ในบทความนี้ เราจะสรุปเหตุผลที่ทำให้เกิดความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของแคมเปญ Demand Gen เหตุผลที่อาจทําให้แคมเปญมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และวิธีใช้เครื่องมือในบัญชี Google Ads เพื่อทําความเข้าใจถึงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ก่อนเริ่มต้น
ทุกแคมเปญมีความผันผวนในระดับหนึ่ง
ท้ายที่สุดแล้วก็คือการประมูล และเมื่อคู่แข่งปรับราคาเสนอและการกำหนดเป้าหมาย ก็อาจส่งผลต่อเมตริกแคมเปญของคุณ ในบทความนี้ สิ่งที่เรามุ่งเน้นคือการช่วยคุณระบุปัจจัยที่ควบคุมได้เพื่อให้แคมเปญทำงานได้ตามที่คาดไว้
ขอแนะนำให้ใช้ Smart Bidding ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนน้อยกว่า
แคมเปญต้องทดสอบระดับราคาเสนอและแหล่งที่มาของพื้นที่โฆษณาต่างๆ เพื่อเรียนรู้และทำงานจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในระดับสูงสุด แคมเปญอาจมีความผันผวนมากขึ้นเมื่อใช้ Smart Bidding แต่คุณก็อาจจะได้รับประโยชน์ด้านประสิทธิภาพในระยะยาวด้วย
ตอนนี้ Google Ads ช่วยคุณเตรียมพร้อมรับมือความแปรปรวนที่สูงขึ้นได้แล้ว
โปรดทราบว่าหาก Google Ads ตรวจพบความแปรปรวนในข้อมูลประสิทธิภาพของแคมเปญซึ่งเกินเกณฑ์หนึ่งๆ เราจะแสดงคําอธิบายในการรายงานแคมเปญเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คำอธิบายจะช่วยให้คุณทราบที่มาของความแปรปรวนได้อย่างรวดเร็ว โดยค่าเริ่มต้น คุณจะดูคำอธิบายที่เปรียบเทียบช่วงวันที่ที่คุณเลือกกับช่วงเวลาก่อนหน้าซึ่งมีระยะเวลาเท่ากันได้โดยทำดังนี้
- ไปที่หน้าแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
- วางเมาส์เหนือค่าสีน้ำเงินในตารางข้อมูลที่มีเส้นประ
- คุณจะทราบว่าค่านี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรนับจากระยะเวลาล่าสุด
- คลิกดูคําอธิบายเพื่อหาสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง
ประเมินประสิทธิภาพโดยอิงจากกลยุทธ์การเสนอราคาและเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพ
ก่อนที่จะสรุปประสิทธิภาพของแคมเปญ คุณต้องพิจารณาก่อนว่าเมตริกที่มุ่งเน้นสอดคล้องกับเมตริกที่แคมเปญกําลังเพิ่มประสิทธิภาพอยู่หรือไม่
ตัวอย่างเช่น CPA เป้าหมายช่วยให้คุณได้รับ Conversion มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามหรือไม่เกินต้นทุนต่อหนึ่งการกระทำ (CPA) ที่ตั้งไว้ ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญ CPA เป้าหมาย สิ่งที่มุ่งเน้นอันดับแรกควรเป็น CPA เป้าหมาย โดยคำนึงว่าระบบจะไม่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเมตริกอื่นๆ ที่มีความสำคัญรองลงมา เช่น ต้นทุนต่อคลิกหรือปริมาณการแสดงผล
สาเหตุที่พบบ่อย 9 ประการที่ทําให้ประสิทธิภาพผันผวน
1. การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในการตั้งค่าบัญชีหรือแคมเปญ
การแก้ไขการตั้งค่าบัญชีหรือแคมเปญ เช่น กลยุทธ์การเสนอราคา, งบประมาณ, เป้าหมาย Conversion, กลุ่มเป้าหมาย, สถานที่ตั้ง, ภาษา, ชิ้นงาน และการตั้งเวลาโฆษณาอาจเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพได้
2. การตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion และระยะเวลาก่อนที่จะเกิด Conversion
หากคําสั่ง ping ทั่วโลกเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็วหรือแท็กเริ่มทำงานสําหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion ที่แคมเปญใช้ใน Smart Bidding อาจส่งผลให้การแสดงผลและการใช้จ่ายลดลง เนื่องจาก Google Ads เพิ่มประสิทธิภาพของการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่คุณกําหนดไว้
3. ราคาเสนอและเป้าหมายราคาเสนอ
ประสิทธิภาพอาจผันผวนหากตั้งราคาเสนอโดยไม่พิจารณาข้อมูลย้อนหลังที่ Google Ads จะใช้เพื่อแสดงโฆษณา
4. การตั้งค่างบประมาณ
ประสิทธิภาพแคมเปญอาจมีแนวโน้มที่จะผันผวนมากขึ้นเมื่อจำกัดงบประมาณ
5. ความครอบคลุมและความหลากหลายของชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา
แคมเปญ Demand Gen ต้องมีชุดชิ้นงานที่หลากหลายซึ่งสามารถรวมกันเป็นโฆษณารูปแบบต่างๆ โดยอัตโนมัติเพื่อให้แสดงได้ในทุกแพลตฟอร์ม
6. การตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายและการซ้อนทับ (สถานที่ตั้ง ภาษา)
หากแคมเปญกําหนดเป้าหมายผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ที่มีการตั้งค่ากลุ่มสถานที่ตั้งหรือภาษาที่เฉพาะเจาะจงมาก ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่ประสิทธิภาพจะมีความผันผวน คุณอาจมีแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาหลายรายการในบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าสู่การประมูลที่ทับซ้อนกัน เนื่องจากมีการกําหนดเป้าหมายที่คล้ายกัน
7. สถานะการตรวจสอบนโยบายและโฆษณา
เมื่อใดก็ตามที่คุณเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงชิ้นงานหรือกลุ่มชิ้นงาน ระบบจะส่งรายการเหล่านั้นเข้ารับการตรวจสอบนโยบายอีกครั้ง แคมเปญ Demand Gen ต้องเป็นไปตามนโยบายของ Google Ads ทั้งหมด
8. ปัญหาอื่นเกี่ยวกับบัญชี
ปัญหาเกี่ยวกับการชําระเงิน การเปลี่ยนแปลงการเรียกเก็บเงิน หรือปัญหาระดับบัญชีอื่นๆ อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของบัญชีและประสิทธิภาพของแคมเปญ
9. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประมูล
ตัวเลือกที่ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ที่เข้าร่วมในการประมูลเดียวกันกับคุณเลือกอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแคมเปญ