แคมเปญ Search ช่วยให้คุณแสดงโฆษณาในเครือข่ายผลการค้นหาขนาดใหญ่ของ Google และแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ที่ตั้งใจค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณมีทางออนไลน์ได้ |
แคมเปญ Search เป็นหนึ่งในประเภทแคมเปญที่คุณใช้ได้ใน Google Ads |
ข้อดี
- บรรลุเป้าหมาย: แคมเปญ Search ช่วยให้คุณได้รับยอดขาย โอกาสในการขาย หรือการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น
- เข้าถึงการกำหนดเป้าหมายที่มีความเกี่ยวข้องสูง: กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่ตั้งใจค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการที่เฉพาะเจาะจงของคุณ
- สร้างได้ง่าย: สร้างโฆษณาได้ง่ายดายและไม่ต้องใช้ชิ้นงานพิเศษ
วิธีการ
1. สร้างแคมเปญใหม่และตั้งเป้าหมาย
เริ่มจากการสร้างแคมเปญใหม่ในบัญชี และการเลือกเป้าหมายสำหรับแคมเปญ
สร้างแคมเปญ Search และเป้าหมาย
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
- คลิกแคมเปญ
- คลิกไอคอนบวก เพื่อสร้างแคมเปญใหม่
- เลือกเป้าหมายเป็นยอดขาย โอกาสในการขาย หรือการเข้าชมเว็บไซต์
- หรือจะเลือกสร้างแคมเปญโดยไม่มีคำแนะนำของเป้าหมายก็ได้
- ในส่วน "เลือกประเภทแคมเปญ" ให้เลือก Search
- กรอกข้อมูลธุรกิจของคุณได้เพิ่มเติมในส่วน "เลือกวิธีที่ต้องการใช้บรรลุเป้าหมาย"
- คลิกต่อไป
- ให้กรอกชื่อแคมเปญในหน้าถัดไป
แคมเปญร่าง
- หากต้องการแก้ไขแคมเปญร่าง ให้ไปที่หน้าแคมเปญ
- คุณค้นหาแคมเปญร่างได้ที่ด้านบนของรายการแคมเปญ
- คลิกกลับมาทำงานอีกครั้งและดําเนินการต่อ
2. เลือกการตั้งค่าแคมเปญ
ตอนนี้คุณจะเลือกกลุ่มเป้าหมายของโฆษณา รวมถึงวิธีใช้งบประมาณ และวิธีปรับปรุงแคมเปญด้วยชิ้นงานได้แล้ว
เลือกการกำหนดเป้าหมาย
เมื่อคุณเลือกการกําหนดเป้าหมายเริ่มต้น ให้พิจารณาประเภทของผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อผลิตภัณฑ์ ลงชื่อสมัครใช้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ หรือเข้าชมเว็บไซต์ โปรดเลือกช่องรวมพาร์ทเนอร์ Google Search หากต้องการให้โฆษณาปรากฏบนเครื่องมือค้นหาอื่นๆ นอกเหนือจาก Google
- หากยกเลิกการเลือกช่องนี้ โฆษณาจะแสดงในหน้าค้นหาของ Google ในเครือข่าย Search แต่จะไม่แสดงในพาร์ทเนอร์ Search
- เลือกช่องเครือข่าย Display เพื่อขยายการเข้าถึงจากผลการค้นหาไปยังเว็บไซต์อื่นๆ
- โฆษณาส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะแสดงในการค้นหา แต่ Google จะพิจารณาโอกาสในการแสดงโฆษณาของคุณอย่างมีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์อื่นๆ ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา Display และเครือข่าย Display ของ Google
- คุณสามารถเลือกตัวเลือกสถานที่ตั้งเพื่อปรับการกำหนดเป้าหมายตามความสัมพันธ์ที่กลุ่มเป้าหมายมีต่อสถานที่ตั้งที่ต้องการได้
- เช่น การตั้งค่านี้อาจมีประโยชน์หากคุณทำการตลาดให้กิจกรรมในพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งผู้เข้าร่วมมาจากนอกเมือง ในกรณีนี้ คุณควรเลือกผู้ที่ค้นหาสถานที่เป้าหมาย
- เลือกสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่โฆษณาจะแสดง หรือสถานที่ที่คุณต้องการยกเว้น ดูวิธีกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
