ตั้งค่าการวัด Conversion สําหรับแคมเปญโรงแรมและแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

การวัด Conversion จะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพของการคลิกโฆษณาที่นำไปสู่กิจกรรมที่สร้างมูลค่าจากลูกค้าในเว็บไซต์ เช่น การจอง

หลังจากที่คุณตั้งค่า Conversion สําหรับการรายงานแคมเปญโรงแรมหรือแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว Google จะส่งข้อมูลโรงแรมที่จองไปให้คุณเพื่อเปิดการติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ วิธีนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลโรงแรมและประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญได้

การติดตั้งแท็ก Google

ทำตาม 3 ขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อใช้การวัด Conversion ของ Google Ads สําหรับโฆษณาโรงแรมและโฆษณา Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

แสดงวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สําหรับโรงแรมใน Google Ads ด้วยตนเองหรือโดยการใช้ Google Tag Manager

ขั้นตอนที่ 1: สร้างแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์

หมายเหตุ

  • คุณต้องตั้งหมวดหมู่ Conversion เป็น "การซื้อ" เพื่อใช้กับแคมเปญ Smart Bidding (ECPC, tROAS)

  • Google รองรับเฉพาะรูปแบบการระบุแหล่งที่มาของคลิกสุดท้ายสำหรับแคมเปญโรงแรม

  • หากคุณใช้โค้ดการวัด Conversion ของแท็ก Google อยู่แล้ว ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. เลือก Conversion ที่ต้องการติดตาม และทำตามวิธีการในวิดเจ็ต ดูวิธีตั้งค่าการวัด Conversion สำหรับเว็บไซต์
    • หากคุณมีแผนที่จะติดตามการจองโรงแรมจากเว็บไซต์ ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
      • หมวดหมู่: ซื้อ/ขาย
      • มูลค่า: ใช้มูลค่าเริ่มต้นและมูลค่าอื่น > 0$
      • การนับ: Conversion ทุกรายการ
      • รูปแบบการระบุแหล่งที่มา: คลิกสุดท้าย
  6. ตั้งค่าแท็กให้เสร็จโดยคลิกเสร็จสิ้น

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้งแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์

คุณมี 2 ตัวเลือกในการใช้การวัด Conversion ของ Google Ads สำหรับโรงแรม ได้แก่

ตัวเลือกที่ 1: การใช้โดยตรงใน HTML/AMP ของเว็บไซต์

ตัวเลือกที่ 2: วิธีการสำหรับ Google Tag Manager

เพื่อให้การวัด Conversion ทำงานได้ คุณจะต้องติดตั้งแท็กการวัด Conversion ซึ่งประกอบด้วยแท็ก Google และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ หากจะติดตั้งแท็กด้วย Google Tag Manager ให้ทำตามวิธีการของตัวเลือกที่ 2 ซึ่งมีไว้สำหรับ Google Tag Manager

ตัวเลือกที่ 1: วิธีการสำหรับการใช้โดยตรง (HTML/AMP)

แสดงวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สําหรับโรงแรมใน Google Ads ใน HTML/AMP ของเว็บไซต์

หน้าเว็บ HTML

  1. ติดตั้งแท็ก Google ในหน้าทุกหน้าของเว็บไซต์โรงแรม โปรดทราบว่าคุณจะต้องติดแท็กในทุกหน้าของขั้นตอนการจอง ซึ่งอาจโฮสต์โดยเครื่องมือการจองของบุคคลที่สาม ในกรณีนี้ โปรดตรวจสอบว่าเครื่องมือการจองกำลังติดตั้งแท็กในทุกหน้า รวมถึงหน้าการยืนยัน
    1. เปิด HTML ของแต่ละหน้า
    2. เลือกจากตัวเลือกต่อไปนี้
      • หากยังไม่ได้ติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์ ให้คัดลอกแท็กแล้ววางไว้ระหว่างแท็กส่วนหัว (<head></head>)
        ตัวอย่าง

        <script async
        src="https://googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG_ID"></script>

        <script>

        window.dataLayer = window.dataLayer || [];

        function gtag(){dataLayer.push(arguments);}

        gtag('js', new Date());

        gtag('config', 'TAG_ID');

