แคมเปญ Performance Max สําหรับมาร์เก็ตเพลสช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และส่งการเข้าชมไปยังผลิตภัณฑ์ที่ขายในมาร์เก็ตเพลสโดยตรง แคมเปญประเภทนี้ใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากมาร์เก็ตเพลสเพื่อให้ระบบรวมผลิตภัณฑ์ไว้ เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณา ระบบจะนำไปที่หน้าผลิตภัณฑ์ในมาร์เก็ตเพลสเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือบัญชี Google Merchant Center แยกต่างหาก
Performance Max ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google ในการสร้างการตั้งค่าแคมเปญที่จะช่วยให้คุณได้รับคุณค่าเพิ่มเติมจากการโฆษณา ขณะสร้างแคมเปญ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ ใช้เมนูการนําทางการสร้างแคมเปญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ
ในหน้านี้
- สร้างแคมเปญและเลือกเป้าหมาย
- ตั้งค่ากำหนดการเสนอราคา
- กำหนดการตั้งค่าแคมเปญ
- สร้างกลุ่มชิ้นงาน (ไม่บังคับ)
- กำหนดงบประมาณ
- ตรวจสอบและเผยแพร่แคมเปญ
ก่อนเริ่มต้น
ตรวจสอบว่าบัญชี Google Ads ลิงก์กับมาร์เก็ตเพลสแล้ว
วิธีการ
ขั้นตอนที่ 1 จาก 6: สร้างแคมเปญและเลือกเป้าหมาย
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกแคมเปญใหม่
- เลือกยอดขายเป็นวัตถุประสงค์การโฆษณาของแคมเปญ หากไม่มีเป้าหมายตามที่ต้องการ ให้เลือกสร้างแคมเปญโดยไม่มีคำแนะนำของเป้าหมาย
- เมื่อระบบขอให้เลือกตำแหน่งที่จะส่งการเข้าชม ให้เลือกมาร์เก็ตเพลส
- หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้จะใช้ได้ต่อเมื่อบัญชี Google Ads ลิงก์กับมาร์เก็ตเพลสแล้วเท่านั้น
- ตรวจสอบเป้าหมาย Conversion ที่มาร์เก็ตเพลสกําหนดค่าในนามของคุณ แล้วคลิกต่อไป
- หมายเหตุ: หากกำหนดเป้าหมาย Conversion เริ่มต้นของบัญชีไว้ คุณจะเห็นเป้าหมายเหล่านี้เมื่อสร้างแคมเปญ Performance Max สำหรับมาร์เก็ตเพลสด้วย เราขอแนะนําให้นําเป้าหมายเหล่านี้ออกด้วยตนเองเพื่อให้แคมเปญเพิ่มประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่มาร์เก็ตเพลสกําหนดค่าไว้เท่านั้น
- เลือกประเภทแคมเปญเป็น Performance Max
- ใส่ชื่อแคมเปญ
- เลือกต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 จาก 6: ตั้งค่ากำหนดการเสนอราคา
กำหนดกลยุทธ์การเสนอราคา
Performance Max จะช่วยตั้งราคาเสนอที่เหมาะสมในการประมูลแต่ละครั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญตามเป้าหมายของคุณ
- หากคุณกำลังวัดมูลค่าจาก Conversion เราแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ "เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด"
- หากไม่ได้วัดมูลค่าและไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Conversion ทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน ให้พิจารณาใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ "เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด"
ดูวิธีเลือกราคาเสนอและงบประมาณ
หากต้องการตั้งเวลาโฆษณา วันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดแคมเปญ และยกเว้นการเข้าชมที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ให้ใช้พื้นที่ "การตั้งค่าเพิ่มเติม" โปรดทราบว่า Final URL Expansion ใช้กับแคมเปญ Performance Max ในมาร์เก็ตเพลสไม่ได้
ขั้นตอนที่ 3 จาก 6: กำหนดการตั้งค่าแคมเปญ
มาร์เก็ตเพลสอาจตั้งค่าผลิตภัณฑ์ให้แสดงเฉพาะในบางประเทศอยู่แล้ว เมื่อเพิ่มการตั้งค่าสถานที่ตั้งลงในแคมเปญ Performance Max สําหรับมาร์เก็ตเพลส โฆษณาจะแสดงในประเทศที่มาร์เก็ตเพลสแชร์ แต่จะไม่แสดงในประเทศที่มาร์เก็ตเพลสยกเว้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่