- การยกเว้นจะมีประโยชน์ในกรณีที่คุณกำหนดเป้าหมายในพื้นที่ที่กว้างขึ้นและไม่ต้องการรวมสถานที่ในพื้นที่ดังกล่าว เช่น คุณควรกำหนดเป้าหมายในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ยกเว้นรัฐหรือเมืองที่เจาะจง
- หากการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่แคบเกินไปและคลิกที่คาดการณ์มีค่าเป็น 0 คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้ขยายการกำหนดเป้าหมายตามสถานที่
- กรอกภาษาที่ต้องการกำหนดเป้าหมาย โฆษณาและคีย์เวิร์ดที่คุณจะสร้างควรเป็นภาษาที่คุณเลือกไว้ในส่วนนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดภาษาเป้าหมาย
- คุณเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่จะกำหนดเป้าหมายได้ตามข้อมูลประชากร ความสนใจ กิจกรรมออนไลน์ และรีมาร์เก็ตติ้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
- คลิกเรียกดูเพื่อดูตัวเลือกที่อาจเกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณ
ตั้งค่าการเสนอราคา
การกําหนดเป้าหมายเป็นตัวกําหนดผู้ที่จะเห็นโฆษณา ขณะที่การเสนอราคาเป็นตัวกําหนดสิ่งคุณต้องการให้ผู้ที่จะเห็นโฆษณาทํา
- ลองนึกย้อนกลับไปถึงเป้าหมายแคมเปญเมื่อเลือกการเสนอราคา ดังนี้
- หากต้องการเพิ่มยอดขายหรือโอกาสในการขาย ให้เน้นที่ Conversion ดูวิธีตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับเว็บไซต์
- หากต้องการการเข้าชมเว็บไซต์ ให้เน้นที่การคลิก
- หากตั้งค่า Conversion และกำหนดมูลค่าที่เจาะจงเรียบร้อยแล้ว คุณก็กำหนดงบประมาณสำหรับมูลค่า Conversion ได้ ซึ่งตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนจากค่าโฆษณาได้ตามต้องการ
- หากต้องการเพิ่มความถี่ในการแสดงโฆษณาสูงสุด ให้เลือกส่วนแบ่งการแสดงผล และตรวจสอบว่าโฆษณาแสดงในหน้าผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องตามจำนวนเปอร์เซ็นต์การเข้าชมที่กำหนด
- หากคุ้นเคยกับการเสนอราคามากกว่า คุณก็เลือกกลยุทธ์การเสนอราคาโดยตรงได้ ดูวิธีกำหนดกลยุทธ์การเสนอราคาตามเป้าหมายของคุณ
- คลิกแสดงการตั้งค่าเพิ่มเติมเพื่อเลือกตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปนี้
- Conversion: เลือกประเภท Conversion ที่คุณต้องการเสนอราคา
- ช่วงเวลาที่โฆษณาทํางาน: กําหนดวันและเวลาที่ต้องการให้โฆษณาแสดง
- การหมุนเวียนโฆษณา: เลือกว่าจะแสดงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าบ่อยขึ้น หรือจะแสดงโฆษณาทั้งหมดเท่าๆ กัน
เพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วยชิ้นงาน
ชิ้นงานโฆษณาช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับโฆษณาได้หลายวิธี เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ไซต์ลิงก์ หรือโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ชิ้นงานยังทำให้โฆษณามีขนาดใหญ่ขึ้นในผลการค้นหาอีกด้วย
- เลือกชิ้นงานโดยพิจารณาจากประโยชน์ที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะได้รับ ดังนี้
- ชิ้นงานไซต์ลิงก์: เลือกดูหน้าในเว็บไซต์ของคุณ
- ชิ้นงานข้อความไฮไลต์: ดูข้อเสนอและโปรโมชันพิเศษ
