การจัดระเบียบบัญชีทำให้คุณแสดงโฆษณาที่เหมาะสมกับลูกค้าที่คุณต้องการได้ดีขึ้น และยังช่วยให้ติดตามว่าความพยายามในการโฆษณาของคุณได้ผลหรือไม่ได้ดีขึ้นด้วยเมื่อผู้ใช้ค้นหาออนไลน์และพิมพ์คำหรือวลี ก็แสดงว่ากำลังค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำหรือวลีเหล่านั้นมากที่สุด เช่น หากวิฤทธิ์พิมพ์คำว่ากล้องดิจิทัลแล้วเห็นโฆษณาม้วนฟิล์ม เขาก็คงไม่คลิกโฆษณานั้น
เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาของผู้ที่คุณพยายามเข้าถึง ให้จัดกลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกันเป็นกลุ่มโฆษณา ด้วยวิธีนี้ โฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของคุณจะแสดงต่อลูกค้าที่กำลังค้นหาสิ่งที่คล้ายกันได้
บทความนี้จะกล่าวถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดบางอย่างที่ปฏิบัติตามได้ แม้การจัดระเบียบบัญชีจะไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวที่ทำได้ก็ตาม
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
- จัดระเบียบแคมเปญและกลุ่มโฆษณาตั้งแต่ขั้นตอนการสร้าง การจัดระเบียบบัญชีหลังจากสร้างแคมเปญและกลุ่มโฆษณาขึ้นมาหลายรายการจะล้างข้อมูลอันมีค่าทั้งหมดที่ได้รวบรวมไว้ไปแล้ว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาได้
- เมื่อต้องใช้การตั้งค่าแคมเปญชุดอื่นที่ต่างไป (เช่น งบประมาณหรือการกำหนดสถานที่เป้าหมาย) ให้สร้างแคมเปญแยกต่างหาก เช่น หากคุณขายเสื้อผ้า ก็อาจต้องตั้งงบประมาณสำหรับเสื้อและกางเกงแยกกัน ในกรณีนี้ ควรสร้างแคมเปญสำหรับเสื้อและสร้างอีกแคมเปญสำหรับกางเกง
- หากต้องการให้โฆษณาทั้งหมดแชร์งบประมาณและต้องการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สถานที่ชุดเดียวกัน คุณสามารถใช้เพียงแคมเปญเดียวได้
- สำหรับกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่ม ให้เลือกธีมที่แคบและสร้างกลุ่มโฆษณาโดยใช้ธีมนั้น ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องกับธีมนั้นสำหรับกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่ม ควรพิจารณาให้โฆษณาระบุคำหลักของคุณอย่างน้อย 1 คำในบรรทัดแรกด้วย นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อมีผู้ค้นหาโดยใช้คำที่ตรงกับคำหลักและเห็นโฆษณาหนึ่งที่มีคำหลักนั้นและอีกโฆษณาที่ไม่มีคำหลัก ผู้ใช้อาจคิดว่าโฆษณาแรกเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังค้นหาอยู่มากกว่า
- คุณไม่มีทางทราบได้ว่าข้อความใดจะสื่อสารกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้มีโฆษณาอย่างน้อย 3 รายการในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มและใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ การตั้งค่าเพิ่มประสิทธิภาพจะเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อให้ได้รับคลิกในการประมูลแต่ละครั้ง โดยใช้สัญญาณต่างๆ เช่น คีย์เวิร์ด ข้อความค้นหา อุปกรณ์ สถานที่ตั้ง และอื่นๆ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณา
ตัวอย่าง
สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์และสร้างบัญชี AdWords เพื่อเริ่มโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ขาย คุณสามารถเลือกในระดับบัญชีได้ว่ามีใครอีกบ้างที่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี AdWords ของคุณและเลือกวิธีการชำระเงินที่ต้องการ ระดับชั้นบนสุดของบัญชีอาจมีลักษณะดังนี้
บัญชี
|
ร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์
|
|
จัดระเบียบแคมเปญ
แคมเปญประกอบด้วยกลุ่มโฆษณาหลายกลุ่ม โปรดพิจารณาสิ่งต่อไปนี้สำหรับแคมเปญของคุณ
- จำนวนเงินที่คุณยินดีจ่ายสำหรับคลิกหรือ Conversion ที่ได้รับจากโฆษณาของคุณ
- เครือข่ายและสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่คุณต้องการให้โฆษณาแสดง
- การตั้งค่าระดับบนสุดอื่นๆ ที่ส่งผลต่อกลุ่มโฆษณาที่อยู่ย่อยลงมา
มาดูตัวอย่างกัน สมมติว่าคุณต้องการสร้างโฆษณาสำหรับพื้นที่โฆษณาโทรทัศน์และกล้องถ่ายรูป จึงสร้างแคมเปญสำหรับพื้นที่โฆษณาแต่ละส่วนแยกกัน
แคมเปญ
|
แคมเปญ
|
โทรทัศน์
|
กล้องถ่ายรูป
|
|
จัดระเบียบกลุ่มโฆษณา
วิธีทั่วไปในการจัดระเบียบบัญชี AdWords ก็คือการจัดระเบียบโดยคำนึงถึงหมวดหมู่หรือเป้าหมายทางธุรกิจ สำหรับหลายๆ ธุรกิจ วิธีการจัดโครงสร้างเว็บไซต์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มจะแสดงถึงหน้าหรือหมวดหมู่ที่ต่างกันไปในไซต์ของคุณ
กลุ่มโฆษณาช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาของคุณจะเกี่ยวข้องกับคำหลักของคุณ เช่น คุณอาจต้องการสร้างโฆษณาสำหรับกล้องดิจิทัลและกล้องคอมแพ็กแยกกันในแคมเปญกล้องถ่ายรูป ซึ่งสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับกล้องแต่ละประเภทได้ โดยแต่ละประเภทจะมีชุดคำหลักที่เกี่ยวข้องและต้องการเน้นเป็นของตัวเอง สำหรับแคมเปญโทรทัศน์ คุณสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาสำหรับโทรทัศน์แต่ละประเภทที่ขายได้เช่นกัน เช่น ทีวีจอแบนหรือทีวีพลาสมา
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
ทีวีจอแบน
|
ทีวีพลาสมา
|
กล้องดิจิทัล
|
กล้องคอมแพ็ก
|
|
คุณจะต้องเลือกคำหลักที่ใกล้เคียงกับข้อความโฆษณาของคุณภายในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่ม สำหรับกลุ่มโฆษณากล้องดิจิทัล คุณอาจลองใช้คำหลักสำหรับแบรนด์ รุ่น และราคาต่างๆ ของกล้องดิจิทัลที่ขาย
เมื่อลองนำมาใช้ร่วมกัน โครงสร้างบัญชีโดยรวมของคุณน่าจะมีลักษณะดังนี้
บัญชี
|
- อีเมลที่ไม่ซ้ำและรหัสผ่าน
- ข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงิน
|
|
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
กลุ่มโฆษณา
|
ทีวีจอแบน
|
ทีวีพลาสมา
|
กล้องดิจิทัล
|
กล้องคอมแพ็ก
|
|