- เลือกสถานที่ที่จะกําหนดเป้าหมายในส่วน "สถานที่ตั้ง" ของหน้า "การตั้งค่าแคมเปญ"
- หากต้องการกําหนดเป้าหมายสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในรายการ ให้เลือกป้อนสถานที่อื่น จากนั้นป้อนชื่อสถานที่ที่คุณต้องการกําหนดเป้าหมาย แล้วเลือกกําหนดเป้าหมายหรือยกเว้น
- หากต้องการกำหนดเป้าหมายเป็นสถานที่หนึ่งๆ ภายในสถานที่ตั้ง ให้เลือกใกล้เคียง แล้วเลือกกำหนดเป้าหมายหรือยกเว้นสถานที่ตั้ง
- ภายใต้เมนูแบบเลื่อนลง "ภาษา" ให้เลือกภาษาที่ลูกค้าพูด คุณสามารถเลือกหลายภาษาเพื่อแสดงโฆษณาต่อลูกค้าบางกลุ่มได้
- หมายเหตุ: สําหรับตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่เพิ่มเติม ให้ใช้ "การค้นหาขั้นสูง" คุณสามารถเพิ่มสถานที่ตั้งหลายแห่ง หรือจะป้อนสถานที่ตั้ง 1 แห่ง แล้วกำหนดรัศมีรอบๆ สถานที่ตั้งแห่งนั้นเป็นพื้นที่ที่คุณต้องการกำหนดเป้าหมายก็ได้
- ทำการตั้งค่าเพิ่มเติมที่คุณต้องการให้เสร็จสิ้นในส่วน "การตั้งค่าเพิ่มเติม" แล้วคลิกถัดไป
หากต้องการตั้งเวลาโฆษณา วันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดแคมเปญ และยกเว้นการเข้าชมที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ให้ใช้พื้นที่ "การตั้งค่าเพิ่มเติม" โปรดทราบว่า Final URL Expansion และชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติใช้กับแคมเปญ Performance Max สำหรับมาร์เก็ตเพลสไม่ได้
ขั้นตอนที่ 4 จาก 6: สร้างกลุ่มชิ้นงานและชิ้นงาน (ไม่บังคับ)
แคมเปญจะใช้ฟีดผลิตภัณฑ์ของมาร์เก็ตเพลสเพื่อแสดงโฆษณา คุณไม่จำเป็นต้องใส่ชิ้นงานเพิ่มเติม แต่การทำเช่นนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ การเข้าถึง หรือพื้นที่โฆษณาได้
กลุ่มรายชื่อเป็นสิ่งจำเป็นและจะเป็นค่าเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในบัญชีมาร์เก็ตเพลสที่ระบุ
- ใส่ชื่อกลุ่มชิ้นงานที่ไม่ซ้ำกันในหน้า "กลุ่มชิ้นงาน"
- ยืนยันกลุ่มรายชื่อของแคมเปญ กลุ่มรายชื่อช่วยให้คุณเลือกได้ว่าจะแสดงผลิตภัณฑ์ใดในโฆษณาของแคมเปญ Performance Max ค่าเริ่มต้นคือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในบัญชีมาร์เก็ตเพลสที่แนบมา แต่หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์บางรายการเท่านั้น ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกไอคอนดินสอ ข้าง "ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด"
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บางรายการในโฆษณา
- คุณเลือกผลิตภัณฑ์ได้ตามหมวดหมู่ แบรนด์ รหัสสินค้า สภาพสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์ ช่องทาง หรือป้ายกำกับที่กำหนดเองจากเมนูแบบเลื่อนลง นอกจากนี้ยังเลือกค่าหลายรายการได้โดยป้อนประเภทผลิตภัณฑ์แยกกันโดยการขึ้นบรรทัดใหม่ด้วยตนเอง
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการรวมไว้ในโฆษณา Performance Max และผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะปรากฏในคอลัมน์ทางด้านขวา หากต้องการนําผลิตภัณฑ์ออก ให้คลิก ข้างกลุ่มผลิตภัณฑ์
- คลิกบันทึกเพื่อตั้งค่าแคมเปญ Performance Max ให้เสร็จ
- สร้างกลุ่มชิ้นงานโดยใช้หลักเกณฑ์ด้านล่าง
ชิ้นงาน | หลักเกณฑ์ด้านชิ้นงานที่แนะนํา |
---|---|
รูปภาพ | เพิ่มรูปภาพได้สูงสุด 15 รูป |
โลโก้ | เพิ่มโลโก้ได้สูงสุด 5 รายการ |
บรรทัดแรก (ไม่เกิน 30 อักขระ) | เพิ่มบรรทัดแรกได้สูงสุด 5 รายการ |
บรรทัดแรกแบบยาว (ไม่เกิน 90 อักขระ) | เพิ่มบรรทัดแรกแบบยาวได้สูงสุด 5 รายการ |