- ชิ้นงานการโทร: โทรหาธุรกิจของคุณ
- ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม: ดูรายการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณมี
- ชิ้นงานแอป: เข้าชมหรือดาวน์โหลดแอป
- ชิ้นงานโปรโมชัน: รับส่วนลดสําหรับผลิตภัณฑ์
- ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม: กรอกแบบฟอร์มเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ
- ชิ้นงานราคา: เลือกดูผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อดูราคา
- ชิ้นงานสถานที่ตั้ง: ดูสถานที่ตั้งของธุรกิจและขอเส้นทาง
- ชิ้นงานรูปภาพ: อัปโหลดภาพเพื่อเสริมโฆษณาแบบข้อความที่มีอยู่
- คุณสามารถสร้างชิ้นงานใหม่หรือเลือกชิ้นงานที่สร้างไว้แล้วก็ได้
- โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะแสดงชิ้นงานไซต์ลิงก์ ข้อความไฮไลต์ และการโทร คลิก ชิ้นงานโฆษณาเพื่อแสดงชิ้นงานที่ใช้ได้ทั้งหมด
- คลิกบันทึกและดำเนินการต่อเพื่อบันทึกการตั้งค่าแคมเปญและสร้างกลุ่มโฆษณา
เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญระหว่างที่สร้าง
ขณะสร้างแคมเปญ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนตามการตั้งค่าที่เลือก ซึ่งแจ้งให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจทําให้ประสิทธิภาพลดลงหรืออาจมีความร้ายแรงมากพอที่จะทําให้ไม่สามารถเผยแพร่แคมเปญได้
เมนูการนําทางสำหรับสร้างแคมเปญซึ่งปรากฏขึ้นขณะที่คุณสร้างแคมเปญแสดงภาพรวมของความคืบหน้าในการสร้าง และแสดงการแจ้งเตือนที่คุณอาจต้องจัดการ เลื่อนไปมาระหว่างขั้นตอนต่างๆ ในเมนูการนําทางเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมาย การเสนอราคา งบประมาณ หรือการตั้งค่าแคมเปญอื่นๆ อย่างง่ายดาย ดูวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ
3. สร้างกลุ่มโฆษณา
หลังจากเลือกการตั้งค่าแคมเปญแล้ว คุณจะต้องสร้างกลุ่มโฆษณา โดยแต่ละกลุ่มต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของคุณค้นหาทางออนไลน์
มีวิธีสร้างกลุ่มโฆษณา 2 วิธีดังนี้
- มาตรฐาน: คุณต้องกรอกชุดคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับคำค้นหาและสร้างโฆษณาให้ตรงกับคีย์เวิร์ดดังกล่าว
- ไดนามิก: Google จะใช้เนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณเพื่อกำหนดเป้าหมายคำค้นหาและสร้างโฆษณา
สร้างกลุ่มโฆษณามาตรฐาน
เลือก "ประเภทกลุ่มโฆษณา" เริ่มต้นเป็น "มาตรฐาน" โปรดทราบว่าคุณจะใช้กลุ่มโฆษณาได้ประเภทเดียวต่อแคมเปญเท่านั้น
- ตั้งชื่อกลุ่มโฆษณา
- กรอกคีย์เวิร์ดโดยคั่นด้วยการขึ้นบรรทัดใหม่ คีย์เวิร์ดจะเป็นตัวกำหนดผลการค้นหาที่โฆษณามีโอกาสแสดง
- รับแนวคิดเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดโดยกรอกผลิตภัณฑ์หรือบริการในส่วน "รับแนวคิดคีย์เวิร์ด" หรือคุณจะใช้เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกคีย์เวิร์ดก็ได้
- เลือกประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดเพื่อควบคุมว่าคำค้นหาแบบใดจะเรียกให้โฆษณาแสดง โดยค่าเริ่มต้น คีย์เวิร์ดจะจับคู่กับชุดการค้นหาที่เกี่ยวข้องแบบกว้างๆ หากต้องการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเฉพาะ คุณก็สามารถใส่อักขระในคีย์เวิร์ดเพื่อเปลี่ยนวิธีจับคู่กับการค้นหาได้ ดังนี้