        </script>

        ดูหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตั้งค่าแท็ก Google
        • หากคุณติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์จากผลิตภัณฑ์อื่นของ Google (เช่น Google Analytics) หรือจากบัญชี Google Ads อื่น ให้คัดลอกคำสั่ง 'config' ด้านล่างและเพิ่มในอินสแตนซ์ทุกรายการของแท็ก Google ไว้เหนือแท็กปิดท้าย </script>

          gtag ('config', 'AW-GOOGLE_CONVERSION_ID');
        • หากคุณหรือบัญชีดูแลจัดการได้ติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์แล้วขณะตั้งค่าแท็กสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion อื่น ให้ตรวจสอบว่ามีแท็กอยู่ในทุกหน้าของเว็บไซต์ และตรวจสอบว่าคำสั่ง 'config' มีรหัส Conversion ของบัญชี Google Ads ของคุณ
    3. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ
  2. ติดตั้งข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ในหน้า Conversion ซึ่งเป็นหน้าเว็บไซต์ที่ลูกค้าจะไปถึงหลังจากทำ Conversion เสร็จสมบูรณ์ เช่น หน้า "ขอบคุณสำหรับการจอง" โปรดทราบว่าหน้า Conversion สำหรับการจองอาจโฮสต์โดยเครื่องมือการจอง และอาจต้องให้บุคคลที่สามเป็นผู้ทำขั้นตอนต่อไปนี้
    1. เปิด HTML ของหน้า Conversion
    2. คัดลอกข้อมูลโค้ดด้านล่างแล้ววางไว้ระหว่างแท็กส่วนหัว (<head></head>) ของหน้า โดยให้อยู่หลังแท็ก Google
      ตัวอย่าง
      <!-- Event snippet for Hotel Booking conversion page --> <script>

      gtag('event', 'conversion', {'send_to': 'AW-CONVERSION_ID/AW-CONVERSION_LABEL',

      'value': 1.0,

      'currency': 'USD'

      });

      </script>

    3. เพิ่มโค้ดเพื่อส่งค่าไปยังพารามิเตอร์ "transaction_id" แบบไดนามิก เมื่อติดตามการซื้อ การขาย หรือโอกาสในการขายในเว็บไซต์ พารามิเตอร์นี้จะช่วยให้ระบบนับ Conversion แต่ละรายการเพียงครั้งเดียว
    4. เพิ่มโค้ดเพื่อส่งค่าไปยังพารามิเตอร์ "value" และ "currency" แบบไดนามิก ซึ่งจะช่วยให้คุณติดตาม Conversion ที่มีมูลค่าเจาะจงธุรกรรมได้ เช่น รายได้จากการขาย
    5. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ

