสดงผลการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย
  • ลองแสดงข้อความที่มีประโยชน์ โดดเด่น และสะดุดตามากขึ้นจากรายการทั่วไปด้วยการปรับแต่งข้อความโฆษณาและการใช้ชิ้นงาน

วัดความเปลี่ยนแปลงโดยพิจารณาจากองค์ประกอบทั้งหมด

ในขณะที่ทดสอบการปรับปรุงเว็บไซต์หรือการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอ งบประมาณ หรือคีย์เวิร์ด คุณสามารถดูผลกระทบที่มีต่อโฆษณาแบบข้อความ ผลการค้นหาทั่วไป และการเข้าชมทั้ง 2 แบบผสมกันได้ง่ายขึ้น คุณยังสามารถดูว่าโดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ดช่วยเพิ่มหรือลดจำนวนคลิกแบบผสมผสานโดยรวมสำหรับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องอย่างไร รวมถึงวิธีการเพิ่มการเข้าชมโดยรวมให้กับคำค้นหาสำคัญที่สุดของคุณได้อย่างคุ้มค่าใช้จ่าย

สิ่งที่ควรทราบ

  • การลงทุนในการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายไม่มีผลต่อลำดับในการค้นหาทั่วไปของคุณ Google แบ่งแยกระหว่างธุรกิจการค้นหาของเรากับธุรกิจการโฆษณาโดยเด็ดขาด
  • การตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายโฆษณาของแคมเปญ Google Ads ของคุณจะไม่เป็นการจำกัดผลการค้นหาที่เกิดขึ้นเอง กล่าวคือ ภาษาและสถานที่ตั้งที่คุณกำหนดเป้าหมายในบัญชี Google Ads จะจำกัดโฆษณาแต่ไม่ได้จำกัดรายการค้นหาที่เกิดขึ้นเอง ซึ่งหมายความว่าคุณอาจได้รับการแสดงผลที่เกิดขึ้นเองมากกว่าการแสดงผลแบบเสียค่าใช้จ่าย แม้ว่าแคมเปญจะมีส่วนแบ่งการแสดงผลเป็น 100% ก็ตาม ตัวอย่างเช่น หากแคมเปญโฆษณาสำหรับคีย์เวิร์ดที่ระบุได้รับการกำหนดเป้าหมายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น การแสดงผลทั่วไปที่เกิดขึ้นในแคนาดาจะยังคงแสดงในรายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่ายสำหรับคีย์เวิร์ดคำนั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้โฆษณาที่นั่นก็ตาม
  • ข้อมูลในบริบททั่วไปจะรายงานย้อนไปถึงวันที่เริ่มนำเข้าข้อมูลจากเครื่องมือของผู้ดูแลเว็บเท่านั้น ดังนั้นคุณจะไม่เห็นประวัติข้อมูลในบริบททั่วไปของช่วงเวลาก่อนวันที่สร้างลิงก์ดังกล่าว
  • ข้อมูลในบริบททั่วไปที่คุณมีนั้นอิงตามโดเมนทั้งหมดที่คุณได้ลิงก์กับบัญชี โปรดทราบว่าคุณกรองการเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปออกเป็นชุดย่อยของโดเมนที่ลิงก์ไม่ได้

ตัวอย่าง

คณึงนิจทำธุรกิจเว็บไซต์ที่ขายคู่มือการท่องเที่ยวสำหรับจุดหมายปลายทางทั่วโลก เมื่อตรวจสอบรายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่าย คณึงนิจพบว่าเว็บไซต์ของเธอปรากฏขึ้นอยู่เรื่อยๆ ในผลการค้นหาทั่วไปสำหรับคำค้นหา "พักร้อนที่เบลีซ" และคณึงนิจยังเห็นอีกว่าข้อความค้นหานี้มีอัตราคลิก/คำค้นหาทั่วไปค่อนข้างสูง ซึ่งหมายความว่าผู้คนจำนวนมากที่ค้นหา "พักร้อนที่เบลีซ" และเห็นรายการเว็บไซต์ของเธอ ได้คลิกผ่านเข้ามาที่เว็บไซต์ของเธอจริงๆ คณึงนิจจึงมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะดึงดูดผู้คนที่สนใจธุรกิจของเธอมายังเว็บไซต์ได้มากขึ้น เธอจึงตัดสินใจเพิ่มคีย์เวิร์ด เช่น "พักร้อนที่เบลีซ" ลงในแคมเปญ Google Ads ที่เกี่ยวข้อง

การศึกษารายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่าย

รายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าใน Google Ads หากต้องการไปยังรายงาน ให้คลิกแคมเปญในแถบด้านข้างทางซ้ายมือ และเปิดแท็บ "ข้อมูลเชิงลึกและรายงาน" คลิกเครื่องมือแก้ไขรายงาน แล้วเปิดแท็บแคมเปญ "พื้นฐาน" รายงานจะอัปเดตวันละครั้ง

ต่อไปนี้คือคอลัมน์ในรายงานการค้นหาทั่วไปและแบบเสียค่าใช้จ่าย และคำจำกัดความสำหรับแต่ละเมตริก

โฆษณา  
จำนวนคลิกของโฆษณา จำนวนครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาแบบข้อความของคุณ เมื่อโฆษณาแสดงสำหรับข้อความค้นหาหนึ่งๆ
การแสดงโฆษณา โฆษณาแบบข้อความของคุณปรากฏกี่ครั้งในหน้าผลการค้นหา
CTR โฆษณา ความถี่ที่ผู้ที่เห็นโฆษณาแบบข้อความของคุณคลิกที่โฆษณาดังกล่าว คุณสามารถใช้ CTR เพื่อวัดประสิทธิภาพของคำหลักและโฆษณาของคุณได้
CPC เฉลี่ยของโฆษณา จำนวนเงินเฉลี่ยที่คุณจ่ายแต่ละครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาแบบข้อความของคุณ CPC เฉลี่ยคิดโดยการรวมค่าใช้จ่ายของการคลิกทั้งหมดแล้วหารด้วยจำนวนการคลิก
ทั่วไป  
คลิกทั่วไป จำนวนครั้งที่มีคนคลิกรายการไซต์ของคุณในผลการค้นหาที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับข้อความค้นหาหนึ่งๆ
ข้อความค้นหาทั่วไป การค้นหาเว็บ คอลัมน์นี้จะแสดงจำนวนการค้นหาทั้งหมดที่แสดงหน้าเว็บจากไซต์ของคุณภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุ
คลิก/ข้อความค้นหาทั่วไป จำนวนคลิกที่คุณได้รับในรายการการค้นหาทั่วไปของคุณ หารด้วยจำนวนการค้นหาทั้งหมดที่แสดงหน้าเว็บจากเว็บไซต์ของคุณ
รายการ/ข้อความค้นหาทั่วไป รายการเกิดขึ้นเมื่อหน้าเว็บของไซต์ของคุณแสดงขึ้นเป็นผลการค้นหา คอลัมน์นี้ระบุจำนวนครั้งโดยเฉลี่ยที่หน้าเว็บจากไซต์ของคุณแสดงรายการต่อหนึ่งคำค้นหา
โฆษณาและการค้นหาทั่วไปรวมกัน  
คลิกจากโฆษณาและการค้นหาทั่วไป คอลัมน์นี้แสดงจำนวนครั้งที่มีผู้คลิกรายการด้านล่างนี้
  • หนึ่งในโฆษณาแบบข้อความของคุณ
  • หนึ่งในรายการการค้นหาทั่วไปของคุณ
ข้อความค้นหาจากโฆษณาและการค้นหาทั่วไป ข้อความค้นหาคือการค้นหาผ่านเว็บ คอลัมน์นี้ระบุจำนวนการค้นหาทั้งหมดที่แสดงหน้าเว็บจากไซต์ของคุณในผลการค้นหาทั่วไป หรือเรียกหนึ่งในโฆษณาแบบข้อความของคุณให้แสดง
คลิกจากโฆษณาและการค้นหาทั่วไป/คำค้นหา จำนวนคลิกที่ได้รับจากโฆษณาแบบข้อความหรือรายการทั่วไป หารด้วยจำนวนคำค้นหาทั้งหมดที่
  • แสดงหน้าเว็บจากเว็บไซต์ของคุณ
  • เรียกหนึ่งในโฆษณาแบบข้อความของคุณให้แสดง

แม้ว่าจะไม่แสดงโดยค่าเริ่มต้น แต่คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์คีย์เวิร์ด กลุ่มโฆษณา หรือแคมเปญลงในรายงานได้โดยคลิกคอลัมน์ รูปภาพของไอคอนคอลัมน์ Google Ads > แก้ไขคอลัมน์ > สถิติโฆษณา แล้วเลือกประเภทคอลัมน์ที่ต้องการเพิ่ม

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
5003663880233200694
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false