- การทำงานแบบวลี: ใส่เครื่องหมายคำพูด " " คร่อมคีย์เวิร์ดเพื่อจับคู่คีย์เวิร์ดกับวลีหรือรูปแบบที่ใกล้เคียง
- การทำงานแบบตรงทั้งหมด: เพิ่มวงเล็บเหลี่ยม [ ] คร่อมคีย์เวิร์ดเพื่อให้กำหนดเป้าหมายคำค้นหาได้ตรงยิ่งขึ้น
- คีย์เวิร์ดเชิงลบ: ใส่เครื่องหมายลบ - หน้าคีย์เวิร์ดเพื่อยกเว้นคำค้นหา
- คลิกบันทึกและต่อไป
สร้างกลุ่มโฆษณาแบบไดนามิก
โปรดทราบว่าคุณจะใช้กลุ่มโฆษณาได้ประเภทเดียวต่อแคมเปญเท่านั้น
- ใน "ประเภทกลุ่มโฆษณา" ให้เลือกตัวเลือกไดนามิก
- ตั้งชื่อกลุ่มโฆษณา
- ระบุโดเมนของเว็บไซต์ ซึ่งอาจรวมถึงโดเมนหรือโดเมนย่อย
- เลือกหมวดหมู่ที่จะกำหนดเป้าหมาย (ถ้ามี) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายในโฆษณา Search แบบไดนามิก
- ระบุหน้าเว็บจากโดเมนหรือโดเมนย่อยที่คุณระบุไว้ข้างต้น
- เลือกหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกันมากพอที่จะโปรโมตด้วยโฆษณาที่คล้ายกัน
- นอกจากนี้คุณยังกำหนดเป้าหมายหน้าเว็บด้วยกฎต่างๆ ได้อีกด้วย
- เช่น หากคุณต้องการเน้นให้กลุ่มโฆษณาโปรโมตรองเท้า ให้สร้างโฆษณาสำหรับหน้าที่มีคำว่า "รองเท้า" ใน URL, เนื้อหา หรือชื่อ และสร้างโฆษณาตามหมวดหมู่เกี่ยวกับรองเท้าที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ได้ด้วย
- คลิก กลุ่มโฆษณาใหม่เพื่อเพิ่มกลุ่มโฆษณาอื่นๆ
- คลิกบันทึกและดำเนินการต่อเพื่อสร้างโฆษณาแบบไดนามิกให้เสร็จสิ้น
4. สร้างโฆษณา Search
เมื่อสร้างโฆษณา Search ปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด คุณจะต้องสร้างบรรทัดแรกและคําอธิบายให้ตรงกับคีย์เวิร์ดในกลุ่มโฆษณา
นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้สร้างโฆษณาอย่างน้อย 3 รายการต่อกลุ่มโฆษณา ดูวิธีเขียนโฆษณาแบบข้อความให้ประสบความสำเร็จ
สร้างโฆษณา Search
- กรอก URL สุดท้าย ซึ่งระบบจะนำไปยังหน้านี้เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา
- มีเฉพาะโดเมนเท่านั้นที่จะแสดงในข้อความของโฆษณาโดยค่าเริ่มต้น ดังนั้น หาก URL สุดท้ายเป็น “example.com/shoes” โฆษณาจะแสดง “example.com” แต่หากต้องการแสดง URL อื่นๆ ในโฆษณา ให้ระบุ URL ที่แสดง
- เขียนบรรทัดแรก 1-3 บรรทัด บรรทัดแรกจะเป็นข้อความสีน้ำเงินด้านบนของโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาแบบข้อความ
- คุณจะปรับ URL ที่แสดงในโฆษณาได้โดยเปลี่ยนเส้นทางที่แสดง URL ที่แสดงนี้จะไม่ส่งผลต่อหน้าที่ระบบจะนำผู้ใช้ไปเมื่อคลิกโฆษณา
- เขียนคำอธิบายภายใน 2 บรรทัด ซึ่งคุณจะอธิบายผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับลูกค้าได้ไม่เกิน 90 อักขระ
- คุณจะเพิ่มพารามิเตอร์การติดตามลงใน URL ได้ ส่วนเพิ่มเติมสำหรับ URL เหล่านี้จะช่วยให้ติดตามได้ว่าการเข้าชมมาจากที่ใด เช่น อุปกรณ์เคลื่อนที่
- คลิกเสร็จสิ้นเพื่อสร้างโฆษณานี้ให้เสร็จ
- คลิก โฆษณาใหม่เพื่อเพิ่มโฆษณาอื่นๆ ลงในกลุ่มโฆษณา
- เลื่อนดูกลุ่มโฆษณาต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้สร้างโฆษณาครบในทุกกลุ่มแล้ว
- คลิกบันทึกและต่อไป
- ในหน้าการตรวจสอบ คุณจะเข้าถึงรายการปัญหาที่อาจจํากัดประสิทธิภาพแคมเปญ