หน้า AMP

คุณควรทำตามวิธีการต่อไปนี้ในทุกหน้าที่สร้างขึ้นโดยใช้เฟรมเวิร์ก AMP

  1. ติดตั้งแท็ก Google ในหน้าทุกหน้าของเว็บไซต์
    1. เปิด HTML ของแต่ละหน้า
    2. เลือกจากตัวเลือกต่อไปนี้
      • หากยังไม่ได้ติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์ ให้เลือกตัวเลือกที่เกี่ยวข้องในบัญชี Google Ads แล้วเพิ่มแท็ก 2 รายการ
        1. คัดลอกแท็กที่เกี่ยวข้องแล้ววางไว้ระหว่างแท็กส่วนหัว (<head></head>) โดยให้อยู่หน้าไลบรารี AMP JS
          ตัวอย่าง
          <script async custom-element="amp-analytics" src="https://cdn.ampproject.org/v0/amp-analytics-0.1.js"></script>
        2. คัดลอกแท็กที่ 2 แล้ววางไว้ระหว่างแท็กเนื้อหา (<body></body>) ของหน้า AMP ทุกหน้า
          ตัวอย่าง
          <!-- Google tag (gtag) - Google Ads: 813068219 --> <amp-analytics type="gtag" data-credentials="include"> <script type="application/json"> { "vars": { "gtag_id": "AW-813068219", "config": { "AW-813068219": { "groups": "default" } } }, "triggers": { } } </script> </amp-analytics>
        3. ดูหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าแท็ก Google
      • หากคุณติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์จากผลิตภัณฑ์อื่นของ Google (เช่น Google Analytics) หรือจากบัญชี Google Ads บัญชีอื่น ให้เลือกตัวเลือกที่เกี่ยวข้องในบัญชี Google Ads จากนั้นคัดลอกบรรทัดที่เกี่ยวข้องไปใส่รวมไว้ในส่วน "config" ของอินสแตนซ์ทุกรายการของแท็ก Google
        ตัวอย่าง
        "AW-813068219": { "groups": "default" }
      • หากคุณหรือบัญชีดูแลจัดการได้ติดตั้งแท็ก Google ในเว็บไซต์แล้วขณะตั้งค่าแท็กสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion อื่น ให้ตรวจสอบว่ามีแท็กอยู่ในทุกหน้าของเว็บไซต์ และตรวจสอบว่าส่วน "config" มีรหัส Conversion ของบัญชี Google Ads ของคุณ เช่น AW-813068219
    3. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ
  2. ติดตั้งข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ในหน้า Conversion ซึ่งเป็นหน้าเว็บไซต์ที่ลูกค้าจะไปถึงหลังจากทำ Conversion เสร็จสมบูรณ์ เช่น หน้า "ขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อ"
    1. เปิด HTML ของหน้า Conversion
    2. คัดลอกข้อมูลโค้ดจากบัญชี Google Ads แล้ววางในส่วน "triggers" ของแท็ก Google
      ตัวอย่าง
      "C_7c-ug1nyyfk": { "on": "visible", "vars": { "event_name": "conversion", "value": 200.0, "currency": "USD", "transaction_id": "", "send_to": ["AW-813068219/_XirCILNzJkDELvf2YMD"] } }
    3. เพิ่มโค้ดเพื่อส่งค่าไปยังพารามิเตอร์ "transaction_id" แบบไดนามิก เมื่อติดตามการซื้อ การขาย หรือโอกาสในการขายในเว็บไซต์ พารามิเตอร์นี้จะช่วยให้ระบบนับ Conversion แต่ละรายการเพียงครั้งเดียว
    4. เพิ่มโค้ดเพื่อส่งค่าไปยังพารามิเตอร์ "value" และ "currency" แบบไดนามิก ซึ่งจะช่วยให้คุณติดตาม Conversion ที่มีมูลค่าเจาะจงธุรกรรมได้ เช่น รายได้จากการขาย
    5. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ

ดูวิธีเพิ่มแท็ก Google ลงในเว็บไซต์

ตัวเลือกที่ 2: วิธีการสำหรับ Google Tag Manager

แสดงขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับโรงแรมใน Google Ads ด้วย Google Tag Manager

หากใช้ Google Tag Manager คุณจะติดตั้งใช้งาน gtag.js สำหรับโฆษณาโรงแรมได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. สร้างแท็กในบัญชี Google Ads
  2. ใช้รหัส Conversion และป้ายกำกับ Conversion เพื่อกำหนดค่าแท็กใน Google Tag Manager
  3. เพิ่มแท็ก Conversion Linker
  4. วางแท็กในหน้าเว็บทุกหน้า รวมถึงหน้า Conversion
  5. แก้ไขแท็กโดยระบุพารามิเตอร์ที่ต้องการ
หลังจากที่สร้างแท็กในบัญชี Google Ads ให้ใช้ตัวเลือกการติดแท็ก HTML ที่กําหนดเองเพื่อเพิ่มตัวแปรที่เกี่ยวข้อง (ดูขั้นตอนที่ 3: แก้ไขพารามิเตอร์แท็กเหตุการณ์ของโรงแรม) เราไม่แนะนำให้ใช้เทมเพลตของ Google Ads เนื่องจากไม่รองรับทุกตัวแปรของการรายงานแคมเปญโรงแรม

ข้อมูลโค้ดแท็ก Google ควรตั้งค่าให้ทำงานในหน้าทุกหน้ารวมถึงหน้าการยืนยัน และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ควรทำงานในหน้าการยืนยันเท่านั้น

สุดท้าย เราขอแนะนําให้เปิด Conversion Linker เพื่อให้ทำงานกับเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Tag Manager และอย่าลืมคำนึงถึงวิธีการสำหรับโรงแรมโดยเฉพาะด้วย

ขั้นตอนที่ 3: แก้ไขพารามิเตอร์แท็กเหตุการณ์ของโรงแรม

ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2024 แคมเปญโฆษณาโรงแรมใหม่จะใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ทั้งต่อการเข้าพักและต่อ Conversion) ไม่ได้อีก