คำอธิบาย |
คําอธิบายแบบย่อ (ไม่เกิน 60 อักขระ)
|
คําอธิบายแบบยาว (ไม่เกิน 90 อักขระ)
*รูปแบบโฆษณาในพื้นที่ไม่รองรับคำอธิบายแบบยาว |
|
คำกระตุ้นให้ดำเนินการ (Call-To-Action) | เลือกคำกระตุ้นให้ดำเนินการ (Call-To-Action) ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย เช่น "ลงชื่อสมัครใช้" หรือ "สมัครใช้บริการ" |
ชื่อธุรกิจ | เพิ่มชื่อธุรกิจหรือแบรนด์ที่ปรากฏในข้อความของโฆษณา |
หมายเหตุ: ปัจจุบันชิ้นงานวิดีโอใช้กับ Performance Max สำหรับมาร์เก็ตเพลสไม่ได้
คุณสามารถสร้างกลุ่มชิ้นงานกลุ่มหนึ่งก่อนที่จะเปิดตัวแคมเปญ Performance Max และกลุ่มชิ้นงานอื่นๆ หลังการตั้งค่า ระบบจะรวมชิ้นงานให้อยู่ในรูปแบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและแสดงครีเอทีฟโฆษณาที่ถูกใจผู้ใช้มากที่สุดโดยอัตโนมัติ
ดูวิธีสร้างกลุ่มชิ้นงาน
สัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย
สัญญาณของกลุ่มเป้าหมายให้คุณเพิ่มคําแนะนําเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอัตโนมัติของ Google Ads เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มสัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย แต่การใช้สัญญาณนี้จะช่วยเร่งการเรียนรู้และแนะนำ AI ของ Google ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ดีที่สุด
โปรดทราบว่าแคมเปญ Performance Max อาจแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องนอกสัญญาณหากมีแนวโน้มอย่างสูงที่จะมีการทำ Conversion เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างสัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องมือสร้างกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมสําหรับแคมเปญและกลุ่มโฆษณาแต่ละรายการ
คุณภาพของโฆษณา
คุณภาพของโฆษณาคือตัวบ่งชี้ความเกี่ยวข้องและช่วงของชุดครีเอทีฟโฆษณา การมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการและเป็นเอกลักษณ์มากขึ้นจะช่วยให้คุณแสดงโฆษณาที่เหมาะสมต่อลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา
ขั้นตอนที่ 5 จาก 6: กำหนดงบประมาณ
งบประมาณของคุณจะเป็นตัวกำหนดจํานวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บต่อเดือนสำหรับแต่ละแคมเปญ จำนวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บคืองบประมาณเฉลี่ยรายวันที่คุณกําหนด คูณด้วยจำนวนวันโดยเฉลี่ยใน 1 เดือน แม้คุณจะใช้จ่ายแตกต่างกันไปในแต่ละวัน แต่ระบบจะเรียกเก็บเงินไม่เกินจำนวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บต่อเดือน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงเงินใช้จ่าย
สําหรับ Performance Max คุณควรทําดังนี้
- กําหนดงบประมาณเฉลี่ยรายวันที่มีมูลค่าอย่างน้อย 3 เท่าของ CPA หรือต้นทุน/Conv. สําหรับการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่เลือกไว้ของแคมเปญ คุณเปลี่ยนแปลงงบประมาณได้ทุกเมื่อ
- ตรวจสอบบัญชีทุกวันเพื่อดูประสิทธิภาพของแคมเปญจนถึงปัจจุบัน
- โปรดทราบว่าในวันที่โฆษณามีแนวโน้มได้รับการเข้าชมเพิ่มขึ้น คุณอาจต้องใช้งบประมาณเฉลี่ยรายวันมากขึ้น 2 เท่า ระบบจะทำให้การใช้จ่ายในช่วงวันดังกล่าวสมดุลด้วยการนำไปเฉลี่ยกับวันที่คุณมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่างบประมาณเฉลี่ยรายวัน
ขั้นตอนที่ 6 จาก 6: ตรวจสอบและเผยแพร่แคมเปญ
ก่อนที่จะสร้างแคมเปญให้เสร็จ ระบบจะนำคุณไปที่สรุปรีวิวพร้อมรายละเอียดของแคมเปญใหม่ เลือกเผยแพร่แคมเปญเพื่อดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์