- คุณจะเห็นการแจ้งเตือนให้แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ เช่น
- ปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน
- คีย์เวิร์ดหรือโฆษณาหายไป
- URL สุดท้ายไม่ถูกต้อง
- คลิกแก้ไขเพื่อแก้ไขปัญหา
- เมื่อแคมเปญพร้อมแล้ว ให้คลิกปุ่มเผยแพร่
- คุณแก้ไขการตั้งค่า กลุ่มโฆษณา และโฆษณาได้ในหน้า "ภาพรวม"
สร้างโฆษณา Search แบบไดนามิก
เมื่อใช้โฆษณา Search แบบไดนามิก Google จะสร้าง URL สุดท้าย บรรทัดแรก และ URL ที่แสดง ทั้งนี้คุณยังคงปรับแต่งข้อความคำอธิบายโฆษณาได้
- เขียนคำอธิบายภายใน 2 บรรทัด ซึ่งคุณจะอธิบายผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับลูกค้าได้ไม่เกิน 90 อักขระ
- คุณจะเพิ่มพารามิเตอร์การติดตามลงใน URL ได้ ส่วนเพิ่มเติมสำหรับ URL เหล่านี้จะช่วยให้ติดตามได้ว่าการเข้าชมมาจากที่ใด เช่น อุปกรณ์เคลื่อนที่
- คลิกเสร็จสิ้นเพื่อสร้างโฆษณานี้ให้เสร็จ
- คลิก โฆษณาใหม่เพื่อเพิ่มโฆษณาอื่นๆ ลงในกลุ่มโฆษณา
- เลื่อนดูกลุ่มโฆษณาต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้สร้างโฆษณาครบในทุกกลุ่มแล้ว
- คลิกบันทึกและต่อไป
- ในหน้าการตรวจสอบ คุณจะเข้าถึงรายการปัญหาที่อาจจํากัดประสิทธิภาพแคมเปญ
- คลิกแก้ไขเพื่อแก้ไขปัญหา
- เมื่อแคมเปญพร้อมแล้ว ให้คลิกปุ่มเผยแพร่
- คุณแก้ไขการตั้งค่า กลุ่มโฆษณา และโฆษณาได้ในหน้า "ภาพรวม"
5. เลือกงบประมาณ
การกําหนดเป้าหมายเป็นตัวกําหนดผู้ที่จะเห็นโฆษณา ขณะที่การเสนอราคาเป็นตัวกําหนดสิ่งคุณต้องการให้ผู้ที่จะเห็นโฆษณาทํา แต่งบประมาณจะกําหนดจํานวนผู้ที่เห็นโฆษณาของคุณ
- ระบุงบประมาณรายวัน จำนวนงบประมาณนี้คือค่าเฉลี่ยที่คุณต้องการใช้จ่ายในแต่ละวัน
- Google จะแนะนําตัวเลือกงบประมาณหลายรายการโดยอิงจากแคมเปญต่างๆ ที่คล้ายกับแคมเปญใหม่ที่คุณกําลังสร้าง ซึ่งรวมถึงแคมเปญของผู้ลงโฆษณาที่คล้ายคลึงกันและแคมเปญก่อนหน้านี้ของคุณ หากมี นอกจากตัวเลือกงบประมาณที่แนะนําแล้ว คุณยังมีตัวเลือกในการกําหนดจํานวนงบประมาณเองด้วย
- ในวันที่คุณมีโอกาสได้รับคลิกและ Conversion มากขึ้น คุณก็จะใช้จ่ายมากขึ้นได้ แต่งบประมาณตลอดระยะเวลาทั้งเดือนจะเฉลี่ยให้เท่ากับจำนวนที่คุณระบุไว้ในส่วนนี้ ดูรายละเอียดได้ในบทความค่าใช้จ่ายและงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
ขั้นตอนถัดไป
เมื่อคุณตั้งค่าแคมเปญเสร็จแล้ว ระบบอาจใช้เวลา 2-3 วันเพื่อเริ่มแสดงโฆษณา ในกรณีปกติ โฆษณาจะได้รับอนุมัติภายใน 1 วันทำการ แต่อาจใช้เวลานานขึ้นเพื่อให้การเสนอราคาเพิ่มประสิทธิภาพได้เต็มที่
ในขั้นตอนต่อไป โปรดใช้คำแนะนำด้านล่างเพื่อช่วยให้คุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่ประสบความสำเร็จและแก้ไขปัญหาที่พบระหว่างดำเนินการ
เพิ่มประสิทธิภาพให้แคมเปญ
เข้าร่วมหลักสูตร Skillshop ที่ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโฆษณา Google Search สำรวจหลักสูตร |
- ดูวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ
- ดูวิธีใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Search
- ติดตาม Conversion ในเว็บไซต์เพื่อดูว่าคุณบรรลุเป้าหมายการโฆษณาหรือไม่