ทั้งนี้แคมเปญโฆษณาโรงแรมที่ใช้งานอยู่ซึ่งมีกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันจะแสดงต่อจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ดูขั้นตอนถัดไปที่ควรทำได้จากหัวข้อกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันในโฆษณาโรงแรมจะหยุดให้บริการ

หากต้องการส่งข้อมูลการวัด Conversion ให้ติดตั้งพารามิเตอร์เพิ่มเติมเหล่านี้ในโค้ด
พารามิเตอร์ ประเภทค่า ค่าตัวอย่าง คำอธิบาย ต้องระบุ - ใช่/ไม่ใช่
'value' ทศนิยม 16.20

ใส่จำนวนเงินที่ผู้ใช้จะจ่ายแทน ‘value’ โดยใช้ราคาฐานหรือราคารวมก็ได้ ใช้ "." สำหรับตัวเลขทศนิยม เช่น "16.20"

หมายเหตุ: ค่านี้จะใช้สำหรับกลยุทธ์การเสนอราคา Smart Bidding

ใช่
'currency' สตริง ‘USD’

แทนที่ ‘currency’ ด้วยรหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรตามมาตรฐาน ISO 4217 ซึ่งแสดงสกุลเงินที่ใช้ในการจอง

รหัสสกุลเงินนี้จะใช้กับตัวแปร ‘value’

ใช่
'transaction_id' สตริง 'HA12345'

แทนที่ 'transaction_id' ด้วยหมายเลขอ้างอิงการจองหรือรหัสคำสั่งซื้อในแท็กการวัด Conversion เพื่อไม่ให้ระบบนับ Conversion ที่ซ้ำกัน

หมายเหตุ: ระบบจะไม่รายงานรหัสคำสั่งซื้อใน Google Ads

ไม่ (แนะนำ)
'id' สตริง ‘1234’ แทนที่ ‘id’ ด้วยรหัสที่พักของโรงแรมที่คุณต้องการบันทึกข้อมูล Conversion รหัสนี้ต้องตรงกับรหัสในรายการโรงแรม ไม่ใช่
'start_date' สตริง “2020-12-13” ใส่วันที่เช็คอินแทน ‘start_date’ โดยให้วันที่เป็นรูปแบบ YYYY-MM-DD ไม่ใช่
'end_date' สตริง “2020-12-13” แทนที่ ‘end_date’ ด้วยวันที่เช็คเอาต์ในรูปแบบ YYYY-MM-DD ไม่ใช่
หมายเหตุ: ตัวแปร Conversion เพียงรายการเดียวที่มีอยู่ในรายงานแคมเปญคือ 'value' และ 'currency' คุณไม่สามารถดูค่า 'transaction_id', 'id', 'start_date' หรือ 'end_date' ได้

ตัวอย่างแท็ก Google ที่กําหนดค่าแล้ว (สําคัญ)

ตรวจสอบไวยากรณ์ด้านล่างอย่างละเอียดสําหรับการติดตั้งใช้งานแท็ก ดูให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้อาร์เรย์ ‘item’ เพื่อรวมพารามิเตอร์โรงแรม (เช่น ‘id’, ‘start_date’ และ ‘end_date’)

ใส่แท็ก Google ในหน้าทุกหน้า รวมถึงหน้าการยืนยันเหนือข้อมูลโค้ดเหตุการณ์

หลังจากอัปเดตแท็ก Google แล้ว แท็กจะมีลักษณะดังนี้

<!-- Google Tag (gtag.js) - Google Ads -->

<script async src="https://googletagmanager.com/gtag/js?id=AW-GOOGLE_CONVERSION_ID"></script>

<script> window.dataLayer = window.dataLayer || [];

function gtag(){dataLayer.push(arguments)};
gtag('js', new Date());
gtag('config', 'AW-GOOGLE_CONVERSION_ID');
</script>
จากนั้นใส่ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ในหน้าการยืนยัน

หลังจากอัปเดตข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่ใช้ทั่วเว็บไซต์แล้ว ข้อมูลโค้ดจะมีลักษณะดังนี้

<script>

gtag('event', 'purchase', {

'send_to': [

'AW-GOOGLE_CONVERSION_ID/GOOGLE_CONVERSION_LABEL'

'transaction_id': 'BOOKING_ID',

'value': PRICE,

'currency': 'CURRENCY',

'items': [{

'id': 'PARTNER_HOTEL_ID',

'start_date': 'CHECK_IN_DATE',

'end_date': 'CHECK_OUT_DATE'

}]

});

</script>

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณไม่มีพารามิเตอร์ Conversion ของโรงแรม

หมายเหตุ: ส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ Performance Max สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยว

พารามิเตอร์โรงแรมให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการจองแต่ละรายการ เช่น รหัสโรงแรมที่จองและวันที่เข้าพัก นอกจากนี้ Google ยังใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น และแสดงการรายงานที่มีรายละเอียดมากขึ้น หากคุณใช้การเสนอราคาแบบค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) สําหรับแคมเปญโรงแรม ระบบจะใช้พารามิเตอร์เหล่านี้สําหรับการเรียกเก็บเงินด้วย เมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่พร้อมใช้งานกับข้อมูล Conversion ของ Google Ads เราจะใช้การตั้งค่า Conversion เริ่มต้นสำหรับ Conversion "value" และ "currency" ควบคู่กับพารามิเตอร์เวลาคลิก สำหรับวันที่เข้าพัก ("start_date" และ "end_date") และรหัสโรงแรม (‘id’) ในกรณีนี้ หากวันที่เช็คอินของเวลาคลิกอยู่ก่อนวันที่เกิด Conversion เราจะกำหนดค่าเริ่มต้นวันที่เช็คอินเป็นวันที่เกิด Conversion

วัด Conversion ของหลายบัญชี

หากต้องการนับเหตุการณ์เดียวกันเป็น Conversion สำหรับบัญชี Google Ads หลายบัญชี ให้ส่งสตริงรหัส Conversion หลายสตริงผ่านพารามิเตอร์ 'send_to' ของข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ Conversion

อีกทางเลือกหนึ่งคือพิจารณาใช้การวัด Conversion ข้ามบัญชีซึ่งอนุญาตให้คุณมีบัญชีดูแลจัดการ (MCC) เป็นเจ้าของการกระทำที่ถือเป็น Conversion และแชร์กับบัญชีย่อยอย่างน้อย 1 บัญชี คุณเพียงต้องใส่ตัวระบุ Conversion ตัวเดียวในข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัด Conversion ข้ามบัญชี ตรวจสอบว่าการติดแท็กอัตโนมัติเปิดอยู่

หมายเหตุ: เมื่อคุณสร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่ ระบบจะเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติให้เองหากคุณไม่ได้ใช้การวัด Conversion ข้ามบัญชี แต่หากใช้การวัด Conversion ข้ามบัญชี คุณจะต้องเปิดการติดแท็กอัตโนมัติในบัญชีย่อยแต่ละบัญชีด้วยตนเองตามขั้นตอนด้านบน

ตัวอย่างแท็ก Google

ตัวอย่างแท็ก Google

<!-- Google Tag (gtag.js)& →

<script async src="https://googletagmanager.com/gtag/js?id=AW-GOOGLE_CONVERSION_ID_1"></script>

<script> window.dataLayer = window.dataLayer || [];

function gtag(){dataLayer.push(arguments)};

gtag('js', new Date());

gtag('config', 'AW-GOOGLE_CONVERSION_ID_1');

gtag('config', 'AW-GOOGLE_CONVERSION_ID_2');

</script>

เปิดการติดแท็กอัตโนมัติ

ต้องเปิดการติดแท็กอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจคุณจะติดตาม Conversion ได้อย่างเหมาะสม ดูวิธีการตั้งค่าการติดแท็กอัตโนมัติสำหรับบัญชี

ทดสอบแท็กการวัด Conversion

หากต้องการสร้างคำสั่งซื้อทดสอบ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่ามีการส่งผ่านพารามิเตอร์หรือไม่

การแก้ไขข้อบกพร่องด้วยเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Chrome

  1. เปิดแท็บใหม่ใน Chrome
  2. คลิกไอคอน 3 จุด ที่มุมขวาบนของหน้าต่างเบราว์เซอร์ จากนั้นเลือกเครื่องมือเพิ่มเติม > เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์
    • หากไม่เห็นเมนู Chrome คุณสามารถเปิด "เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์" โดยกดปุ่มต่อไปนี้
      • Ctrl + Shift + i (ใน Windows)
      • Command + Shift + i (ใน Mac)
  3. คลิกแท็บเครือข่าย
  4. เปิดหน้าต่างเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทิ้งไว้
  5. ไปยังหน้าที่มีแท็กการวัด Conversion
  6. มองหาคำขอ: googleadservices.com
  7. ตรวจสอบส่วนประกอบของคำขอการวัด Conversion เพื่อยืนยันว่าคำขอนั้นตรงกับบัญชีและชื่อ Conversion ของคุณ

คำขอการวัด Conversion ทั้งหมดเริ่มต้นด้วยโครงสร้าง URL เดียวกัน ดังนี้

googleadservices.com/pagead/conversion/

คำขอแบบเต็มจะมีรูปแบบคล้ายกับลักษณะต่อไปนี้

http://googleadservices.com/pagead/conversion/123456789/

?

random=1309518235472
&cv=6
&fst=1309518235472
&num=1
&fmt=2
&value=0
&label=AAAAAAAAAAAAAAAAAAA
&bg=ffffff
&hl=it
&guid=ON
&u_ h=1200
&u_w=1920
&u_ah=1174&
u_aw=1920
&u_cd=24
&u_his=2
&u_tz=60
&u_
java=true
&u_nplug=19
&u_nmime=97
&url=http%3A//example.com/conversion-page.html

ตัวเลขที่ตามหลัง googleadservices.com/pagead/conversion/ ควรตรงกับรหัส Conversion และอักขระที่ตามหลัง googleadservices.com/pagead/conversion/ ควรตรงกับป้ายกำกับ Conversion หากไม่ตรง แท็กนี้ก็น่าจะผูกกับการกระทำที่ถือเป็น Conversion อื่น

ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณอาจต้องสร้างแท็ก Conversion ใหม่สำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้แล้ววางไว้ในเว็บไซต์ หรือสอบถามผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงโค้ดของเว็บไซต์ว่าได้ติดตั้งแท็กการวัด Conversion สำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion อื่นหรือไม่

ข้อควรทราบ

หากคุณเปลี่ยนไปใช้การวัด Conversion ข้ามบัญชี การกระทำที่ถือเป็น Conversion ที่ตั้งค่าไว้ในบัญชีที่จัดการจะหยุดติดตาม Conversion ของคลิกใหม่ไม่ว่าสถานะของแท็กจะเป็นอย่างไร การกระทำที่ถือเป็น Conversion จะยังติดตาม Conversion ของคลิกที่เกิดขึ้นก่อนที่คุณจะเปลี่ยนเครื่องมือต่อไปภายในกรอบเวลาของตัวเอง เมื่อเลือกใช้การวัด Conversion ข้ามบัญชี คุณจะติดตาม Conversion ได้เฉพาะในบัญชีดูแลจัดการเท่านั้น

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการติดตามเว็บไซต์

Google มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด ในโปรแกรมนี้ ระบบจะติดตามเฉพาะหน้าเว็บที่มีแท็ก Conversion ของ Google โดยใช้การเข้ารหัสข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย

โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ในการรวบรวม แชร์ และใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ในกรณีที่กฎหมายกําหนด โปรดปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งโดยการแก้ไขแท็ก Google สําหรับผู้ใช้บางราย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแท็ก Google

การวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

คุณใช้ Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อติดตามการติดตั้งแอปและการกระทำในแอปได้ และเช่นเดียวกับ Conversion ในเว็บไซต์สําหรับแคมเปญโรงแรม คุณต้องเปิดการติดแท็กอัตโนมัติ และตั้งค่าประเภท Conversion เป็น "การซื้อ" ในการตั้งค่า Conversion เพื่อใช้สําหรับ Smart Bidding

คุณจะต้องส่งพารามิเตอร์โรงแรมที่เกี่ยวข้องในภายหลัง เช่น วันที่เช็คอินหรือเช็คเอาต์และรหัสโรงแรม ผ่าน Firebase หรือ SDK ของบุคคลที่สาม เพื่อเริ่มติดตาม Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ตั้งค่าการวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย Firebase

Firebase เป็นแพลตฟอร์มบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้คุณสร้างแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดียิ่งขึ้นและพัฒนาธุรกิจให้เติบโต คุณสามารถส่งพารามิเตอร์โรงแรมที่จำเป็นผ่าน API ของ Firebase Analytics เพื่อตั้งค่าการวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับแคมเปญโรงแรมให้เสร็จสมบูรณ์

พารามิเตอร์ Firebase ประเภทค่า คำอธิบาย ตัวอย่าง
FirebaseAnalytics.Param.VALUE ทศนิยม

แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยจำนวนเงินที่ผู้ใช้จะจ่าย โดยใช้ราคาฐานหรือราคารวมก็ได้ ใช้ "." สำหรับตัวเลขทศนิยม (เช่น "16.20")

หมายเหตุ: ค่านี้จะใช้สำหรับกลยุทธ์การเสนอราคา Smart Bidding

Bundle params = new Bundle();

params.putDouble(Param.VALUE, 150.00);

params.putString(Param.CURRENCY, "USD" ); // e.g. $150.00 USD

FirebaseAnalytics.Param.CURRENCY สตริง

แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยรหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรตามมาตรฐาน ISO 4217 ซึ่งแสดงสกุลเงินที่ใช้ระหว่างการจอง

รหัสสกุลเงินนี้จะใช้กับตัวแปร ‘value’

Bundle params = new Bundle();

params.putString(Param.CURRENCY, "USD");

FirebaseAnalytics.Param.TRANSACTION_ID สตริง

แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยหมายเลขอ้างอิงการจองหรือรหัสคำสั่งซื้อในแท็กการวัด Conversion เพื่อไม่ให้ระบบนับ Conversion ที่ซ้ำกัน

หมายเหตุ: ระบบจะไม่รายงานรหัสคำสั่งซื้อใน Google Ads

Bundle params = new Bundle();

params.putString(Param.TRANSACTION_ID, "HA12345");

FirebaseAnalytics.Param.ITEM_ID สตริง แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยรหัสที่พักของโรงแรมที่คุณต้องการบันทึกข้อมูล Conversion รหัสนี้ต้องตรงกับรหัสในฟีดรายการโรงแรม

Bundle params = new Bundle();

params.putString(Param.ITEM_ID, "1234");

FirebaseAnalytics.Param.START_DATE สตริง แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยวันที่เช็คอิน โดยให้วันที่เป็นรูปแบบ YYYY-MM-DD

Bundle params = new Bundle();

params.putString(Param.START_DATE, "2022-09-10");

FirebaseAnalytics.Param.END_DATE สตริง แทนที่พารามิเตอร์นี้ด้วยวันที่เช็คเอาต์ โดยให้วันที่เป็นรูปแบบ YYYY-MM-DD

Bundle params = new Bundle();

params.putString(Param.END_DATE, "2022-09-14");

ตั้งค่าการวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย SDK ของบุคคลที่สาม

เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลในการตัดสินใจด้านการตลาดเกี่ยวกับแอป Google Ads จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปของบุคคลที่สามหลายรายเพื่อสนับสนุนรีมาร์เก็ตติ้งแบบไดนามิกของ Google สำหรับสคีมของแอป

หากคุณใช้งานผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามเหล่านี้รายใดรายหนึ่ง ให้ลิงก์ผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามกับ Google Ads เพื่อเปิดการสร้างกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ โปรดทำงานร่วมกับตัวแทนการวิเคราะห์แอปของบุคคลที่สามเพื่อตั้งค่า SDK ของแอป และสร้างประเภท Conversion "การซื้อ"

เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้ใช้การวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับแคมเปญโรงแรมโดยส่งพารามิเตอร์โรงแรมที่จำเป็นด้วยการใช้ออบเจ็กต์ JSON app_event_data เป็นส่วนหนึ่งของคำขอการวัด Conversion โดยค่าที่ยอมรับคือสตริงและอาร์เรย์ของสตริง

คุณควรเพิ่มพารามิเตอร์ต่อไปนี้ไปยัง app_event_data

  • start_date (ในรูปแบบ ปปปป-ดด-วว)
  • end_date (ในรูปแบบ ปปปป-ดด-วว)
  • item_id
  • transaction_id

คุณควรเพิ่มพารามิเตอร์ต่อไปนี้ไปยังระดับ Conversion

  • ค่า
  • currency_code

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัด Conversion ของแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
บรรลุเป้าหมายทางการตลาดด้วย Google Ads

Google Ads ช่วยให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่จะนำความสำเร็จมาให้คุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวความสําเร็จ เพื่อศึกษาว่าธุรกิจอื่นๆ ใช้แคมเปญที่เหมาะสมเพื่อการบรรลุเป้าหมายใดบ้าง

เริ่มต้นใช้งาน

หรือโทร 1-855-500-2754 เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
11577648154274789585
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false